‘น้องแอ๋ม’ เฮี้ยนหนัก! ยังเข้าฝันยังอยู่ในหลุม

10 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านพัก ม.10 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนางสำราญ เพลียแก่น อายุ 67 ปี ยายของน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ซึ่งถูกคนร้ายก่อเหตุฆ่าหั่นศพ ก่อนมีผู้มาพบศพในพื้นที่อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่รวมกันก่อเหตุได้แล้วทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว หัวหน้าทีมสวยหั่นศพ, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ และนายวศิน นามพรหม โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อร่วมพูดคุยกับคนในครอบครัวของผู้ตาย หลังพบว่าเตรียมการที่จะทำพิธีเรียกดวงวิญญาณผู้ตายอีกครั้งในพื้นที่พบศพ

นางสำราญ บอกว่า ครอบครัวเตรียมประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้องแอ๋มอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาได้ประกอบพิธีไปแล้วตามความเชื่อของคนอีสาน แต่น้องแอ๋มยังคงมาเข้าฝันคนในครอบครัว แม้จะประกอบพิธีณาปนกิจศพไปแล้วที่บ้านเกิดในจ.ชัยนาท และทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ตายอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อสอบถามคนในครอบครัวล้วนต่างยังคงมีน้องแอ๋มมาเข้าฝันทุกครั้งเพื่อขอให้ช่วย ขณะเดียวกันยังคงมีร่างทรงในหมู่บ้านมาทักว่า การทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้ตายครั้งก่อนเป็นการทำที่ไม่ถูกวิธี วิญญาณผู้ตายยังคงอยู่ในหลุมฝังศพ ซึ่งนั่นก็คือจุดที่มีผู้มาพบศพ

"เหลือเพียงแม่ของแอ๋มและครอบครัว วันใดว่างจะนิมนต์พระในหมู่บ้านที่พบศพ รวมทั้งร่างทรงที่มาทักนั้นเดินทางไปประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณน้องแอ๋มอีกครั้ง เพื่อขอให้กลับบ้าน ขณะที่การทำบุญ 100 วันให้กับน้องแอ๋ม ครอบครัวได้ปรึกษาหารือกันในการประกอบพิธีอย่างเรียบง่าย"

นางสำราญ กล่าวต่ออีกว่า แม้เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ครบทั้งหมด 5 คน แต่ยังคงไม่สบายใจ เพราะเชื่อว่ายังคงมีผู้ร่วมขบวนการที่ยังคงไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม จึงอยากให้เจ้าหน้าที่สืบสนสอบสวนและสาวไปถึงตัวให้ได้ เพราะก่อนที่ผู้ตายจะเดินทางมาที่จ.ขอนแก่น มีเพือนโทรศัพท์ชักชวนให้น้องแอ๋มกลับมาทำงานที่จ.ขอนแก่น แม้จะถูกสามีของน้องแอ๋มปฎิเสธก็ตาม อีกทั้งหลังเกิดเรื่องเพื่อนคนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ขณะเดียวกันจะปรึกษาทีมทนายความ ในการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับเปรี้ยว ผู้ต้องหารายสำคัญ ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังออกมาระบุว่าครอบครัวหากินกับน้องแอ๋ม ซึ่งส่งผลให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ทนายความอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดแล้ว

Cr.khaosod