"ผู้ตายพักและทำงานในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ทำให้มีความเป็นไปได้มากที่คนร้ายจะลงมือก่อเหตุจากในตัวเมืองทุกขั้นตอนตั้งแต่การวางแผน การฆาตกรรม การหั่นศพ การบรรจุถุงพลาสติกและถังพลาสติกสีดำ ก่อนนำไปฝังไว้ใน พื้นที่ อ.เขาสวนกวาง แต่จุดที่ฝังและเส้นทางที่ใช้ในเส้นทางที่ฝังศพนั้น สันนิษฐานว่าต้องเป็นคนในพื้นที่ ที่รู้เส้นทางและมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี"
พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้จากจุดที่พบศพ ประกอบด้วย ถังดำ, ถุงดำ, เชือกจูงสุนัข, ปูนซีเมนต์, เสียมขนาดใหญ่, ซองใส่ใบเลื่อย ทั้งหมดคนร้ายน่าจะซื้อจากร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง มีเพียงเชือกจูงสุนัขเท่านั้นที่อาจจะซื้อแยกร้านกัน ทำให้แนวทางการสืบสวนต้องโฟกัสไปที่คนร้ายต้องเป็นคนที่รู้จักเส้นทางและเตรียมการมาอย่างดี อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าทุกฝ่ายกำลังรวบรวมหลักฐานจากที่เก็บรวบรวมมาได้ทั้งหมด ว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง จากนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะออกหมายเรียกมาสอบสวน ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ตายทั้งนั้น รวมถึงเบาะแสใหม่ที่ได้จากสามี และเบาะแสจากพลเมืองดีที่แจ้งมาอีกว่าผู้ตายเคยคบหากับชายอื่นและยังคงติดต่อส่งเสียเลี้ยงดูกันอยู่ รวมทั้งสาวทอมอีกหลายคน ซึ่งจะมีการตรวจสอบรายละเอียดเพื่อเชื่อมโยงคดีอีกครั้ง
"วันนี้มีการเรียกสอบปากคำเพิ่มเติม น.ส.อภิชญา ยันทูล หรือน้องป้อปปี้ โดยเป็นการสอบปากคำและสอบสวนเพิ่มเติมของชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ขณะที่ พนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ยังไม่พบพิรุธใดๆ ทั้งนี้การสอบปากคำทั้งหมดขณะนี้รวมแล้ว 9 ราย ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม คาดว่าน่าจะก่อเหตุร่วมกันทั้งชายและหญิง ที่มีมากกว่า 5 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีคนต้องสงสัยที่ชัดเจนแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้"
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวด้วยว่่า มีการพบเบาะแสล่าสุด ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นผู้ตาย ขึ้นรถซีอาร์วี ก่อนหายตัวไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ครอบครัวของน้องแอ๋ม ได้ประสานขอรับศพส่วนศพ จากสถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดที่ จ.ชัยนาทแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา