15.30 น. วันที่ 31 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เขาสวนกวาง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวมไปถึงชุดสืบสวนสอบสวนยังคงทำการสอบปากคำนายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/7 ม.2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.2 ต.หัวทุ่ง อ.พล จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ และรับของโจร อย่างต่อเนื่อง ภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ได้ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสื่อมวลชนขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร พร้อมทั้งการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นประตูทางขึ้นและลงไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัย
พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราษฎร์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เขาสวนกวาง กล่าวว่า การสอบสวน น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ นั้น ยืนยันว่าในวันที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ กรุงเทพฯ โดยคืนวันที่ 23 พ.ค. นายวศิน พร้อมด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว และ น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิน ได้เดินทางไปหาที่กรุงเทพฯและพักด้วยกัน และในวันที่ 24 พ.ค.นายวศิน ,น.ส.เอิน ,นส.เปรี้ยว และ น.ส.เบนซ์ ได้พากันไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่าน รามอินทรา กรุงเทพฯ ก่อนที่นายวศิน จะยื่นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 6 ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม ให้กับ น.ส.เบนซ์ พร้อมทั้งบอกว่าเป็นของ น.ส.เปรี้ยว ให้เอามาขาย น.ส.เบนซ์ จึงนำไปขายในราคา 3,500 บาท เมื่อได้เงินมา นายวศิน ก็เอาไป และพากันเที่ยวเล่นจากนั้นก็กลับที่พัก และในคืนวันที่ 24 พ.ค. น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ อายุ 28 ปี ได้เดินทางไปสมทบ จากนั้นก็พากันเที่ยวในเขตกรุงเทพฯ จนกระทั่งวันที่ 25 พ.ค. น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิน และ นส.แจ้ ก็พากันนั่งเครื่องบินขอนแก่น ส่วนนายวศิน นั่งรถทัวร์กลับขอนแก่นเช่นกัน ขณะที่ น.ส.เบนซ์ นั่งรถทัวร์ไปทำงานที่ จ.อุบลราชธานี
" ในส่วนของ นส.เบนซ์ นั้น จากการสอบสวนมีความชัดเจนแล้วว่า ไม่มีการเกี่ยวข้องในการลงมือฆ่าหรือหั่นศพน้องแอ๋มแต่อย่างใด เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดว่า น้องเบนซ์ ไม่ได้อยู่ในรถหรือรับคนตายไปฆ่าทิ้ง จึงเกี่ยวข้องกันเฉพาะการขายโทรศัพท์มือถือของคนตายเท่านั้น ซึ่งในจุดนี้ นส.เบนซ์ ทราบเพียงว่า โทรศัพท์มือถือเป็นของ น.ส.เปรี้ยว ตามคำบอกเล่าของนายวศิน เท่านั้น เมื่อทราบว่า ตัวเองถูกออกหมายจับว่าพัวพันการตายของ น.ส.แอ๋ม จึงติดต่อขอเข้ามอบตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้การปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหา"
พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ กล่าวต่ออีกว่า ในชั้นพนักงานสอบสวน ขณะนี้การสอบสวน น.ส.เบนซ์ ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ แล้ว และได้มีการส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งหากญาติขอประกันตัว ตำรวจก็ไม่คัดค้าน แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ สำหรับการสอบสวนของนายวศิน นั้น ในชั้นพนักงานสอบสวนยังต้องสอบสวนอย่างละเอียด เพราะถือเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่ร่วมอยู่ในการสังหารผู้ตาย และยังคงขอคัดค้านการประกันตัวต่อไป
ขณะที่ นางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย มารดาของน้องแอ๋ม บอกว่า ยังคงยืนยันว่าลูกสาวไม่มีส่วนพัวพันกับคดียาเสพติด และเชื่อมั่นในตัวลูกสาวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ทั้งนี้ จากการพูดคุยกันทราบเพียงว่า ในช่วงที่น้องแอ๋ม คบหากับทอมคนหนึ่งนั้น แฟนทอม เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและตรวจปัสสาวะ ก่อนที่จะถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติด จากนั้นก็ไม่ทราบว่ารายละเอียดใดๆ ดังนั้น การที่มีการระบุว่าลูกสาวพัวพันกับคดียาเสพติด จนกลายมาเป็นปมสังหารครั้งนี้ โดยส่วนตัวและครอบครัวไม่เชื่อในประเด็นนี้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าพนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง ได้ทำการรวบรวพยานหลักฐานต่างเพื่อขอนุมัติหมายจับ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ อายุ 28 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ และรับของโจร ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับเช่นกัน โดยข้อมูลต่างๆทางเจ้าหน้าที่ยังคงไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากจะกระทบต่อรูปคดีและแนวทางการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่