เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์วิเคราะห์ฉลามดำ กก.3 บก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก สส.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ร่วมกันสอบปากคำเพิ่มเติม น.ส.อภิชญา ยันทูล หรือป๊อปปี้ อายุ 22 ปี โดยมี นางเครือมาส ยันทูล และนายบัวรัตน์ ยันทูล พ่อและแม่ของน้องป๊อปปี้ เข้าพบเจ้าหน้าที่และให้ข้อมูลด้วย โดยเฉพาะประเด็น ความสัมพันธ์กับ "น้องแอ๋ม" หนือ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี พนักงานร้านคาราโอเกะ สถานบันเทิงชื่อดังของ จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกคนร้ายฆ่าหั่นศพ ก่อนนำมาบรรจุถุงพลาสติกและยัดใส่ถุงดำไว้อีกชั้น และนำมาฝังดินเพื่ออำพรางคดี บริเวณป่าสาธารณะริมถนน ในเขต ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จนกระทั่งงมีผู้มาพบเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.อภิชญา ยันทูล หรือน้องป๊อปปี้ กล่าวว่า คบหากับผู้ตายมาประมาณ 3 ปี จนกระทั่งผู้ตายไปแต่งงานกับ นายศักดิ์ชัย บาทเต็มดี อายุ 35 ปี โดยในช่วงที่ผู้ตายไปแต่งงานได้เลิกคบกัน แต่ก็มีบ้างที่ผู้ตายโทรศัพท์มาพูดคุยเรื่องต่างๆ ตามประสาคนรุ้จักกัน แต่เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ติดต่อมาว่าจะมาทำงานที่ขอนแก่น ซึ่งก็ได้เตือนไปว่าให้คิดดีดี แต่ในที่สุดผู้ตายก็เดินทางมาจึงได้ไปเช่าอพาร์ทเมนท์และพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
"ในช่วงที่อยู่ที่ขอนแก่น ผู้ตายได้ไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะ ขณะที่ตัวเองทำงานเป็นเด็กเสริฟที่สถานบันเทิงอีกแห่งหนึ่ง โดยต่างคนต่างทำงาน และก็รู้ว่าผู้ตายก็คบหาและคุยกับสาวทอมอีกหลายคน ส่วนสามีนั้นก็ยังมีการติดต่อกันตลอด จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค. ได้พาน้องแอ๋มไปเสริมสวย ปั้มกุญแจห้องพักแบ่งกันคนละดอก แล้วก็ไปส่งคนตายที่หอพัก ตัวเองก็ออกไปทำงาน เลิกงานกลับห้อง แต่น้องแอ๋มไม่กลับ จึงทักเฟซบุ๊คไป ผู้ตายบอกว่าอยู่กับเพื่อน เที่ยวกับเพื่อน แต่ไม่บอกว่าอยู่กับใคร จนถึงเวลา 04.00 น.วันที่ 22 พ.ค.ขณะเดินทางกลับที่พักขณะเปิดกุญแจห้อง พบว่ากุญแจหัก จึงเข้าห้องไม่ได้ จึงได้ ติดต่อผู้ตายให้นำกุญแจมาให้ แต่ผู้ตายได้ให้ชายวัยรุ่น 3 คน ขับรถจักรยานยนต์นำกุญแจมาให้จากนั้นก็พักผ่อนตามปกติ"
น.ส.อภิชญา กล่าวต่ออีกว่า ติดต่อน้องแอ๋มได้ครั้งสุดท้าย เมื่อเวลา 06.22 วันที่ 23 พ.ค.โดยผู้ตายบอกว่ายังอยู่กับเพื่อน จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงรีบโทรศัพท์แจ้งพ่อและแม่ของตนเอง รวมทั้งแม่ของผู้ตาย และได้แจ้งความคนหาย เวลา 14.00 น.วันที่ 24 พ.ค.จนกระทั่งมีผู้มาพบศพและมีรอยสักรวมทั้งรูปพรรณตรงตามกับน้องแอ๋ม
"หนูเสียใจมาก เพราะแอ๋มคือหญิงสาวที่คบหากันมานาน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็สนิทกัน ไม่มีฝ่ายใดกีดกัน ทุกคนรักเหมือนคนในครอบครัว คนที่ทำกับแอ๋มแบบนี้ ต้องมีมีจิตใจที่โหดเหี้ยมทารุณที่สุด จึงอยากขอให้ตำรวจสืบสวนจับกุมคนร้ายโดยเร็ว"
พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.3 บก.สส.ภ.4 กล่าวว่า ขากการสอบปากคำทั้งในส่วนของสาวทอมที่พักอาศัยด้วยกันที่ขอนแก่น คือน้องป๊อปปี้ และ สามีของผู้ตาย ยังคงไม่พบพิรุธหรือสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างไรยังคงมีข้อมูลเพิ่มเติมจากชุดสืบสวยนที่ลงพื้นที่คือพบว่าผู้ตายขึ้นรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่งไป ซึ่งข้อมูลต่างๆยังคงเป็นรายละเอียดในการสืบสวน