เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ติดตามจับกุม น.ส.กวิตา อายุ 25 ปี และ น.ส.ปรียานุช อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะ ต.คำม่วง อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังสืบทราบว่าได้หลบหนีไปอยู่ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย นั้นปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาปิดด่านพรมแดนเวลา 21.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา กลับไม่มีการส่งตัวผู้ต้องหาทั้งคู่มาจากทางเจ้าหน้าที่ฝั่งเมียนมาผ่านด่านพรมแดน อ.แม่สาย ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายมาแต่อย่างใด ทำให้มีการปิดด่านพรมแดนและเปิดอีกครั้งในเวลา 06.30 น. ตามปกติ
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เมียนมาจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก แจ้งว่าภายหลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยแล้วทางเจ้าหน้าที่เมียนมายังไม่สามารถเข้าไปจับกุมผู้ต้องหาในคดีของไทยได้โดยตรง เพราะต้องประสานงานผ่านคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซีร่วมไทย-เมียนมา เสียก่อน กระทั่งหัวค่ำที่ผ่านมาตำรวจเมืองท่าขี้เหล็กได้รับคำสั่งให้เข้าไปจับกุมตัวทั้งคู่ได้ แต่ปรากฏว่าไม่พบ น.ส.กวิตา และ น.ส.ปรียานุช อยู่ที่จุดที่ได้รับแจ้งดังกล่าวแล้ว โดยได้เดินทางออกไปจากหอพักเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เมียนมาได้สอบถามคนในร้าน ทราบว่าได้มีชายไทย 1 คนขับรถไปรับหญิงสาวทั้งคู่ออกไป โดยไม่ทราบจุดหมาย ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่เมียนมาและไทยต่างออกติดตามค้นหาตัวผู้ต้องหารายนี้ทั้ง 2 ฝั่งประเทศอย่างหนัก โดยจนถึงช่วงสายยังไม่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวทั้งคู่ได้แล้วหรือไม่
สำหรับจุดที่ได้รับแจ้งว่าพบตัวทั้ง 2 คนดังกล่าวเป็นห้องพักภายในหอพักแห่งหนึ่งตั้งอยู่ติดร้านสตาร์แทรค คาราโอเกะ ซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงที่มีทั้งคาราโอเกะ อาบอบนวด ร้านอาหาร ฯลฯ ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 6 กิโลเมตร โดยห้องพักถูกใช้เพื่อพนักงานบางส่วนของร้านและมีผู้พบทั้งคู่เดินทางด้วยรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว เข้าไปพักอยู่ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทั้งคู่ออกชายแดนไปโดยใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือ border pass ซึ่งสามารถอยู่ในประเทศเมียนมาได้เพียง 7 วันเท่านั้น