อนุทินไม่สน คำขู่ของอันวา ให้หยุดยิงก่อน4ทุ่ม

ความเคลื่อนไหวจากฝั่งมาเลเซียและกัมพูชา เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 ธันวาคม 2568 สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชามีประเด็นที่น่าจับตามอง เมื่อนายอันวาร์ อิราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตนได้หารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และได้ต่อสายตรงพูดคุยกับผู้นำของทั้งไทยและกัมพูชา โดยยื่นข้อเสนอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดกลั้นสูงสุดและ "ยุติการสู้รบ" ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของคืนนี้เป็นต้นไป พร้อมเสนอให้ส่งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) และใช้ดาวเทียมสหรัฐฯ เข้ามาตรวจสอบความโปร่งใส

ทันทีที่ข้อเสนอดังกล่าวถูกเผยแพร่  ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยระบุว่ากัมพูชายินดีสนับสนุนการหยุดยิงตามคำแนะนำของผู้นำมาเลเซีย

ท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาลไทย อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธข่าวดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง โดยยืนยันว่า "ไม่มีการตกลงเรื่องหยุดยิงในเวลา 22.00 น." ตามที่นายอันวาร์กล่าวอ้าง

นายอนุทิน ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจริง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ระบุว่าจะต้องทำข้อตกลงหยุดการดำเนินการใดๆ พร้อมย้ำว่าข่าวสารที่ถูกต้องต้องมาจากแถลงการณ์ของกองทัพไทยเท่านั้น แหล่งข่าวอื่นไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้าง

เงื่อนไขและจุดยืนของไทย นายอนุทินได้กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังถึงเงื่อนไขในการยุติข้อพิพาทว่า การเจรจาผ่านโซเชียลมีเดียหรือให้ผู้นำประเทศอื่นมาพูดแทนนั้นไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง หากกัมพูชาต้องการหยุดยิงจริง ต้องเป็นฝ่ายเสนอเรื่องมาที่ประเทศไทยโดยตรง และต้องแสดงความจริงใจด้วยการถอนกำลังและความพร้อมในการรบ ไม่ใช่ปากบอกหยุดยิงแต่อาวุธยังเล็งเป้ามาที่ประเทศไทย

"สามัญสำนึกปกติ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะบอกว่า 4 ทุ่มต่างคนต่างถอย เพราะเราถูกรุกราน ฝ่ายที่เริ่มต้องหยุดความพร้อมทุกอย่าง แล้วถอยกลับไป ไทยจะเป็นผู้ประเมินเองว่าสถานการณ์พร้อมคุยหรือไม่" นายอนุทินกล่าว

ความสูญเสียและประเด็นประชาชนตกค้าง นอกจากประเด็นทางการทหาร นายอนุทินยังแสดงความกังวลกรณีที่กัมพูชาไม่เปิดด่านให้คนไทยเดินทางกลับประเทศ โดยระบุว่าไทยมีแผนเผชิญเหตุรองรับไว้แล้ว และหวังว่าจะไม่ถึงขั้นนำประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นตัวประกัน

ในช่วงท้าย พลเอกชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ได้กล่าวเสริมเพื่อเตือนสติถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยระบุถึงกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปะทะไปแล้วถึง 15 นาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์มีความรุนแรงและละเอียดอ่อนเกินกว่าจะใช้เพียงคำพูดลอยๆ ในการยุติปัญหา