พล.ต.ต.สุทธิกล่าวว่า ส่วนทางด้านร.ต.ท.จรูญ ที่เป็นผู้นำรางวัลไปเบิกเงินเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเอาไว้แล้ว และยังได้สอบปากคำลูกและภรรยาของหมวดจรูญที่รู้เห็นว่าหมวดจรูญไปขึ้นเงินและถูกรางวัล ซึ่งทั้งหมดเป็นพยานบุคคลที่เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำทั้งสองฝ่าย
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีกล่าวว่า การสืบสวนหาข้อเท็จจริงนั้นช่วงแรก ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่มีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 แต่ปรากฏว่าบริเวณจุดที่ขายไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งกล้องวงจนปิดที่อยู่รอบๆบริเวณก็ยังพอมี แต่จากการตรวจสอบพบว่าภาพจากกล้องนั้นลบไปแล้ว เพราะห่างกันเป็นเวลาหลายวัน สำหรับกรณีการสั่งอายัดเงิน 20 ล้านที่อยู่ในธนาคารนั้น พนักงานสอบสวนมีอำนาจที่จะยึดหรืออายัดทรัพย์ที่ได้มาโดยผิดกฎหมายอยู่แล้ว
พล.ต.ต.สุทธิกล่าวว่า ส่วนประเด็นที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมทำเป็นขบวนการนั้น ตนตอบได้เลยว่าไม่มี และไม่ทราบว่าใครเป็นคนพูดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันทำเป็นขบวนการ เมื่อไม่มีหลักฐานแล้วมากล่าวอ้างจะทำให้เกิดความเสียหาย และถ้าหากเกิดความเสียหายก็จะต้องมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น สำหรับแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายผู้หมวดจรูญ และฝ่ายของอาจารย์ปรีชา โดยหากทั้งสองฝ่ายมีหลักฐานเพิ่มเติมและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาทั้งสองฝ่าย