ทนายความ ช่วยเหลือ ‘ลุงถูกหวย 30 ล้าน’ กลายเป็นผู้ต้องหาขโมยลอตเตอรี่(คลิป)
จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูพิเศษชำนาญการ ร.ร.เทพมงคลรังษี อ.เมืองกาญจนบุรี ถูกรางวัลลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 หมายเลข 533726 งวดประจำวันที่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 แต่กลับทำหายและถูกผู้แอบอ้างมาเบิกไปแล้ว
ต่อมานายปรีชาพร้อมด้วย นางรัตนาพร สุภาทิพย์ อายุ 58 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ และ นางสาวพัชริดา พรมตา อายุ 53 ปี ยี่ปั๊วะลอตเตอรี่ เดินทางพบผู้สื่อข่าวบริเวณสวนรุกชาติเทศบาลตำบลท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
โดย นายปรีชาเปิดเผยว่า "งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ตนได้สั่งให้นางรัตนาภร แม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่สนิทกัน ช่วยเก็บเลขท้าย 26 ซึ่งเป็นเลขมงคลเอาไว้ให้ตน เมื่อไปรับสลากลอตเตอรี่ก็นำเก็บใส่กระเป๋าเสื้อและนำเก็บต่อยังกระเป๋าในรถยนต์ หลังจากนั้นพบว่าตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัลรวม 30 ล้านบาท จึงรีบกลับไปตรวจสอบในกระเป๋าแต่ไม่พบ
จากนั้น (2 พ.ย.) จึงได้เดินทางไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี และวันที่ 3 พ.ย. 60 ได้เดินทางไปสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่ออายัดการเบิกจ่าย แต่ได้รับแจ้งว่ามีข้าราชการตำรวจนอกราชการเบิกออกไปแล้วจำนวน 4 ล้านบาท ตนอยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์กับผู้ที่ชอบเสี่ยงโชค หลังซื้อขอให้ตรวจสอบเลขที่ซื้อ พร้อมทั้งถ่ายภาพเลขลอตเตอรี่ที่ซื้อเอาไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน
ด้าน นางรัตนาพร แม่ค้าลอตเตอรี่ กล่าวว่า "จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายปรีชา ตนได้ถ่ายภาพเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานและสามารถยืนยันได้ว่าได้ซื้อจากตนจริงๆ"
อีกมุมหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 60 ทาง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจเกษียณคนหนึ่ง ที่ถูกหวย 30 ล้านบาท ได้เอาเงินฝากเข้าบัญชี แล้วแบ่งส่วนหนึ่งใช้หนี้บ้าน หนี้รถ เงินที่เหลือตั้งใจเก็บไว้ให้ลูกและใช้ในบั้นปลายชีวิต
แต่แล้ววันที่ 28 พ.ย. 60 ได้มีตำรวจเชิญไปพบแล้วแจ้งว่า คุณลุงเป็นผู้ต้องสงสัยว่าขโมยลอตเตอรี่ของคุณครูท่านหนึ่งไป เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดเงิน 20 กว่าล้านบาทของคุณลุงไป คุณลุงพยายามบอกแล้วว่าตนซื้อมาเองด้วยเงินสุจริต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ อ้างว่ามีหลักฐานว่าคุณครูไปซื้อ เพราะมีแม่ค้าล็อตเตอรี่มายืนยันว่าขายให้ครูจริง
คุณลุงทุกข์ใจมากที่จู่ๆ ก็จะต้องเป็นผู้ต้องหา ต้องติดคุกเพราะมีคนมาอ้างว่าตนขโมยลอตเตอรี่ไป มีเจ้าหน้าที่ธนาคารระดับสูงท่านหนึ่งเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลว่าน่าจะเป็นขบวนการสมอ้างมาเป็นคนถูกลอเตอรี่
ทนายษิทราเล่าว่า "วันที่ลุงมาหา ผมก็พยายามค้นหาความจริง โดยขู่คุณลุงว่าหากโกหก ผมจะไม่ช่วย และเรื่องอาจจะเลวร้ายกว่าเดิม คุณลุงอาจต้องติดคุก แต่คุณลุงก็ยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง ผมจึงต้องไปหาหลักฐานถึงกาญจนบุรี และฟังความอีกครั้งหนึ่งเพื่อพิจารณาว่าเรื่องที่คุณลุงเล่ามาเป็นความจริงหรือไม่?
วันที่ 3-4 ธันวาคม 60 ผมจึงต้องลงพื้นที่ เพื่อสอบถาม บุคคลข้างเคียงซึ่งรู้จักกับทั้งสองฝ่าย ว่าลักษณะนิสัยของทั้งคู่เป็นอย่างไร และมีโอกาสได้ไปคุยกับคุณครูซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ซื้อลอตเตอรี่ตัวจริง คุณครูกล่าวว่า "ตนเป็นผู้ซื้อรางวัล โดยมีหลักฐานแน่นหนา เพราะว่าเคยคุยไลน์กับทางคนขายลอตเตอรี่ว่าจะซื้อเลข 26 และคนขายลอตเตอรี่ก็ยืนยันว่าตนได้ซื้อเลขที่ถูกรางวัลที่ 1 จริง โดยสามารถจำเลขที่ขายให้คุณครูได้ทุกตัวทุกฉบับ แต่ถ้าคุณลุงจะเจรจา ตนยินดีที่จะแบ่งเงินให้คุณลุงจำนวน 15 ล้าน เพราะถือว่าเคยทำบุญร่วมกันมา ประกอบกับตนเป็นผู้โอบอ้อมอารีและชอบแบ่งปัน จึงอยากจะให้จบเรื่องราว"
เมื่อผมถามว่ายินดีจะออกสื่อเพื่อให้สังคมตัดสินไหม คุณครูบอกว่า "ไม่สะดวกเพราะตอนนี้เรื่องอยู่ในชั้นตำรวจแล้ว" เมื่อผมขอดูไลน์ว่าในวันที่ 31 ตุลาคม ได้มีการคุยกับแม่ค้าขายลอตเตอรี่ว่าจะเอาเลขนี้จริงหรือไม่ คุณครูก็เอาโทรศัพท์มาให้ผมดู แต่เมื่อย้อนกลับไปในวันนั้น กลับไม่มีข้อความดังกล่าว ผมจึงถามคุณครูว่าข้อความดังกล่าวหายไปไหน คุณครูอ้างกับผมว่า "ตำรวจไม่ต้องการให้เผยแพร่ จึงเก็บข้อความนั้นไว้ เป็นหลักฐานหมดแล้ว"
Cr::: workpointnews.com