มีกระแสข่าวว่าคุณมีส่วนรู้เห็นกับข้าราชการผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เพื่อจะให้ไปแบ่งกัน?
ครูปรีชา : "กระแสเกิดจากทนายตั้มครับ ขอพูดผ่านรายการ เป็นทนายรู้กฎหมาย การที่ไปลงเฟซบุ๊กให้คนเขาวิพากษ์วิจารณ์ ศาลเท่านั้นถึงจะตัดสินว่าคนไหนผิดคนไหนถูก ทำไมคุณตัดสินแล้ว คุณเป็นศาลหรือเปล่า คุณเป็นทนายนะครับ การที่คุณไปโรงเรียนที่ผมให้ข้อมูลมา คุณบอกผมว่าคุณเป็นองค์กรกลาง คุณมาไก่เกลี่ย รู้มั้ยครับเข้าไปในโรงเรียน เขาไม่ได้ขออนุญาตโรงเรียน เขาไปหาผม หนังสือสักฉบับก็ไม่มี หนังสือที่จะนำส่งขอพบอาจารย์ปรีชาก็ไม่มี ความที่ผมเห็นแขกมา เราเป็นครู เราก็ต้องต้อนรับ ทนายตั้มก็เห็นว่าผมสอนนักเรียน ผมก็เปิดโอกาสให้ทนายตั้มทุกอย่าง คิดว่าเราเป็นครู เราก็ต้อนรับ แต่ทนายตั้มเอาผมไปวิพากษ์วิจารณ์หมดเลย"
ทนายตั้ม : "แต่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อใครเลยนะ"
ครูปรีชา : "แต่ทนายตั้มไม่ได้เป็นศาลนะ ทนายตั้มมีสิทธิ์พิพากษาผมเหรอ"
ทนายตั้ม : "ก็ผมเข้าไป คุณครูก็ให้การต้อนรับ ก็คุยกันอย่างดี ไม่มีอะไร ผมก็เล่าไปตามข้อเท็จจริง คุณครูก็พูดมาเลยว่ามี่เรื่องไหนที่ไม่จริงบ้าง เอาตรงไหนไม่จริงก่อน"
ครูปรีชา : "คุณเป็นคนถือกฎหมาย เป็นเจ้าของกฎหมาย สิ่งต่างๆ ที่สังคมเขาวิพากษ์วิจารณ์ มันเกิดจากทนายตั้มว่าผมขี้เหล้าเมายา เอาหลักฐานตรงไหน"
ทนายตั้ม : "แต่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อคุณนะครับ"
ครูปรีชา : "แต่เรื่องทั้งหมดเกิดจากกระบวนการเหล่านี้"
ทนายตั้ม : "ใช่ครับ ผมมาวันนี้อยากให้ประชาชนตัดสินว่าเรื่องราวเป็นยังไง ถ้าฝ่ายไหนถูกผิด ประชาชนตัดสินแล้ว"
ครูปรีชา : "แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทนายตั้มวิพากษ์วิจารณ์ว่าส่อพิรุธ ส่ออย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งทุกอย่าง มันเป็นกระบวนการของศาลนะครับ"
ทนายตั้ม : "ผมเป็นทนายความ ผมมีหน้าที่สืบหาข้อเท็จจริง"
ครูปรีชา : "ไปที่โรงเรียนก็ไม่ได้ขออนุญาตโรงเรียน"
ทนายตั้ม : "คุณครูก็ไม่ได้ไล่ผมออกนี่ครับ ถ้าคุณครูไม่ยินดี ผมก็ต้องออกนะครับ"
ครูปรีชา : "ไม่ได้ตำหนินะ แต่ขอพูดในฐานะคุณเป็นทนาย ผมเป็นครู การเป็นทนาย คุณเป็นผู้รู้กฎหมายหมดทุกเรื่อง การที่คุณโพสต์ไม่เอ่ยชื่อ แต่ทุกอย่างทนายตั้มรู้ดี"
ทนายตั้ม : "ใช่ครับ และทุกอย่างคุณครูก็รู้ดีแก่ใจแน่นอน"
ปรีชา : "แต่ข้อมูลบางอย่างได้บอกข้อมูลไปแล้วว่าขอสงวน"
ทนายตั้ม : "ไหนๆ ก็มาแล้วก็ขอถามเลยดีกว่า วันนั้นคุณครูบอกว่ารู้เองหลังหวยออก แต่มาในรายการบอกว่ารู้วันที่หายแล้ว ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่"
ปรีชา : " ข้อมูลบางอย่างนะครับ ผมเป็นคุณครูนะครับ จบระดับปริญญาโท ไม่ใช่ตาสีตาสา คุณทนายตั้มไป คุณครูก็ไม่ได้เชื่อมั่นว่าเป็นคุณดีหรือคนไม่ดี ก็ให้ข้อมูลในเชิงที่ถูกต้องบ้างไม่ถูกต้องบ้าง เพราะไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร"
ทนายตั้ม : "สรุปที่บอกผมไม่ใช่เรื่องจริง"
ปรีชา : "ไม่ใช่ไม่ใช่เรื่องจริง บางเรื่องสรุปเพื่อเป็นประโยชน์"
ทนายตั้ม : "ที่บอกว่ามีข้อมูลแล้วทำไมไม่มีไลน์"
ปรีชา : "ทำไมต้องให้ล่ะครับ คุณเป็นใคร อยู่ดีๆ ก็หยิบไป แล้วถามว่าคุณเป็นอะไร ในหน่วยงานของผม ผมขอตำหนิว่าคุณกำลังละเมิดสิทธิมนุษยชน"
ทนายตั้ม : "ถ้าละเมิดจริงๆ นะ คนที่ไปกล่าวหาคนอื่นเพื่อเอาเงินเขา ผมว่ามันแย่กว่านะ"
ทนายครูปรีชา : "ผมก็เป็นทนายความ คุณก็เป็นทนายความผมอยากให้ใช้อำนาจศาลตัดสินมากกว่า"
ทนายตั้ม : "วันนี้มาออกรายการทีวีครับ"
ทนายครูปรีชา : "ตอนนี้ก็คิดอยู่นะ ว่าวันนี้ทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกต้องทั้งหมด ก็อยากให้เข้ากระบวนการศาล แล้วพิจารณา สิ่งที่เราไม่รู้ เรายังไม่ทราบ เราไม่ควรคิดไปก่อน"
ปรีชา : "แล้วเมื่อวานดูรายการหนึ่ง ไปสอบถามเพื่อนครูว่าครูติดการพนัน เมาเหล้า คุณฟันธงได้ยังไง"
ทนายตั้ม : "ผมถามจริงๆ ครับ"
ปรีชา : "มีหลักฐานมั้ย ถ้าไม่มีผมฟ้องนะครับ"
ทนายตั้ม : "ผมเอ่ยชื่อคุณหรือเปล่า"
ปรีชา : "คุณป็นทนายนะครับ คุณกำลังละเมิด"
ทนายปรีชา : "ใจเย็นๆ นะครับ ถ้าใครทำอะไรไม่ถูกต้อง เดี๋ยวเราต้องมาดำเนินคดีกัน"
ครูปรีชา : "เรื่องทั้งหมดสิ่งที่จะตัดสินไม่ใช่รายการโหนกระแส รายการต่างๆ หรือสื่อมวลชน แต่เป็นกระบวนการศาล เพราะฉะนั้นจะคิดจะทำอะไรกัน ก็ให้เกียรติกับทุกคน ให้เกยรติองค์กร และประเทศชาติด้วยนะครับ เยาวชนดูหมด ทุกคนจะมาลงความเห็นแล้วทุกคนมาตัดสินแบบนี้ไม่ได้นะครับ"
ถามคำถามสุดท้ายถ้าวันนี้พิสูจน์ออกมาแล้วไม่ใช่ของคุณเป็นของเขาทำไง?
ป้าลาวัลย์ : "ก็ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด"
จรูญ : "ก็แล้วแต่กระบวนการยุติธรรม"
แล้วจะขอโทษเขามั้ยถ้าเขาถูก?
จรูญ : "ไม่ ก็ผมซื้อ ผมถูก"
ปรีชา : "จิตมนุษย์รู้เอง"
จรูญ : "ใช่ ถูกต้องเลย"
ปรีชา : "ก็ใจเขาเท่านั้นที่รู้"
แพ้ก็ไม่ขอโทษ?
จรูญ : "ไม่ขอโทษ"
ถ้าคุณแพ้ล่ะคุณปรีชา?
ปรีชา : "ผมก็ยินดีรับโทษตามกระบวนการศาลครับ โทษศาลเป็นยังไงผมก็ยินดี"
ทนายปรีชา : "พยานหลักฐานเรามีมากกว่านี้ เราขอนำเสนอในขั้นสอบสวน"
แสดงว่าที่มีการฮั้วกันก็ไม่จริง?
ปรีชา : "ไม่จริงครับ แล้วใช้คำว่ากระบวนการ"
ทนายตั้ม : "มีการเข้าไปคุยกับนายตำรวจระดับสูงหลังวันที่ 28 หรือเปล่า"
ปรีชา : "ไม่มีครับ"
ทนายตั้ม : "มีคนรับมาแล้วนะ ว่ามีการไปคุยจริง"
ปรีชา : "ทนายตั้มคุณอย่าตั้งสมมุติฐานสิครับ"
ทนายตั้ม : "ไม่ได้ตั้งสมมุติฐานนะครับ"
ปรีชา : "ผมเป็นครูสอนกฎหมายนะครับ ผมรู้ว่าสิ่งที่คุณทนายทำมันไม่ถูกต้อง"