หนุ่มวิปริต-ใช้มะเขือทารุณทางเพศเมียเก่า

หนุ่มวิปริตลวงสาวแฟนเก่ามาหา แล้วจับปล้ำข่มขืนต่อหน้าเพื่อน

ก่อนเปลี่ยนใจหันไปใช้มะเขือเปราะลูกโตทำทารุณทางเพศ 2 ลูกซ้อน เล่นเอาเหยื่อดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ซมซานไปให้หมอช่วยเหลือ ต้องใช้มีดตัดมะเขือเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วคีบออกมา แต่ยังบาดเจ็บสะบักสะบอมนอนซม ตร.รวบตัวจอมวิปริตทันควัน สารภาพทำไปเพราะความเมา ตอนจะข่มขืนเกิดเจ้าโลกหดขึ้นมาดื้อๆ เพราะนึกได้ว่าแฟนเก่ามีแฟนคนใหม่ไปแล้ว เลยเกิดบันดาลโทสะใช้มะเขือชำเราแทน เผยเหยื่อหื่นวิตถารเป็นสาวพิการขาลีบด้วย ตอนแรกดึงมะเขือออกมาได้เอง 1 ลูก แต่อีกลูกทำอย่างไรก็ไม่ออก ต้องถึงมือแพทย์จนได้

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากน.ส.เอมิกา พูลสวัสดิ์ อายุ 25 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ที่ 5 ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ว่าเพื่อนผู้หญิงถูกอดีตแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายด้วยการเอามะเขือยัดเข้าไปในอวัยวะเพศ จนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังจากรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบยังห้องรวมหญิงของโรงพยาบาล พบน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี บ้านอยู่ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงในสภาพอิดโรย บ่นปวดท้องอยู่ตลอดเวลา

จากการสอบถามน.ส.เอ ถึงเรื่องราวความเป็นมา เจ้าตัวเปิดเผยว่า

ก่อนเกิดเหตุ ขับรถจักรยานยนต์ไปหานายพิเชษ หรือกบ เพชรทอง อายุ 35 ปี อยู่หมู่ที่ 44 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นแฟนเก่า ที่บ้านของนายป๊อก เพื่อนนายพิเชษ เพื่อสอบถามเรื่องเครื่องเจียระไนพลอยของนายพิเชษ แต่นายพิเชษไม่คุยด้วย ด่าว่าตนเสียๆ หายๆ จากนั้นก็จับตนถอดเสื้อผ้าจนหมด แล้วเอามะเขือจานยัดเข้าไปในอวัยวะเพศจำนวน 2 ลูก ตนเอาออกมาได้ 1 ลูก เหลืออีกลูกหนึ่งไม่สามารถเอาออกได้ จึงขับรถจักรยานยนต์มาหาเพื่อน เพื่อนก็พาไปแจ้งความ แล้วมาหาแพทย์ให้ช่วยเอาออกสำเร็จ

ด้านน.ส.เอมิกา เพื่อนคนเจ็บ กล่าวว่า ได้สอบ ถามแพทย์เกี่ยวกับวิธีเอามะเขือออกมา แพทย์บอกว่าต้องใช้มีดเข้าไปผ่ามะเขือให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อน แล้วใช้คีมหยิบออกมาทีละชิ้น แต่หลังการรักษาดังกล่าว เพื่อนก็ยังมีอาการปวดท้องอยู่ตลอดเวลา

ส่วนนายชิน (นามสมมติ) พ่อของน.ส.เอ เปิดเผยว่า ลูกสาวตนพิการขาลีบทั้ง 2 ข้าง

ก่อนเกิดเหตุบอกตนว่าจะออกไปข้างนอก ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าไปไหน มารู้อีกทีจากเพื่อนว่าถูกนายพิเชษทำร้าย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล สำหรับนายพิเชษนั้น เคยอยู่กินกับลูกสาวตนประมาณ 5 เดือน จากนั้นก็เลิกกัน เพราะลูก สาวทนพฤติกรรมของทางครอบครัวนายพิเชษไม่ไหว

ด้าน ร.ต.ท.ณัฐศิษย์ เจริญยุทธ ร้อยเวรสภ. โพธิ์ทอง กล่าวว่า คนเจ็บมาแจ้งความเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. จากนั้นตนก็รีบนำส่งโรงพยาบาลโพธิ์ทอง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา เบื้องต้นคนเจ็บยังให้การอะไรไม่ได้มาก ซึ่งวันที่ 23 เม.ย. คงจะสอบสวนและจับกุมคนร้ายมาลงโทษต่อไป

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เม.ย. พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง
 
พ.ต.ท.วินัย ตรีราภี สวป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายพิเชษ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยใช้พืชผักสวนครัว เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 4 ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง ตามที่น.ส.เอแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ว่าถูกนายพิเชษหรือกบ แฟนเก่า โทรศัพท์ล่อลวงไปยังบ้านที่เกิดเหตุ และบังคับข่มขืน แต่อวัยวะเพศนายพิเชษไม่แข็งตัว จึงใช้มะเขือขนาดใหญ่ 2 ลูก ยัดเข้าไปในอวัยวะเพศแทน จนฉีกขาดเลือดไหล

จากการสอบสวนนายพิเชษ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง

โดยก่อนเกิดเหตุ นั่งดื่มสุรากับนายสุวิพัฒน์ บุญเปล่ง อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และโทรศัพท์ไปบอกอดีตแฟนให้มาพบ บอกว่าจะยกเครื่องเจียระไนพลอยให้ เมื่อน.ส.เอขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึง ตนซึ่งมีอารมณ์ทางเพศอยู่ ได้ใช้กำลังบังคับกอดปล้ำถอดเสื้อผ้าเพื่อข่มขืน โดยมีนายสุวิพัฒน์นั่งดูเหตุการณ์อยู่บนเปล

หนุ่มวิปริตกล่าวต่อว่า ขณะที่ตนกำลังเล้าโลมแฟนเก่านั้นเอง ฉุกคิดได้ว่าฝ่ายหญิงไปมีชายคนใหม่แล้ว

จึงรู้สึกโกรธและรังเกียจ ทำเอาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว ด้วยความโมโหประกอบกับเมาสุรา จึงใช้มะเขือเปราะขนาดใหญ่ 2 ลูก ใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ โดยใช้ขวดกระแทกเข้าไปจนมิดลูก แม้น.ส.เอจะดิ้นทุรนทุรายกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก็ไม่สนใจ ตนไม่น่ากระทำเช่นนี้เลย ต้องมาติดคุก นับเป็นคราวซวยจริงๆ

ด้านน.ส.เอ ซึ่งยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล กล่าวว่า

เลิกกับนายพิเชษได้ประมาณ 6 เดือน เหตุเพราะตนพิการขาลีบ แม่นายพิเชษไม่ชอบ เห็นว่าเป็นอุปสรรคในการทำงานเก็บดอกแคส่งขาย พอเลิกกันตนก็มาอยู่กินกับแฟนใหม่ ก่อนเกิดเหตุ นายพิเชษโทรศัพท์บอกว่าให้ไปหาที่บ้านหลังดังกล่าว ไปถึงพบนายพิเชษและนายสุวิพัฒน์นั่งดื่มเหล้าอยู่ใต้ถุนบ้านข้างบันได พอตนเข้าไปนั่งบนเสื่อ นายพิเชษก็ใช้กำลังบังคับถอดเสื้อผ้าเพื่อข่มขืน แต่จู่ๆ อวัยวะเพศก็หดตัว

"จากนั้นเขาจับหนูถ่างขา แล้วคว้าลูกมะเขือที่วางอยู่ชุบน้ำ ยัดเข้าไปในอวัยวะเพศ แต่ไม่เข้า จึงใช้สันมือกระแทก และเอามะเขือลูกที่สองยัดตามทันที แต่ไม่เข้าเพราะติดลูกแรก เขาจึงใช้ขวดเหล้ากระแทกเข้าไปจนมิดลูก ทำให้อวัยวะเพศฉีกขาด รู้สึกปวด และจุกเสียดช่องคลอด ตอนแรกหนูดึงออกมาได้ 1 ลูก แล้วขับรถหลบหนีไปหาเพื่อน เข้าแจ้งความ ขณะที่ถูกกระทำได้พยายามต่อสู้ป้องกันตัวแล้ว แต่หนูตัวเล็กและพิการจึงสู้แรงเขาไม่ได้" เหยื่อกามวิตถารกล่าว และว่า ที่สำคัญขณะที่ตนร้องขอความช่วยเหลือดิ้นทุรนทุราย นายสุวิพัฒน์ที่นั่งดูกลับไม่ให้การช่วยเหลือหรือห้ามปรามใดๆ มิหนำซ้ำยังหัวเราะชอบใจ จึงต้องการให้ดำเนินคดีถึงที่สุด จะไม่ยอมความอย่างแน่นอน เมื่อเขาทำผิดต้องได้รับโทษโดยไม่คำนึงว่าเป็นแฟนเก่าที่เคยอยู่กินด้วยกัน

น.ส.เอกล่าวต่อว่า เมื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ใช้เจลเพื่อหล่อลื่นและพยายามใช้เครื่องดูดและให้เบ่งลม

แต่มะเขือไม่ขยับออกมา แพทย์จึงใช้มีดหั่นมะเขือออกเป็นชิ้นๆ แล้วใช้คีมคีบออกมาจากอวัยวะเพศ ซึ่งแพทย์ให้หมั่นสังเกตว่ามีเลือดออกหรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าช่องคลอดจะอักเสบหรือติดเชื้อ

ทางด้านพ.ต.อ.รวีโรจน์ กล่าวว่า นายพิเชษผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าทำไปเนื่องจากมีอารมณ์โกรธ ประกอบกับเมาสุรา แต่ไม่มีอาการหึงหวงอดีตแฟนสาวแต่อย่างใด สำหรับมะเขือที่ใช้ก่อเหตุ มีขนาดใหญ่กว่ามะเขือเปราะทั่วไป ขนาดรัศมีประมาณ 2.5 นิ้ว ซึ่งนายพิเชษปลูกไว้กินเอง เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้วัถตุอื่นใดแทนอวัยวะเพศสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศผู้อื่นหรือทวารหนัก ส่วนผู้เสียหาย ขณะนี้ยังอยู่ในอาการขวัญผวาและสุขภาพไม่แข็งแรง เนื่องจากขาพิการ ส่วนอาการบาดเจ็บไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งจะมีการนำตัวนายพิเชษไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพช่วงบ่ายนี้

ต่อมาเวลา 15.30 น. พ.ต.อ.รวีโรจน์ เปิดเผยกล่าวภายหลังนำตัวนายพิเชษไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพว่า ขอใช้อำนาจศาลในการฝากขังในวันนี้

และเบิกตัวมาทำการสอบสวนในประเด็นที่เหลือ ส่วนเรื่องการประกันตัวเป็นสิทธิของผู้ต้องหา หากญาติยื่นเรื่องขอประกันตัวเราจะพิจารณาตามสิทธิ เพราะคดีนี้ไม่ได้จับตามหมายจับ ไม่อุกฉกรรจ์ซับซ้อนรุนแรง เพียงแค่บันดาลโทสะหลังจากหวังข่มขืน และเป็นคดีที่สามารถเจรจายอมความกันได้

ส่วนนายพิเชษที่อยู่ในอาการเครียด กล่าวว่า ตนเป็นลูกผู้ชาย

เมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ยอมรับสารภาพโดยให้ความร่วมมือทุกอย่าง ยอมติดคุกเพราะความซวย แต่สังคมจะประณามประจานตนไปถึงไหน แค่นี้ครอบครัวก็เดือดร้อนเสื่อมเสียมากพอแล้วยังไม่เพียงพอหรือไร น่าจะให้โอกาสกันบ้าง ชั่วดีอยู่ที่สำนึกแก้ไขกันได้ มันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบประกอบกับเมาสุราจึงกระทำการดังกล่าวลงไป ความผิดครั้งแรกนี้ ตนรู้สำนึกผิด แต่ขอให้โอกาสตนแก้ตัวบ้าง