ทักษิณ ชี้นโยบายซื้อหนี้ประชาชนเป็นเรื่องที่ต้องทำ

"ทักษิณ" ยันนโยบายซื้อหนี้ประชาชนจำเป็น ช่วยฟื้นโอกาส ปัดปัญหาคุยเอกชน - ขอรอ "ดิจิทัลวอลเล็ต" หนุนเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2568 เวลา 18.30 น. ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลสำรวจดุสิตโพลที่ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนโยบายซื้อหนี้ประชาชน โดยย้ำว่าเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนเผชิญความยากลำบากจากหลายปัจจัย ได้แก่

1.การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการดึงเงินออกจากระบบจนทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง ส่งผลกระทบต่อประชาชน

2.ผลกระทบจากโควิด-19 และ

3.โอกาสในการทำมาหากินที่ยังไม่เพียงพอ

นายทักษิณระบุว่า การแก้ปัญหาคือการช่วยประชาชนให้เริ่มต้นใหม่ ผ่านการแก้หนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้ มีเครดิตใหม่ และมีโอกาสฟื้นตัวในที่สุด

เมื่อถูกถามถึงการพูดคุยกับภาคเอกชนที่อาจเข้ามารับซื้อหนี้ นายทักษิณยืนยันว่าไม่มีอุปสรรค เพราะในระบบทุนนิยม เอกชนมองหาผลกำไรเป็นหลัก หากให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยธนาคารปัจจุบันที่ค่อนข้างต่ำ เอกชนก็พร้อมเข้าร่วม โดยคาดว่าการแก้หนี้ครัวเรือนจะเริ่มเห็นผลในปีนี้และมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าโครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" สองระยะที่ผ่านมาไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามเป้าของพรรคเพื่อไทย นายทักษิณขอให้ใจเย็น โดยชี้ว่าหากไม่ทำอะไรเลย เศรษฐกิจอาจทรุดหนักกว่านี้ การดำเนินนโยบายอาจช่วยหยุดการถดถอยได้ แม้ยังไม่เห็นการเติบโตชัดเจน แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นแน่นอนในอนาคต

เขายังเน้นย้ำว่า "ดิจิทัลวอลเล็ต" ไม่ได้มีแค่เรื่องเงิน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับอนาคต ซึ่งจะเชื่อมโยงกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังจะมีบทบาทมากขึ้น ทุกคนจะต้องมีกระเป๋าเงินดิจิทัลควบคู่กับกระเป๋าเงินปกติ และในที่สุดจะเห็นประโยชน์ที่ชัดเจน โดยพรรคเพื่อไทยจะเป็นที่จดจำจากนโยบายนี้อย่างแน่นอน