สาวโพสต์บริจาค ช่วยลุงพล โวย! ป้าแต๋นกลับคำ ไม่ปิดบัญชี (คลิป)
ในเวลา 17.30 น. ลุงพลป้าแต๋นและยูทูเบอร์ได้เตรียมตัวกันออกเดินทาง โดยใช้รถยนต์ 6-7 คันในการเดินทาง โดยมียูทูเบอร์กว่า 20 คนติดตามไปด้วย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นการนัดหมายจากทนายษิทรา โดยปลายทางคืออ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนได้ตั้งข้อสงสัยว่า การที่ทนายษิทรานัดลุงพลให้ออกนอกพื้นที่แบบนี้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ลุงพลได้พบกับนายอัจฉริยะหรือไม่
ด้านลุงพล กล่าวต่อว่า คิดว่าคนที่โพสต์เรื่องบัญชีจะต้องรับผิดชอบ ส่วนพวกตนคงไม่ปิดบัญชี เพราะต่อให้ปิดบัญชีแล้วเปิดใหม่ ก็ต้องมีคนเอาเลขบัญชีไปโพสต์อีก อย่างไรก็ตาม บัญชีบริจาควัดภูหลวงและบัญชีสร้างพญานาคก็ได้อายัติไว้หมดแล้ว
จากนั้นได้ขออนุญาติป้าแต๋น ประมาณวันที่ 13 ก.ค.63 ตนจึงนำเลขบัญชีไปโพสต์เฟซบุ๊กกลุ่ม ๆ หนึ่ง เพราะเอฟซีขอเลขบัญชีลุงกับป้าแต๋น จากนั้นวันที่ 15 ก.ค.63 มีคนทักท้วงว่าโพสต์แบบนี้ไม่ดี จึงตัดสินใจลบโพสต์ทั้งหมดทิ้ง ก่อนจะเปิดกลุ่มใหม่เป็นกลุ่มลุงพลป้าแต๋น
ขณะเดียวกันกรณีที่ป้าแต๋น ยังไม่ปิดบัญชี และเตรียมแจ้งความหลังเพจที่ออกมาแฉ เรื่องเงินบริจาค ตนก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ส่วนเรื่องที่มาหาหมอปลา ไม่ได้กังวลว่าจะโดนฟ้อง และยืนยันว่าแค่มาเยี่ยมเยียนกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาปรึกษา ทั้งนี้ยืนยันว่า เรื่องที่ไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีลุงกับป้า เอาเลขที่บัญชีไปโพสต์ เพราะเจตนาแค่อยากจะช่วย
นอกจากนี้ ตนยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีส่วนแบ่งกับเงินบริจาคที่ FC โอนให้ป้าแต๋น เพราะเป็นบัญชีป้าแต๋น จะได้ยอดกี่หมื่น กี่แสน กี่ล้าน ตนไม่รู้ และไม่เคยได้เงิน และหากตนถูกฟ้อง ตนก็จะสู้ให้ถึงที่สุด อยากถามป้าแต๋นว่า ทำไมในเมื่อรับปากกันแล้ว ไม่ปิดบัญชีเปิดให้คนอื่นโอนเข้าได้ ตอนนี้ตนรู้สึกไม่ดี และไม่อยากให้มีปัญหามาถึงตน ทั้งนี้เลิกเป็น FC ลุงพลแล้ว เพราะลุงไม่ทำมาหากิน และรับปากจะปิดบัญชีแล้วไม่ยอมปิด ตนก็โดนทัวร์ลง จึงถอยห่างออกมาดีกว่า
ส่วนกรณีที่ซื้อหัวใจพญานาคให้ลุงพล ยืนยันว่า ซื้อจริง ๆ เพราะตนเป็นสายพญานาค ตอนที่ให้ไปได้บอกว่า "อย่าเพิ่งเอาไปติดนะ แต่ลุงพลก็เอาหัวใจพญานาคไปติด โดยไม่บอกกล่าวกันเลย" สาเหตุที่ซื้อให้เพราะตนศรัทธาพญานาค จึงอยากซื้อให้ แต่ตนไม่มีส่วนร่วมในการก่อสร้างพญานาค ทั้งนี้ราคาหัวใจพญานาคที่ซื้อให้ลุงพล มูลค่า 46,000 บาท เป็นเงินส่วนตัว เป็นหินสีชมพูนำเข้าจากต่างประเทศ และตอนไปติดลุงพลก็ไม่ชวนสักคำ และไม่บอกคนอื่นว่าเป็นหัวใจพญานาคที่ตนซื้อให้
กระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้น รู้สึกเหมือนคนทั้งประเทศ ตักเตือนแล้วไม่เชื่อ ต้องปล่อยไปตามกรรม เพราะเตือนแล้วว่า อย่าไปเปิดรับบริจาค สำหรับตนเข้าใจว่าพี่จูนอยากช่วยเหลือลุงเบื้องต้น ไม่ได้มีนอกมีในอะไร
สำหรับวันนี้ที่นายสมเกียร์ติ มาช่วยลุงป้า บอกว่า พญานาคอาจไม่ทุบทำลาย อาจเคลื่อนย้ายไปที่อื่น ตอนนี้เป็นทรัพย์สินทางวราชการ ใครจะทุบให้ถือค้อนมาทุบ หมอปลา มองว่า เอาที่ทนายสมเกียรติ สบายใจก็แล้วกัน อยากถามกลับว่า พญานาคคงอยู่ไม่เป็นสุขแล้วว่า จะโดนทุบ หรือไม่โดนทุบ ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้
ส่วนที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะไปยื่นร้องเรียนว่าป้าแต๋น แจ้งความเท็จนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของนายอัจฉริยะ แต่ก็ต้องให้ตำรวจไปพิสูจน์และตรวจสอบ ซึ่งถ้าไม่เป็นความจริง ก็ต้องมีพิจารณาอีกครั้งว่าจะฟ้องกลับหรือไม่
กรณีเรื่องที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ป้าแต๋นมีบัญชีธนาคารนั้น ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้ามีหลายบัญชีแต่ไม่ได้นำไปทำความผิดก็ไม่เป็นอะไร ซึ่งเรื่องการรับบริจาคก็จบไปตั้งแต่เดือน ก.ค.63 แล้ว แต่ตนน่าจะดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊กที่นำมาโพสต์ใหม่ เพราะต้องดูว่าใครเป็นคนทำให้เสียหาย ตนคิดว่าคุณจูน เอฟซีลุงพลป้าแต๋นน่าจะไม่รู้เรื่อง เพราะเขาให้เงินมาแล้ว แต่ตนมองว่าเพจเฟซบุ๊กที่นำเรื่องมาโพสต์นั้นมีวัตถุประสงค์ไม่ดี
อย่างไรก็ตาม กรณีการเปิดบริจาครูปปั้นพญานาคนั้น ไม่ใช่การฉ้อโกง และคงจะไม่มีการทุบทิ้ง แต่ถ้าคดีความสิ้นสุด และมีความผิดก็อาจจะรื้อถอนไปตั้งไว้ที่อื่น แต่ถ้าใครต้องการทุบก็ให้ถือค้อนมาทุบทิ้งเลย แต่ก็ต้องมีความผิดฐานทำลายทรัพย์สินหลวง เพราะศาลสั่งริบแล้ว
ถ้าชี้แจงไม่ได้ว่า เงินเข้ามาจากไหน บอกไม่ได้ว่าเป็นเงินของใคร ตอนใช้ก็บอกไม่ได้ว่าเอาไปใช้อะไร เอาไปใช้ผิดประเภทก็จะมีความผิดฉ้อโกง ดังนั้นยกตัวอย่าง สถานีโทรทัศน์ จะเปิดรับบริจาคช่วยเหลือคนประสบภัย จึงต้องเปิดบัญชีกลางมาใช้ และต้องบอกได้ว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร
VV
V