‘ทนายตั้ม’ เปลี่ยนแผนบินกลับแล้ว! แจงชัด ปมช่วยดูคดีน้องชมพู่
นายษิทรา เผยต่อว่า ส่วนกรณีที่ลุงพลเดินทางรับทราบข้อกล่าวหาในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ตนได้ประสานงานกับตำรวจ สภ.กกตูม เพื่อให้ลุงพลเข้ารับข้อกล่าวหาทั้งหมด 2 คดี คดีแรกคือ การครอบครองไม้ โดยลุงพลให้การภาคเสธว่าตัวเองได้เอาไม้มาจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาและไม่รู้ว่าไม้มะค่าแต้นั้นเป็นไม้หวงห้าม พร้อมทั้งไม่ได้มีเจตนาครอบค่องเป็นของตัวเอง แต่นำมาเพื่อให้ชาวบ้านที่จิตศรัทธาหรือความเชื่อไปกราบไหว้ ส่วนอีกคดีเป็นเรื่องของนักข่าวช่องหนึ่งที่ไปแจ้งความไว้ ซึ่งมีทั้งหมด 2 ข้อหาคือ ข้อหาทำร้ายร่างกายลุงพลได้รับสารภาพในข้อหานี้ แต่ข้อหาพยายามชิงทรัพย์ลุงพลได้ปฏิเสธ
"สำหรับประเด็นเรื่องการรับเป็นทนายในคดีน้องชมพู่หรือไม่ ยังคงยืนยันคำตอบเดิมว่าขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าพื้นที่เลย ยืนยันว่าคลายล็อกเมื่อไหร่จะรีบเข้าตรวจสอบทันที นอกจากนี้ที่มีกระแสออกมาว่าลุงพลยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีของน้องชมพู่เลย แต่ทำไมถึงรีบจ้างทนายตรงนี้ มองว่าลุงพลร้อนตัวหรือไม่นั้น ส่วนนี้มีตั้งหลายคดีที่มีการจ้างทนาย ทั้งที่ยังไม่ตกเป็นจำเลย หรือผู้ต้องหาเลยก็สามารถมีทนายความได้" ทนายตั้มกล่าว