พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกทลายเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติ ชาวลาวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ( ปส. ) ตรวจสอบกรณีเว็บข่าวออนไลน์ของ สปป.ลาว เผยแพร่ภาพนายตำรวจถ่ายรูปคู่กับ นายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาวอย่างสนิทสนม รวมถึงดาราและคนในวงการบันเทิง อีกหลายคนที่ถ่ายรูปคู่กับนายไซซะนะ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องหาความเชื่อมโยงกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนจะมีการเชิญบุคคลในภาพมาสอบสวนหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของ ผบช.ปส. และพนักงานสอบสวน จะเป็นผู้พิจารณา เนื่องจากตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใด ก็จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน
ด้านพล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(รองผบช.ปส.) เปิดเผยความคืบหน้าในการขยายผลการติตามความเกี่ยวข้องของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง สามี "แพท" ณปภา ตันตระกูล นักแสดงชื่อดัง ที่เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บช.ปส.เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ในวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 10.00 น จะมีการประชุม 3 ฝ่าย ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) โดยประกอบด้วย บช.ปส. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)โดยจะมีการพูดคุยกันในประเด็นต่างๆ หลายประเด็น โดยหนึ่งในนั้น คือประเด็นของ นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ เรซซิ่ง เรื่องเงิน 6 ล้านบาทที่ยืมจากนาย นายณัฐพล หรือบอย นาคคำ และประเด็นอื่นๆที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมข้องใจสงสัย เนื่องจาก ในวันที่นายอัครกิตติ์ เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน บช.ปส. มีหลักฐานมาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปในที่ประชุม จะเรียกนายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ มาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ส่วนการออกหมายเรียกดาราหรือกลุ่มไฮโซที่อาจเกี่ยวข้องกับนายไซซะกนะ มาทำการสอบสวนนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอข้อสรุปจากที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่ มีกระแสข่าวออกมาว่า มีลูกชายของอดีตนักการเมืองชื่อดังมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ด้วยนั้น ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน และจะนำเข้าที่ประชุม 3 ฝ่ายด้วย เพื่อขอความเห็นในการดำเนินการ หากพบว่า มีหลักฐานไปถึง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทันทีโดยไม่ละเว้นนอกจากนี้ ตำรวจจะนำพฤติการณ์ของกลุ่มเครือข่ายจากผลการปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 39 เป้าหมาย 41 จุดตรวจค้น รวมทั้งการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 9 หมายจับ ที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ 3 รายเท่านั้น และจะมีการ พูดคุยถึงหลักฐานที่อายัดไว้ โดยจะนำมาตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไรกับขบวนการนี้ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเสนอให้สำนักงาน ป.ป.ส. ออกคำสั่งอายัดและให้ทาง ปปง. ดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ทั้งนี้ในการทำงาน ตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา มีอุปสรรคในเรื่องการตรวจสอบ เพราะหลักฐานและทรัพย์สินมีจำนวนมาก ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและยังตรงกับในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งหยุดราชการ จึงทำให้การทำงานต่างๆ ต้องรอที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ และ หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผู้จัดการส่วนตัวดารา "อ๋อม-อรรคพันธ์" ชี้แจงว่าอ๋อมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพ่อค้ายาเสพติดแน่นอน พร้อมยืนยันว่า รูปที่เป็นข่าวอยู่นั้นไม่ใช่นายไซะซะนะ และเหตุการณ์ในรูปภาพคือหลังจากที่อ๋อมไปร่วมงานเดินแฟชั่นโชว์ที่ประเทศลาว ซึ่งในวันนั้นก็มีอานัสไปด้วย หลังจากเสร็จงานก็รับประทานอาหาร่วมกันด้วยความที่เป็นงานใหญ่ของที่โน่นก็จะมีพ่อค้าและนักธุรกิจมากันเยอะเมื่อมีคนมาขอถ่ายรูปอ๋อมและอานัสก็ให้ถ่ายรูปด้วยตามปกติโดยที่ไม่ทราบว่าเป็นใครกันบ้าง เรียกว่าไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัวเลย ฉะนั้นขอให้ทุกคนสบายใจว่าอ๋อมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้แน่นอน รวมถึงได้ชี้แจงกับทางผู้ใหญ่ของช่อง 7 ไปตามความจริงแล้ว อย่างไรก็ตามต้องฝากขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่เป็นห่วงและถามไถ่กันมาเยอะ ตามที่ตนได้กล่าวไปก็สบายใจกันได้