ส่วนกรณีที่ไม่พบข้อมูลของ นายไซซะนะ ในระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เพราะเหตุใดถึงไม่บันทึกข้อมูลการเข้าออกทางด่านตรวจคนเข้าเมืองเลย รวมถึงให้ตรวจสอบหนังสือขออนุญาตว่ามีการจัดคาราวานแรลลี่ข้ามพรมแดนจริงหรือไม่ แล้วมีการประสานกันอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้พิจารณาออกคำสั่งให้ ร.ต.ท.วไลศักดิ์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.ตม.4 เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วเช่นกัน
เมื่อเวลา 10.45 น. วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยได้หารือเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งทาง พล.ต.ท.ณัฐธร ระบุว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้ใต้บังคับบัญชา และได้สั่งการให้ผู้บังคับการในสังกัดดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ ร.ต.ท.วไลศักดิ์ เจ้าหน้าที่ ตม.เลย
ขณะเดียวกัน ก็ให้ ผบก.ตม.2 ออกคำสั่งให้ ร.ต.อ.ภัทรพล ถ้วยทอง รอง สว.ฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.บก.ตม. เพื่อให้สะดวกแก่การสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ การตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าว สืบเนื่องจากแนวทางสอบสวนพบว่า นายตำรวจใน ตม. ต้องสงสัยมีพฤติการณ์เกี่ยวของกับ นายไซซะนะ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติดรายดังกล่าวในการรับฝากรถยนต์ของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้ไว้ เพื่อนำรถยนต์มาจอดในอาคารจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หากผลการสอบสวนระบุผิดจริง ก็จะมีบทลงโทษทั้งวินัยและอาญา ไม่มีการละเว้นหรือให้การช่วยเหลืออย่างแน่นอน