จากกรณีที่ สำนักข่าวและสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว กรณีนายสุละเพ็ด แก้วเวียงคำ ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ลาวสตาร์ เป็นสถานีโทรทัศน์เอกชนชื่อดังในประเทศลาว ประกาศปลดนายทะนูสอน แก้วเวียงคำ ผู้เป็นน้องชายออกจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ลาวสตาร์ พร้อมทั้งมีการวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า สาเหตุเกิดจาก นายทะนูสอน หรือ กู้ ลาวสตาร์ ปรากฏร่วมกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อค้ายาเสพติดชาวลาว ที่เพิ่งถูกตำรวจไทยจับกุม พร้อมกับเครือข่าย
นายทะนูสอน หรือ กู้ ลาวสตาร์ เซเลบคนดังเมืองลาว ได้เปิดเผยกับ "ข่าวสด" ว่า สำหรับภาพที่เกิดขึ้นที่อยู่บนเรือ เป็นภาพจริงแต่เป็นการตัดต่อสร้างเรื่องราว โดยยังมีอีกหลายภาพที่เป็นภาพตัดต่อ โดยนำรูปของตนในเฟซบุ๊ก และรูปของนายไซซะนะ มาตัดต่อและสร้างเรื่องใส่ร้ายโจมตี โดยพบว่ามีหลายภาพด้วยกัน เช่น บอกว่าตนเป็นลูกนายกบ้าง ประธานประเทศบ้าง และเป็นคนอยู่เบื้่องหลังคุ้มครองพวกพ่อค้ายาเสพติด ใส่ร้ายป้ายสี รวมทั้ง ยังมีการนำภาพที่ตนถ่ายกับคนสำคัญของประเทศไปสร้างเรื่องราว เชื่อมโยงให้เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด โดยทั้งหมด เกิดจากเพจเถื่อน พวกลาวนอก คือ กลุ่มที่หนีออกไปตอนเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพราะไม่ชอบรัฐบาล เป็นการสร้างเฟซบุ๊ก ขึ้นมาเพื่อโจมตีโดนมุ่งเป้าไปที่คนดังในลาว
"ตอนนี้สังคมโซเชียลคิดว่าผมอยู่ในขบวนการ ตัดสินกันแค่รูปภาพ แม้ว่าผมรู้จักเขาจริงแต่ผมไม่ได้ทำเป็นแค่คนที่รู้จักกัน เข้าใจว่าเราจะห้ามความคิดคนไม่ได้ อยากให้สังคมเสพสื่ออย่างมีสติ โดยในวันที่นายไซซะนะ โดนจับกุมนั้น หลังจากนั้น ผมบินมาที่กรุงเทพ เพื่อดูการถ่ายทำรายการข่าว 3 มิติ หากผมทำผิดด้วยจริงก็คงโดนรวบไปตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว ซึ่งระหว่างที่ชมการถ่ายทำซึ่งมีข่าวว่าผมโดนจับไปแล้ว คุณกิตติ ก็ยังอ่านข่าวการจับนายไซซะนะ ด้วย จึงอยากให้คนที่เสพสื่อใช้สติในการรับข้อมูลต่าง"นายกู้ กล่าว
นายกู้ กล่าวต่อว่า สำหรับข่าวการถอนตัวออกจากลาวสตาร์นั้น มีการพูดคุยหารือกับทีมงานกันแล้วว่า ข่าวที่เกิดขึ้นสังคมในประเทศลาวให้ความสนใจอย่างมาก และยังเกิดความเข้าใจผิด จึงคิดว่าอาจทำให้ส่งผลกระทบกับองค์กรเลยต้องถอยออกมาก่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่า ภาพที่เห็นในสื่อส่วนใหญ่เป็นการตัดต่อ เขียนคำพูดโจมตีให้ร้าย สำหรับตัวผมเอง ความจริงมันก็คือความจริง ถ้าผมทำผิดก็ต้องรับโทษที่ทำไป ถ้าผมไม่ทำผิดก็ทำงานปกติไป