ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีว่า พระอิสรภาพ อาจรสัมปันโน พระเครือข่ายวัดพระธรรมกายและนายอัยย์ เพชรทอง ตัวแทนลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงข่าวบริเวณตลาดกลางคลองหลวง ตรงข้ามทางเข้าวัดพระธรรมกายประตู 5และประตู 6 ถนนเลียบคลองแอน
โดย พระอิสรภาพ อาจารสัมปัญโน จากเครือข่ายพระธรรมกาย จ.แม่ฮ่องสอน เเถลงว่า อาตมาเป็นพระเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย เมื่อทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาบุกวัดพระธรรมกาย จึงได้เดินทางมาจากจ.แม่ฮ่องสอน พร้อมจะอดอาหารประท้วงต่อปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำต่อวัดพระธรรมกายเช่นนี้ ขณะนี้ได้มีพระภิกษุสงฆ์4 รูปที่จะอดอาหารร่วมกับอาตมา และจะยืนหยัดว่าประเทศไทยนี้มีความถูกต้องและความยุติธรรมหลักอหิงสา โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
"ขอชี้แจงเพิ่มเติมที่สื่อบางสำนักบอกว่า เห็นอาตมาปีนรั้วออกจากวัดพระธรรมกายแล้วถูกทหารจับไปตรวจสอบ อาตมาคือพระจริง บวชเรียนมาแล้ว 7 พรรษา และมีความเลื่อมใสพุทธศาสนามาแล้ว 22 ปี การที่ปีนออกมาเพราะว่าม.44 ปิดกั้น มีญาติโยมที่เป็นห่วงหลวงพี่เดินทางมา เเละทราบว่าวัดไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าไปในวัด การเข้าไปก็ยากเย็นแสนเข็ญ พอเข้าไป มีคนที่ติดตามมาก็เป็นห่วง เพราะคนที่ติดตามมาเข้าไปวัดไม่ได้ และอยู่ตรงนี้ 2 วัน ขอเจ้าหน้าที่ออกมาก็ออกมาไม่ได้ เข้าก็เข้าไม่ได้ ไม่รู้ไปทางไหนก็เห็นช่องกำแพง ก็เลยปีนออกมา เพราะเป็นห่วงประชาชน และลูกศิษย์ที่นั่งสวดมนต์ตั้งเต๊นท์อยู่ที่ตลาดแห่งนี้ อาจจะมาอยู่ที่ตลาดแห่งนี้ได้ 3 วัน ก็รู้สึกเป็นห่วงเณรเเละคนที่อยู่ในวัดพระธรรมกาย"
พระอิสรภาพ กล่าวอีกว่า "ดังนั้นในบทบาทของพระภิกษุ เบื้องต้นอยากจะชี้ชวนให้ทุกคนย้อนกลับมายืนหยัดเรื่องศีลธรรมซึ่งทำง่ายๆคือศีล 5 ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติ ประกอบหน้าที่และทำอย่างไรให้อยู่ในศีล 5 อาตมา จึงขอฝากเอาความจริงไปบอกกับชาวโลกด้วย "
ด้านนายอัยย์ เเถลงว่า ถ้าสื่อมวลชนจะเข้ามาทำข่าวในนี้ ก็ให้มาทำได้เลย โดยไม่ปิดกั้นใดๆทั้งสิ้น จะยังยืนยันคำเดิม ขอให้นำเสนอในสิ่งที่ดีๆของทางวัดพระธรรมกาย เพียงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนเต๊นท์ในตลาดนั้นมีพระและศิษย์ยานุศิษย์วัดพระธรรมกายมานั่งสวดมนต์อย่างเนืองแน่น เเละมีเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนยืนเป็นแถวยาวเพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนอย่างต่อเนื่อง
เวลา17.20น.คณะศิษย์วัดพระธรรมกาย ออกเเถลงการณ์ชี้เเจงว่า "ลูกศิษย์แจงมีมติไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เอง - ไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อทัตตชีโว"ใจความว่า
ประเด็นที่หลวงพ่อทัตตชีโว อธิบายให้ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ถึงความกังวลของญาติโยม จนเป็นเหตุให้สาธุชนมีมติกันเองว่า ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เนื่องจากไม่ไว้วางใจจากสาเหตุดังต่อไปนี้
1. ประเด็น รูปเหมือนทองคำ หลวงปู่วัดปากน้ำ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10ทรงเสด็จมาเป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือนเอง เมื่อปี พ.ศ. 2537แต่ถูกสงสัยว่าเป็นทองคำเก๊
2. ประเด็นการวางศิลาฤกษ์อุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนฯ และสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ เสด็จแทนพระองค์ มาในพิธี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาต
3. คดีเกิดขึ้น 300กว่าคดี ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน และพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะมีคดีเพิ่มตามมาอีก
4. วัดพระธรรมกาย สร้างโดยความร่วมแรงร่วมใจและปัจจัยจากญาติโยม ที่เก็บเล็กผสมน้อยบริจาคกันมา ญาติโยมนับล้านคน จึงเป็นเจ้าของวัดตัวจริง แต่ทางการมาออกประกาศให้ญาติโยมออกจากวัด หากจะอยู่ภายในวัด ก็จะถูกตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดเสบียง และอาจจะถูกดำเนินคดีต่อไป นั่นคือ ไล่เจ้าของวัดออกจากวัดที่ตนเองสร้าง ทั้งๆที่ ญาติโยมเองไม่ได้อยู่ขวางถนนแต่อย่างใด
5. การบวชพระ สร้างศาสนทายาทแต่ละรูปนั้นไม่ง่าย กว่าจะได้ถึง 2000 รูป ในปัจจุบัน ต้องใช้เวลานาน แต่กำลังจะถูกยัดข้อหาว่า เป็นพระปลอมและจะถูกจับสึก ญาติโยมก็ยิ่งยอมรับไม่ได้
6. กรณี ใช้ ม.44เข้าตรวจค้น ตั้งแต่วันที่ 16-18 ก.พ. รวม 3 วัน ค้นทุกพื้นที่ ทุกอาคาร ทุกชั้น ทุกห้อง ยึด 6 ประตู , ซีลอายัด 15 อาคาร บางอาคารตรวจซ้ำถึง 3 ครั้ง และเจ้าหน้าที่สรุปภารกิจเป็นหนังสือระบุว่า ไม่พบเป้าหมาย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และไม่พบการกระทำผิด ถือว่า ภารกิจจบแล้ว แต่ก็ยังมาขอค้นอีก โดยให้เหตุผลว่า ยังค้นไม่ครบทุกอาคาร
ด้วยพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวแล้วนี้ ทำให้ญาติโยมไม่พอใจ และไม่ไว้วางใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อีกต่อไป
ทั้งหมดข้างต้นนี้ หลวงพ่อทัตตชีโว ได้อธิบายเหตุผลที่ญาติโยมไม่สบายใจและไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ให้กับ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและพ.ต.ต.สุริยาทราบ ดังนั้นการกล่าวหาว่าหลวงพ่อทัตตชีโว ไม่ให้ความร่วมมือนั้น จึงไม่เป็นความจริง เพราะเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว เป็นเหตุผลและมติของญาติโยมกันเองทั้งสิ้น
ความจริงคือ ดีเอสไอใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะการเจรจาแจ้งว่าค้นเพื่อหาหลวงพ่อธัมมชโย แต่กลับบอกว่าต้องให้พระ และญาติโยมออกจากวัด ถึงแม้จะอ้างว่าพระที่มีใบสุทธิสงฆ์ว่าเป็นพระวัดพระธรรมกาย และลูกศิษย์อยู่ได้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะต้องการที่จะยึดวัด ไม่ใช่มาจับหลวงพ่อธัมมชโย ดีเอสไอรู้อยู่แล้วว่าหลวงพ่อธัมมชโยไม่อยู่ ดังนั้นที่บอกว่าให้หลวงพ่อมอบตัวเรื่องก็จบ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะดีเอสไอรู้อยู่แล้วว่าท่านไม่อยู่ จึงเอาเป็นข้ออ้างที่จะบุกยึดวัด และสึกพระ เพื่อทำตามคำสั่งของใครบางคน? ที่อ้างว่าต้องให้คนไทยทั้งประเทศรู้ และขอถามว่าให้รู้เรื่องอะไร เพราะดีเอสไอเข้ามาค้นทุกอาคารแล้วไม่พบหลวงพ่อธัมมชโย พบแต่อาคารว่างเปล่า ไม่มีของล้ำค่าใดๆ อย่างที่ตั้งใจ เพราะวัดพระธรรมกายไม่มีทรัพย์สินมีค่าอะไร พระสงฆ์สามเณรเราอยู่อย่างสมถะ ข้าวของเครื่องใช้ฟุ่มเฟือยไม่มี จึงไม่สมปรารถนา แต่ยังเชื่อว่าวัดมีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ จึงต้องการค้นเพื่อให้พบขุมทรัพย์โคมลอยทั้งที่ไม่มี แต่เมื่อทางวัดบอกว่าไม่มี ก็ไม่เชื่อ แถมยังกล่าวหาพระ กล่าวหาคนที่มาปฏิบัติธรรมว่าไม่ถูกต้อง จนทำให้ญาติโยมไม่ยอมรับพฤติการณ์เจ้าหน้าที่อีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าของตลาดกลางคลองหลวง เข้าแจ้งความสภ.คลองหลวง ให้นำพระ-ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายออกจากพื้นที่ค้าขาย ขณะเดียวกันพ.ต.ต.สุริยา ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ในย่านดังกล่าว
ขอบคุณ ::::: springnews.co.th/th/2017/02/26575/