(27พ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ
ร่วมกันแถลงข่าว โดยพล.ต.จำลอง กล่าวยืนยันว่า พันธมิตรฯจำเป็นที่จะต้องยึดสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมืองและทำเนียบรัฐบาล ต่อไปเพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องให้รัฐบาลหุ่นเชิดลาออก ส่วนความเดือดร้อนที่กระทบวงกว้างนั้นเราทราบดี แต่ไม่มีการชุมนุมที่ไหนในโลกที่ไม่สร้างความเดือดร้อนแล้วเกิดการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เราได้พิจารณาแล้วเห็นว่าความเดือดร้อนที่เกิดวันนี้ดีกว่าปล่อยให้รัฐบาลนี้บริหารต่อไปสร้างความเสียหายให้กับประเทศต่อไป สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงที่กระจายตัวไปทั่วประเทศเป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่านายกรัฐมนตรีควรจะลาออก ถ้าไม่ลาออกนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลหุ่นเชิด ต้องรับผิดชอบกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การปิดสนามบินนั้นได้ส่งผลกระเทือนในระดับโลก พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เราคำนึงถึงความเสียหายในประเทศเป็นหลัก
หากรัฐบาลหุ่นเชิดนี้อยู่ต่อไป ประเทศไทยเสียหายมากกว่านี้หลายเท่า ขอยืนยันว่าสิ่งที่พันธมิตรฯทำนั้นเพื่อประเทศชาติ ต่างกับรัฐบาลที่ทำเพื่อตัวเองและหมู่คณะไม่ใช่เพื่อประเทศชาติ เมื่อถามต่อไปว่า การไล่รัฐบาลแต่ต้องแลกกับความเสียหายมากมายมหาศาล เหมือนการจับหนูตัวเดียวแต่ต้องเผาบ้านทั้งหลังหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ใช่เสียหายมากเกินไป แต่อยู่ที่รัฐบาลหน้าด้านมากเกินไปมากกว่า ไม่มีรัฐบาลในโลกทำแบบนี้ ความเสียหายทุกวันนี้รัฐบาลแก้ไขง่ายโดยการลงนามลาออกเท่านั้นไม่เสียงบประมาณแม้แต่บาทเดียว แต่ยุบสภานั้นต้องเสียเวลา และเสียเงินกว่า 2 พันล้านในการเลือกตั้ง
ส่วนที่รัฐมนตรีเดินทางจากบน. 6 เพื่อไปประชุมที่จ.เชียงใหม่ นั้นแต่เดิมมีพันธมิตรฯต้องการไปปิดล้อมบน. 6 แต่แกนนำหารือกันแล้วเห็นว่าอย่าไปทำอย่างนั้น ปล่อยให้เขาขึ้นบินไปประชุม
แต่เราแสดงให้เห็นว่าเราไม่เห็นด้วยกับการประชุม ครม. สำหรับพันธมิตรฯจ.เชียงใหม่จะไปชุมนุมกดดันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่พันธมิตรฯในพื้นที่ เราไม่ได้สั่งการแต่อย่างใด พล.ต. จำลอง กล่าวถึง ข้อเสนอของกองทัพที่ให้รัฐบาลยุบสภาและพันธมิตรฯถอนการชุมนุม ว่า พันธมิตรฯไม่ใช่ว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอของกองทัพและภาคเอกชน แต่เรารอดูรัฐบาลว่าจะยุบสภาหรือไม่ ถ้ายุบสภาเราจะปรึกษากับผู้ชุมนุมว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เมื่อนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นต้องชุมนุมต่อไป การที่ส.ส.ในรัฐบาลออกมารวบรวมรายชื่อขอปลดพล.อ. อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.นั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเพราะผบ.ทบ.ไม่มีความผิด ความผิดอยู่ที่รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ต้องแก้ที่ตัวเองไม่ใช่การปลดผบ.ทบ.
“ถ้ารัฐบาลไม่ลาออกสถานการณ์จะยุ่งยากกว่านี้แน่นอน ส่วนท่าทีของกองทัพนั้น เราไม่ได้คาดหวังหรือเสนอว่าจะมีมาตรการกดดันรัฐบาลที่หนักกว่านี้ สิ่งที่น่าคิดหลังจากนี้คือต้องดูว่ารัฐบาลจะปลด พล.อ.อนุพงศ์ ก่อนหรือพล.อ. อนุพงศ์ จะไปปลดรัฐบาลก่อน ” พล.ต.จำลอง กล่าว
“จำลอง”แนะจำตา“สมชาย-อนุพงศ์”ใครปลดใครก่อน
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกระแสข่าวการสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ถ้าจะสลายสามารถทำได้ทุกวัน แต่ที่ไม่กล้าทำเพราะถ้าสลายแล้วจะมีมวลชนเข้ามาอีกมากมาย
ล่าสุดมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาปิดล้อมทำเนียบฯเพื่อตัดเสบียงพันธมิตรฯ ถ้าทำเช่นนั้นจริงเราก็จะขอเชิญมวลชันที่อยู่ในกทม.มาล้อมตำรวจอีกชั้น ถ้าตำรวจจะล้อมเรา เราก็ล้อมอีกชั้น จนในที่สุดตำรวจก็ล่าถอยไปทั้งหมด เมื่อถามถึงคำสั่งศาลแพ่งที่คุ้มครองชั่วคราวให้พันธมิตรฯออกจากสนามบิน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายศาล เมื่อได้รับหมายแล้วทนายความจะยื่นคำร้องไปยังศาลแพ่งขอให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว นายพิภพ กล่าวว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่มีศักยภาพในการบริหารประเทศ เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย เพียงแต่ต้องการอยู่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตระกูลชินวัตรโดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติ สิ่งที่พันธมิตรฯเรียกร้องง่ายมากคือขอให้มีรัฐบาลที่ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น แต่รัฐบาลนี้มีการทุจริตคอร์รัปชั่น มุ่งหาเงินเข้าพรรคพวกตัวเองและทำทุกอย่างเพื่อทักษิณ ถ้านายกรัฐมนตรีลาออกปัญหาทุกอย่างยุติทันที แต่เป็นเพราะไม่เห็นแก่ประเทศชาติปัญหาจึงเกิดขึ้น
นายพิภพ กล่าวว่า การที่กองทัพออกมากดดันรัฐบาลให้ต้องยุบสภาครั้งนี้เป็นการดำเนินการโดยได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจ
แสดงให้เห็นว่าคนทั้งสังคมเห็นชัดแล้วว่าต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่รัฐบาล ดังนั้นขอเชิญชวนประชาชนแสดงอารยะขัดขืน ไม่เชื่อฟังรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลลาออกไปโดยเร็วที่สุด นอกจากขอชี้แจงกรณีที่มีพี่น้องชาวมุสลิมที่จะไปประกอบพิธีทางศาสนาที่นครเมกกะนั้นทางพันธมิตรฯได้เจรจากับการท่าอากาศยานแล้วว่า จะให้พี่น้องมุสลิมสามารถขึ้นเครื่องไปได้ แต่ทางการท่าฯไม่ยอมไปแจ้ง ต้องการใช้กรณีนี้เป็นเกมการเมืองเพื่อทำลายพันธมิตรฯ
ขณะที่นายปานเทพ กล่าวว่า การชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นมีต้นเหตุจากรัฐบาล เราชุมนุมขับไล่มากว่า 6 เดือนในที่ตั้งปราศจากอาวุธ
แต่รัฐบาลกลับใช้อำนาจคุกคาม ใช้อาวุธสงครามทำร้ายตลอดเวลา จึงต้องมีการเพิ่มมาตรการการกดดันเพื่อหยุดการใช้อำนาจของรัฐบาล ซึ่งหมายถึงการหยุดใช้ความรุนแรง แม้แต่กองทัพและภาคธุรกิจก็เห็นตรงกันว่าสาเหตุของปัญหามาจากรัฐบาลและต้องพ้นจากตำแหน่งไป “ ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเป็นผลที่สืบเนื่องมาจากรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ดังนั้นการจะให้ความเสียหายยุติลงประชาชนทั่วประเทศต้องออกมาหยุดทำหน้าที่โดยเร็วที่สุด ถ้าประชาชนออกมามากกว่านี้เราจะมีกิจกรรมที่หลากหลายสามารถหยุดอำนาจรัฐบาลได้เร็วกว่านี้ ” นายปานเทพ กล่าว