นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (26 พ.ย.) ถึงการเข้าบุกยึดและปิดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศเสียหายอย่างมาก เพราะเป็นประตูแรกในการเดินทางเข้าประเทศของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปัญหาด้านรายได้จากการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกเที่ยวบินเข้าประเทศ จึงขอวิงวอนกลุ่มพันธมิตรฯ ให้เลิกกระทำการดังกล่าว สำหรับการประชุม คณะรัฐมนตรีในช่วงบ่ายวันนี้ ยังคงเป็นไปตามกำหนดเดิม เนื่องจากต้องมีการพิจารณาวาระที่สำคัญหลายด้าน เพื่อให้แนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ เพราะหากไม่มีการประชุมจะทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จากปัญหาเครื่องบินเปลี่ยนจุดลงจอดจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาเป็นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็ติดปัญหาไม่สามารถออกจากเครื่องได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีไม่เพียงพอ จนทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือจำนวนกว่า 2,000 คน ต้องติดค้างมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ล่าสุดได้มีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เข้าประจำการอำนวยความสะดวก ทำให้ผู้โดยสารสามารถทยอยออกจากสนามบินได้แล้ว
สำหรับเครื่องบินที่มาลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง มีทั้งสิ้น 16 ลำ ส่วนใหญ่เป็นของการบินไทย
โดยเที่ยวบินแรกมาจากโอซาก้า เมื่อเวลา 04.39 น. อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารส่วนใหญ่บอกว่า เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ประเทศของตัวเองก็มีเหตุการณ์แบบนี้ จะมีก็เพียงรู้สึกไม่สบายใจบ้างเล็กน้อยเท่านั้น ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังพันธมิตรฯ บุกเข้าไปปักหลักในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินความเสียหายเบื้องต้น เฉพาะค่าธรรมเนียมการจอดและหลุมจอดไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายในส่วนของสายการบิน