จากการเคลื่อนพลไปมาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากทำเนียบรัฐบาลไปยังสนามบินดอนเมืองและกองบัญชาการกองทัพไทย กระทั่งเคลื่อนย้ายมาปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เกิดการปะทะกับฝ่ายต่อต้านอย่างรุนแรง กระทั่งมีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน บรรยากาศบริเวณปากซอยวิภาวดี 3 (ขาออก) ถนนวิภาวดีรังสิต
มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50 คนถืออาวุธมีด ไม้ ท่อนเหล็ก ยืนโบกธงชาติอยู่ปากซอยพร้อมส่งเสียงร้องไล่กลุ่มพันธมิตร ต่อมาเวลา 17.10 น.ขณะกลุ่มพันธมิตรประมาณ 30 คน นั่งรถบรรทุก 6 ล้อ มาตามถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) ถึงบริเวณปากซอยวิภาวดี 20 ตรงข้ามซอยวิภาวดี 3 (ขาออก) ถูกคนกลุ่มบุคคลไม่ทราบว่าเป็นฝ่ายใดขว้างก้อนหินใส่รถกลุ่มพันธมิตร ทำให้คนขับรถบรรทุกจอดรถกลางถนน เยื้องซอยวิภาวดี 3 จากนั้นกลุ่มพันธมิตรถืออาวุธมีด ไม้ วิ่งลงจากรถกรูกันข้ามเกาะกลางถนนตัดหน้ารถที่วิ่งสัญจรผ่านไป-มา ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์แตกตื่น
จากนั้นกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มคนเสื้อแดงต่างใช้อาวุธขว้างใส่กันไป-มา และมีเสียงคล้ายอาวุธปืนดังติดต่อกันหลายนัด
ซึ่งพบว่ามีชายสวมเสื้อลายพรางทหารยืนอยู่ตอนหัวของรถบรรทุกเป็นคนยิง ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาขว้างปาสิ่งของและทำร้ายกันนานกว่า 20 นาที ทำให้การจราจรบนถนนวิภาวดีทั้งสองฝั่งติดยาว ประชาชนที่อยู่บนรถประจำทาง ต้องลงมาเดินเท้าแทน ต่อมาทางกลุ่มพันธมิตรประกาศผ่านเครื่องเสียงให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองถอยกลับมาขึ้นรถ แต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงขว้างสิ่งของใส่อีก ทำให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองไม่พอใจ ย้อนกลับมา ใช้ไม้ขว้างปาใส่กลุ่มคนเสื้อแดงและวิ่งไล่ทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปในซอยวิภาวดี 3 โดยกลุ่มพันธมิตรบางส่วนทำลายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณปากซอยวิภาวดี 3 จากนั้นนำรถจักรยานยนต์และยางรถยนต์มาเผาจนเกิดเพลิงลุกไหม้ เวลาผ่านไปอีก 10 นาที กลุ่มพันธมิตรจึงล่าถอยกลับขึ้นรถพร้อมส่งเสียงร้องแสดงความชัยชนะ หลังสถานการณ์คลี่คลายปรากฏว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บ 11 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลเปาโล
ผู้สื่อข่าวรายงานรายชื่อผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 3 ได้แก่ มีทั้งสิ้น 11 ราย
1.นายเรืองยศ ชูเดช
2.นายศุภมิตร จันประพันธ์
3.นายสุชาติ ช้างเนียม
4.นายชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ
5.นายสมคิด พิษนอก
6.นายนนท์ พิทยะนันท์
7.นายคมสัน ติวงศ์สุข
8.นายสำรวย ขัยผา
9.นายจันดา ตคชมพู
10.นายวิรัตน์ เอี่ยมระหงษ์
11.น.ส.ศิริประภา วงศ์ลีลากร
แดง-เหลือง ปะทะเดือด! กลางถนน เสียงปืนสนั่นลั่นกรุง เจ็บ 11 ราย
สำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์รายงานโดยอ้างภาพที่เห็นจากสถานีโทรทัศน์ของไทยว่า กลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้ยิงปืนไม่น้อยว่า 6 นัดเข้าใส่กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลกลางถนน
เหตุปะทะกันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลขว้างหินใส่รถบรรทุกกลุ่มพันธมิตร ที่เดินทางมาจากสนามบินดอนเมือง ทำให้กลุ่มพันธมิตรใช้ปืนสั้นอย่างน้อย 2 กระบอกยิงโต้ จากนั้นจึงวิ่งไล่ตามกลุ่มผู้ซุ่มโจมตีหลายสิบคน ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศระบุว่า ผู้ที่อยู่บนรถบรรทุกที่ใส่ชุดพรางพร้อมผูกผ้าเหลืองคือกลุ่มที่ถูกเรียกว่าการ์ดของพันธมิตรปะทะกับโชเฟอร์แท็กซี่สุวรรณภูมิ
ขณะเดียวกันบริเวณจุดบริการรถยนต์แท็กซี่สาธารณะ ที่ตั้งอยู่ด้านล่างทางยกระดับ มีกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่หลายร้อยคน รวมตัวกันถือท่อนไม้และเหล็กปิดเส้นทางขวางไว้
เพื่อป้องกันไม่ให้พันธมิตรอีกกลุ่มหนึ่งผ่านขึ้นไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรที่ปิดเส้นทางอยู่ด้านบน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลประมาณ 300 นาย พร้อมโล่และกระบองเข้าเคลียร์พื้นที่ ไล่กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ให้ออกนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน
เวลา 18.30 น. กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ประมาณ 200 คน จับกลุ่มและย้อนกลับมาอีกครั้ง พร้อมส่งเสียงตะโกนขับไล่พันธมิตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลต้องรีบเข้าสกัด แยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ร้องและก่นด่าใส่กัน โดยฝ่ายพันธมิตรใช้ลูกเหล็กยิงด้วยสติ๊ก ส่วนฝ่ายตรงข้ามใช้ท่อนไม้และเหล็กข้างปาตอบโต้กันอย่างชุลมุน ทำให้ตำรวจปราบจลาจลที่อยู่ตรงกลางต้องวิ่งหลบและใช้โล่กำบัง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สามารถผลักดันกลุ่มรถแท็กซี่ออกไปจนได้
นายธนพล สมสุข อายุ 38 ปี คนขับรถแท็กซี่ เผยว่า ที่พวกตนรวมตัวขัดขวาง เพราะไม่พอใจที่พันธมิตรปิดล้อมสนามบิน ทำให้พวกตนขาดรายได้
อีกทั้งก่อนหน้าที่พันธมิตรจะปิดสนามบินนั้น มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งใช้รถกระบะ 3-4 คัน ขับมาสังเกตการณ์เส้นทาง เมื่อผ่านบริเวณจุดจอดรถแท็กซี่ของพวกตน ชายฉกรรจ์ในรถกระบะคันหนึ่งที่มีสัญญลักษณ์กาชาดสีแดงติดข้างรถ ใช้ปืนยิงใส่กลุ่มพวกตน ถูกคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่งที่ขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ฯ