รพ.รามาธิบดี วันเดียวกัน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รอง ผอ.รพ.รามาฯ พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาฯ
ร่วมกันแถลงผลการรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุยิงระเบิดในทำเนียบฯ ว่า รพ.รามาฯได้รับตัวผู้บาดเจ็บไว้รักษา 11 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย คือนายเจนกิจ กลัดสาคร และมีผู้บาดเจ็บต้องนอนรักษาตัว 2 ราย เป็นชายอายุประมาณ 39 ปี 1 คน มีบาดแผล กระดูกใบหน้าแตกทะลุ มีเศษวัสดุแปลกปลอมเข้าไปฝังในโพรงกระดูกบริเวณใบหน้า ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายเป็นหญิงอายุ 52 ปี มีบาดแผลลึกที่บริเวณสะโพก ส่วนผู้บาดเจ็บอื่นๆ อีก 8 รายมีแผลลักษณะคล้ายสะเก็ดระเบิดฝังเป็นรอยถลอกตามร่างกาย แขนขา สะโพก แพทย์รักษาด้วยการล้างแผลแล้วให้กลับบ้าน
พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียชีวิตถูกนำตัวส่งมารักษาที่ห้องฉุกเฉิน รพ.รามาฯ เมื่อเวลา 03.50 น.
อาการที่เห็นมีเลือดออกบริเวณปากจำนวนมาก ไม่สามารถวัดความดันโลหิตได้ แพทย์ได้เร่งช่วยชีวิต แต่อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตลงในเวลา 04.40 น. ผลจากการชันสูตรศพ พบบาดแผลเป็นรอยทะลุที่คอด้านซ้าย ขนาด 0.8-0.9 ซม. บาดแผลทะลุเข้ากล้ามเนื้อคอด้านซ้าย ทิศทางจากซ้ายไปขวา มีแผลทะลุเส้นเลือดแดงใหญ่คอด้านซ้าย ทำให้มีเลือดออกที่หลอดอาหารส่วนบน หลอดลมเหนือบริเวณกล่องเสียง ปาก จมูก พบเศษวัสดุแปลกปลอม
สันนิษฐานว่าเป็นสะเก็ดระเบิดค้างอยู่บริเวณข้างหลอดลมด้านขวา และทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร
ผลการตรวจอวัยวะภายในพบว่า ที่เนื้อปอดมีการฟกช้ำ และมีเลือดออกกระจายเป็นหย่อมๆ ทั่วปอดทั้งสองข้าง จากการส่องกล้องจุลทรรศน์ พบว่า ถุงลมในปอดมีการขยายใหญ่ขึ้น ทำให้ผนังถุงลมบางจนฉีกขาดหลายแห่ง ลักษณะที่ปอดสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากแรงระเบิดระดับกลาง ไม่สูงหรือต่ำมาก ผลการตรวจอวัยวะภายในอื่นไม่พบความผิดปกติ
จากนั้น เวลาประมาณ 14.30 น. บริเวณหน้าหน่วย นิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งมีญาติของนายเจนกิจ กลัดสาคร ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 20 คน ซึ่งบางคนเดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เดินทางมารอรับศพ โดยทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้า ร้องไห้ โดยที่นางปริญชาน์ สุขภูตานันท์ ภรรยาของนายเจนกิจ ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เนื่องจากมีอาการเศร้าโศกสะเทือนใจอย่างมาก