เมื่อเวลา 21.20 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวถึงเหตุการณ์ม็อบพันธมิตรฯบุกด่านายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่สนามบินฮุสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ
ว่เมื่อเห็นนายสมัคร และภริยา ที่นั่งอยู่สนามบินฮุสตัน รู้สึกสงสารนายสมัครและครอบครัว ที่ทำไมคนเราต้องรู้สำนึกว่าทำอะไรผิด ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เมื่อเห็นภาพนายสมัครที่พิงภริยาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกเดินหนี เหมือนจะบอกว่า ช่างมันจะด่าก็ด่าไป มันช่างต่างจากการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะต้องการให้กลุ่มพันธมิตรฯออกจากทำเนียบ อยากให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดูไว้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนรู้ว่าไม่ว่าจะหนีไปมุมโลกไหน ตราบใดที่ยังมีพันธมิตรฯ อยู่หนีไม่พ้น มันน่าช้ำใจที่นายสมัครคงคิดว่า ไปไกลถึงอเมริกาแล้วคงจะได้ตายอย่างสงบสุข แต่ไม่เป็นอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิยังทำท่าทางเดินเลียนแบบนายสมัครจากยืดอกองอาจผึ่งผาย กลายเป็นห่อเหี่ยวไม่มีเรี่ยวแรง
พร้อมระบุว่า ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงไม่กี่เดือน กลับเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ทั้งยังระบุว่า การที่ถูกคนด่าในขณะที่อายุ 70 กว่า ขณะที่เป็นมะเร็งใกล้ตาย เป็นเรื่องที่ช้ำใจมาก นอกจากนั้นยังระบุอีกว่า ใครก็ตามที่กล่าวหาว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ต่อสู้เพื่อให้เข้าไปมีอำนาจในบ้านเมืองต้องมาขอโทษ เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เคยคิดเช่นนั้น แต่ต่อสู้เพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่ในการดูแลบ้านเมืองออกมาทำหน้าที่เท่านั้น
นอกจากนั้นยังกล่าวโจมตีนายทหารชั้นสูงที่ออกมาระบุว่า
ไม่ว่ามีหรือไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯ นปช. หรือรัฐบาลชุดนี้ ประเทศไทยไม่รอดจากพิษเศรษฐกิจในปีหน้าว่า ให้ไปทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก่อน ไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้ หรือถ้าหวังดีกับเศรษฐกิจชาติจริง ให้คืนงบประมาณจัดซื้ออาวุธที่นายสมัครอนุมัติให้กลับมา แต่คงไม่มีทางเพราะมีค่าคอมมิสชั่นของนายทหารระดับสูงอยู่ในนั้น