เวลา 18.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา แถลงถึงส.ส.พรรคพลังประชาชนล่ารายชื่อเพื่อขอพระราช ทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
เนื่องจากคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ในการโฟนอินนั้น ยังไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่กระทำ แต่กล่าวหาศาลว่าไม่ยุติธรรม ดังนั้นแทนที่จะล่ารายชื่อขออภัยโทษ ควรล่ารายชื่อเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับผิดและยอมกลับมารับโทษยังดีกว่า หากพรรคพลังประชาชนยังเคลื่อนไหวแบบนี้ต่อไป จะทำให้สังคมมีความขัดแย้งอยู่ และเป็นเหตุผลให้กองทัพต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
นายสุริยะใส กล่าวว่า กองทัพต้องทบทวนท่าทีที่ยังไม่ยอมตรวจสอบคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่
นอกจากนั้นการปล่อยให้นำเทปดังกล่าวมาเปิดซ้ำในรายการความจริงวันนี้ และมีการรับลูกโดยส.ส.และรัฐบาล เป็นการใช้อำ นาจที่ไม่ชอบธรรม ทหารจะหยุดอำนาจที่ไม่ชอบธรรมอย่างไร
นายสุริยะใส กล่าวถึงท่าทีของกลุ่มพันธมิตรกรณีการประชุมรัฐสภาที่จะเสนอแก้ไขมาตรา 291 ตั้ง ส.ส.ร. 3 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนการเคลื่อนไหว
แต่จะเรียกประชุมภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อกำหนดท่าทีเคลื่อนไหวคัดค้าน อาจเคลื่อนขบวนไปขัดขวางการประชุมดังกล่าว แต่ไม่ยืนยันว่าจะทำตามนั้นหรือไม่ เพราะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.เป็นบทเรียนที่สำคัญของรัฐบาล ตำรวจ รวมถึงกลุ่มพันธมิตร ทุกอย่างต้องรอการประชุมของแกนนำก่อน
ส่วนปรากฏการณ์ม็อบเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และเหตุม็อบเสื้อแดงบุกสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีเชียงใหม่ นายสุริยะใสกล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่มีลักษณะปลุกเร้าให้มีความขัดแย้งมากขึ้น
อาจมีสัญญาณอะไรมาจากพ.ต.ท.ทักษิณ และอาจเป็นส่วนบีบคั้นให้กองทัพออกมาทำรัฐประหาร เพราะเงื่อนไขการทำรัฐประหารไม่ได้อยู่ที่ประชาชน แต่เกิดจากการกระทำของรัฐว่าจะลดเงื่อนไขหรือคลี่ คลายสถานการณ์หรือไม่ แต่ขณะนี้รัฐบาลไม่รู้ร้อนรู้หนาวในคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณที่หมิ่นอำนาจศาล และคนในรัฐบาลยังเห็นด้วยกับคำปราศรัย ยิ่งทำให้เกิดเงื่อนไขขึ้นได้ นอกจากนั้นยังรู้สึกแปลกใจที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่ออกมาห้ามปรามการกระทำดังกล่าว กลับส่งสัญญาณเห็นดีเห็นงามกับการเข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราช ทานอภัยโทษในขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยอมรับผิด
นายสุริยะใส กล่าวว่าการบุกไทยทีวีสาธารณะ เชียงใหม่ว่า เป็นสิทธิในการแสดงออกของประชาชนที่ไม่พอใจสื่อมวลชนที่เสนอข่าวได้
แต่หากมีเหตุเกินเลยผู้กระทำต้องรับผิดชอบ และไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกับการบุกเข้ายึดเอ็นบีที ของกลุ่มพันธมิตร เพราะไทยทีวีสาธารณะไม่ได้เป็นปากกระบอกเสียงของกลุ่มพันธมิตร ดังเช่นเอ็นบีทีเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล ดังนั้นฝั่งนปก.จะเลียนแบบว่าเสื้อเหลืองปิดเอ็นบีทีได้ เสื้อแดงจะปิดไทยทีวีสาธารณะได้เช่นกันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง