ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 31 ต.ค. มีผู้ขับรถเบนซ์สีดำ และปาระเบิดควันใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์
ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า เห็นบุคคลในรถเบนซ์ดังกล่าวใส่เสื้อสีดำ และจำหมายเลขรถทะเบียน 4444 แต่จำตัวอักษรหน้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ระเบิดดังกล่าวส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มีควันพวยพุ่งออกมา และมีสะเก็ดระเบิดเล็กกระเด็น โดยไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าวันนี้ กลุ่มรักษาความปลอดภัยพันธมิตรฯ ได้ตรึงกำลังเข้มงวดมากขึ้น โดยได้ตรวจตราผู้ที่เข้าออกภายในทำเนียบรัฐบาลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจสิ่งของก่อนเข้ามาภายใน
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมคม ว่า ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนก่อน
ที่ผ่านมาตำรวจก็ดูแลความปลอดภัยตามปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น คิดว่าต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจมีการเคลื่อนย้ายกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ในช่วงมีเหตุระเบิดนั้น พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า คิดว่าไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะตำรวจเราทำหน้าที่ทุกวัน มีการสับเปลี่ยนกำลังทุกวัน และต้องเจรจากับพันธมิตรในส่วนที่ต้องแยกแยะว่าส่วนไหนของพันธมิตร และส่วนตรงไหนของตำรวจที่จะเข้าไปได้
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบ.ช.น.) กล่าวว่า ส่วนเกิดเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานฯเบื้องต้น พบกระเดื่อง น่าเชื่อว่าเป็นลูกเกลี้ยงชนิดเอ็ม 87 ซึ่งเป็นระเบิดชนิดที่มีกันทั่วไป เหมือนระเบิดขว้างแต่เป็นลูกเกลี้ยง เป็นระเบิดสังหาร
พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ส่วนเหตุนายสังเวียนถูกยิงที่หน้าผากทะลุท้ายทอย 1 นัด เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับทั้งแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และพันธมิตร ก่อนเกิดเหตุตำรวจห้ามว่าอย่าเข้าไปในบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตามนายสังเวียนถูกยิงก่อนถึงจุดดังกล่าว โดยถูกยิงขณะยังไม่ได้เข้าไปในสี่แยกสวนมิสกวัน โดยมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบันทึกภาพคนตายขณะที่เข้าไป และขณะถูกยิง เห็นได้ชัดเจนว่ากระสุนมาจากทางไหน คนถูกยิงทำอย่างไรบ้าง เคลื่อนไหวอย่างไร วิถีชัดเจนว่ามาจากทางใด แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ต้องรอการสอบสวนบางอย่าง ประกอบกับมีกระสุนบางส่วนไปโดนกำแพงและป้ายรถเมล์ด้วย แต่ขอเวลาอีกสักนิดอย่าเพิ่งฟันธง
ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า นายสังเวียนไม่น่าจะเชื่อมโยง
เมื่อถามว่ากรณีขว้างระเบิดสังหารใส่การ์ดพันธมิตร มีการวิเคราะห์ว่ามีเป้าประสงค์เพื่ออะไร พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ถ้าโยนระเบิดสังหาร คิดว่าไม่ก่อกวนแน่ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินสถานการณ์ว่าจะรุนแรงหรือไม่ พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ในช่วงนี้คงจะมีลักษณะระเบิดป่วนเมือง น่าจะยังมีอยู่ ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยมีจุดวางกำลังเพิ่มเติมและมีจุดตรวจต้องรบกวนประชาชนที่เดินทางยามค่ำคืน อาจจะพบจุดตรวจเพิ่มขึ้นโดยเน้นตรวจรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวก่อนร่วมประชุมสภากลาโหม ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าสะพานมัฆวานฯน่าเป็นห่วงว่า ยิ่งใกล้ในช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จะมีแนวโน้มของเหตุการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น
รัฐบาลและตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายให้เข้มงวด ต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถคุ้มครองชีวิต ทรัพย์สิน ความปลอดภัยของประชาชนได้ หากกฎหมายไม่เป็นกฎหมายแล้วจะมีกลุ่มอะไรต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รัฐบาลควบคุมเหตุการณ์ได้ลำบาก นำมาซึ่งเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้น ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ สน.นางเลิ้ง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ประชุมเรียกพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดีระเบิดที่สะพานมัฆวานฯใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยให้ฝ่ายสืบสวนเร่งประสานไปยังกองทัพบก ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเพื่อขอดูภาพกล้องวงจรปิด
ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชรกล่าวว่า สอบพยานผู้เห็นเหตุการณ์คือ นายเชิดศักดิ์ ศรีสุบิน อายุ 50 ปี
อยู่ที่ 124/7 หมู่ 2 แขวง-เขตบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการ์ดพันธมิตร ให้การว่า เข้าเวรเวลา 24.00 น. ถึง 06.00 น. ระหว่างที่ชงกาแฟที่เต๊นท์บริเวณสะพานมัฆวานฯ พบชายต้องสงสัยสวมหมวกกันน็อคขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง ผ่านถนนราชดำเนินนอกช่องกลาง ถึงแยกสะพานมัฆวานฯและเลี้ยวขวาออกไปทางวัดโสมนัส 2 รอบ กระทั่งรอบที่ 3 พบว่าชายดังกล่าวขับรถมาอีก และมีคนซ้อน 1 คน เมื่อผ่านสะพานมัฆวานฯสักพัก คนซ้อนลงมาและวิ่งปาระเบิดเข้าใส่ ก่อนหลบหนีไป จากนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ที่สะพานชมัยมรุเชฐ และได้ยินอีก 1 นัดที่แยกสวนมิสกวัน
ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชรกล่าวว่า หลังสอบปากคำได้สักพัก นายเชิดศักดิ์ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนหลบหนีออกไป อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว และประสานไปยังสำนักงานปลัดบัญชี ในกองทัพบก เพื่อนำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบดู
อีกแล้ว! โยนระเบิดควันใส่พธม. โชคดีไม่มีคนเจ็บ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง อีกแล้ว! โยนระเบิดควันใส่พธม. โชคดีไม่มีคนเจ็บ