ม็อบพันธมิตรยังตามราวีนายกฯสมชาย รวมตัวกว่า 300 คนที่ทีโอทีดักรอนายกฯไปมอบนโยบาย ถือมือตบฮือเข้าโห่ไล่ด่าสนั่น นายกฯทำใจดีสู้เสือขอจับมือม็อบไล่ พอขากลับม็อบยังล้อมโห่ไล่จนรปภ.นายกฯต้องยกมือไหว้ก็ไม่เป็นผล ทั้งขวดน้ำปาใส่ รองเท้าว่อนเฉียดหัวสมชาย ก่อนมีหนุ่มปรี่จะเข้าชกหน้านายกฯ แต่รปภ.เข้าขวางเลยโดนลูกหลงแทน นายกฯสมชายยันไม่โกรธ ไม่เสียหน้า พร้อมให้อภัย โฆษกรัฐโวยทำเกินขอบเขต ท้าแกนนำพธม.ออกเดินห้าง-ตลาดเช็กเรตติ้งบ้าง จะได้รู้ว่าคนคิดกันอย่างไร ด้านพธม.มีมติรื้อเวทีมัฆวานถาวร เหลือแค่ยึดทำเนียบที่เดียว "สล้าง"จัดงานทำบุญประเทศที่ลานพระรูป ประกาศจะยกกำลังไปปิดล้อมทำเนียบ 3 วันให้พธม.อดข้าวอดน้ำ อ้างมีแผนเด็ดยึดคืนทำเนียบ
-พธม.ทยอยรื้อเต็นท์มัฆวาน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรว่า ภายหลังแกนนำกลุ่มพันธมิตรประกาศรื้อเวทีและเต็นท์บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์และถนนราชดำเนินนอก เพื่อเปิดถนนใช้เป็นเส้นทางเสด็จในงานวันปิยมหาราชและงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยในช่วงเช้า ผู้ชุมนุมต่างเริ่มทยอยเก็บสิ่งของและเต็นท์ที่ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน นอกออก แต่ยังคงมีบางส่วนที่นำขวดน้ำมาวางไว้จำนวนมาก ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายออก ส่วนบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ได้รื้อเวทีออกทั้งหมดแล้ว พร้อมเปิดพื้นที่บริเวณดังกล่าว นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรยังนำประกาศไปติดทั่วพื้นที่เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมนำรถยนต์ออกจากถนนราชดำเนิน ภายในเวลา 05.00 น.ของ วันที่ 23 ต.ค.นี้
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตร ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ตัดสินจำคุกพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ โดย นายพิภพ กล่าวว่า หลังจากนี้ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย อัยการสูงสุดต้องทำหนังสือถึงรัฐบาล จากนั้นรัฐบาลต้องทำหนังสือเพื่อยื่นเรื่องต่อรัฐบาลอังกฤษ ให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งรัฐบาลต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ห้ามเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
-ถกด่วนจะเลิกม็อบหรือไม่
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงนักวิชาการระบุให้กลุ่มพันธ มิตรยุติการชุมนุมหลังศาลมีคำตัดสินว่า ตนจะนำความคิดเห็นของนักวิชาการเข้าหารือในที่ประชุมแกนนำกลุ่มพันธมิตร ที่บ้านพระอาทิตย์ ในเวลา 11.00 น. วันนี้ ที่ผ่านมาพวกเรารับฟังทุกฝ่ายและทุกคน แต่จะให้ตนตัดสินใจเพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องถามความคิดเห็นจากผู้ชุมนุมด้วย ซึ่งแกนนำยังไม่ได้กำหนดว่าจะยุติการชุมนุมหรือไม่ แต่เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ถือเป็นวันสำคัญที่ศาลมีคำตัดสินและกลุ่มพันธมิตรฯได้ชุมนุมมา 150 วัน ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้คดีของพ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหมดแล้ว จะเป็นเหตุผลให้กลุ่มพันธมิตรยุติการชุมนุมได้หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่คดีของพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เจ้าตัวกลับไม่มารับฟังและไม่มารับโทษก็ไม่มีผลอะไร แต่แกนนำจะนำเงื่อนไขนี้เข้าหารือในที่ประชุมวันนี้ด้วย
-"จำลอง"ไม่เจรจากับ"สล้าง"
เมื่อถามถึงพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร.จะทำบุญประเทศที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าแล้วจะเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงทำเนียบคืน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ และไม่ได้ประสานงานมาก่อน แต่หากมีเหตุปะทะหรือความรุนแรงเกิดขึ้น เป็นหน้าที่ของตำรวจจะต้องเข้ามาดูแล แต่หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ต้องขอกำลังเสริมจากทางทหาร ส่วนที่พล.ต.อ.สล้างระบุจะมาเจรจาเพื่อให้กลุ่มพันธมิตรคืนทำเนียบรัฐบาลนั้น ตนคิดว่าไม่สามารถเจรจาได้ เพราะไม่ใช่รัฐบาล แต่หากรัฐบาลจะขอเข้ามาเจรจา เรายินดีรับ เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำงานของรัฐบาล ไม่ใช่ที่ทำงานของกลุ่มใด ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีกลุ่มนปช.เข้ามาร่วมกับพล.ต.อ.สล้างด้วยนั้น ทางเราจะไม่ประมาทและไม่หวั่นไหว ถ้าหากเกรงกลัวคงไม่สามารถชุมนุมมาได้ถึง 150 วัน และเหตุการณ์อย่างนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
-นปช.จี้สอบการตายพ.ต.ท.
เวลา 10.45 น. ที่รัฐสภา แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็ดการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย แกนนำนปช.เข้ายื่นหนังสือต่อพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เพื่อให้ตรวจสอบเหตุการณ์การสลายผู้ชุมนุมในวันที่ 7 ต.ค.ในกรณีระเบิดรถเชโรกี ที่หน้าที่ทำการพรรคชาติไทยของ พ.ต.ท.เมธี หรือจ๊าบ ชาติมนตรี อดีตนายตำรวจที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าการ์ดพันธมิตร ตลอดจนการเสียชีวิตของน.ส.อังคณา หรือน้องโบว์ ระดับปัญญาวุฒิ และผู้เสียชีวิต ว่า สาเหตุมาจากแรงระเบิดหรือแก๊สน้ำตากันแน่ รวมถึงการตรวจค้นของสน.ดินแดง และสน.ดุสิต สามารถจับกุมบุคคลหลายคนที่พกพาอาวุธปืน กระสุน และอาวุธอื่นๆ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่าง และบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นอีก นปช.ขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาจำนวน 2 ชุดได้แก่ คณะกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเปิดเผยโปร่งใส ให้ทุกพรรคและสื่อมวลชนมีส่วนร่วมตรวจสอบและสรุปข้อเท็จจริงออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนต่อไป
ด้านพ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีความเห็นแตกต่างกันมาก ฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ของทุกคนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล พันธมิตรฯและนปช.ต้องร่วมมือร่วมใจกันรักษาบ้านเมืองไว้ ถอยกันคนละก้าวบ้านเมืองจะได้ไปรอด ดังนั้นขอให้ใช้ความอดทนและสันติวิธีนึกถึงบ้านเมืองให้มากๆ ส่วนสภาก็ทำตามกรอบของรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ
-ม็อบมือตบฮือไล่"สมชาย"อีก
เวลา 10.10 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางมายังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงาน โดยทันทีที่มาถึงได้มีพนักงานบริษัททีโอที จำกัด มหาชน ที่เป็นกลุ่มพันธมิตรประมาณ 300 คน พร้อมมือตบมารอที่บริเวณด้านหน้าอาคาร แต่เมื่อขบวนรถของนายกฯหลบเข้าทางชั้นใต้ดินด้านหลังอาคาร กลุ่มม็อบได้วิ่งตามมาตะโกนด่าพร้อมชูมือตบไล่ และเมื่อนายกฯลงจากรถเพื่อเข้าไปยังลิฟต์ ได้มีกลุ่มพันธมิตร 20 คนซึ่งดักรออยู่ก่อนได้กรูวิ่งเข้าไปล้อมไว้ และตะโกนด่าว่า "สมชายฆ่าประชาชน ฆาตกร ออกไป" พร้อมรัวมือตบ แต่นายสมชายทำใจดีสู้เสือเดินเข้าไปจับมือและยิ้มให้กลุ่มพันธมิตรประมาณ 2-3 คน ก่อนที่ตำรวจจะกันเข้าลิฟต์ไปทันที ขณะที่ทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยของนายกฯหลายคน ได้ยกมือไหว้กลุ่มพันธมิตรที่รุมล้อมนายกฯด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกฯขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้น 13 ของอาคารซึ่งเป็นสำนักงานของกระทรวงไอซีทีเรียบร้อยแล้ว กลุ่มพันธมิตรยังคงปักหลัก กระจายอยู่ตามลิฟต์และประตูเข้า-ออกทุกทาง พร้อมทั้งล้อมรถของนายกฯที่จอดอยู่บริเวณชั้นใต้ดินไว้ด้วย โดยแกนนำกลุ่มพันธมิตรได้ถือโทรโข่งแจ้งให้กับผู้ชุมนุมให้มารวมตัวกันให้มากที่สุด พร้อมประกาศว่าให้มาช่วยกันดูโฉมหน้าฆาตกร
-จี้ไอซีทีจัดการเว็บที่ไม่บังควร
ขณะที่นายสมชาย กล่าวตอนหนึ่งก่อนมอบนโย บายกับผู้บริหารไอซีที ซึ่งมีนายมั่น พัธโนทัย รมว. ไอซีที และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมช.คมนาคมว่า ต้องขอบคุณที่ให้การต้อนรับ แต่อย่าไปกังวลกับสิ่งแวดล้อม ตนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพียงแต่บังเอิญตอนเข้ามาเขาพามาผิดทาง แต่ตนไม่กังวล เรื่องงานก็เรื่องงาน ส่วนเรื่องนี้รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นประเด็น ก็ว่ากันไป ขอให้สบายใจได้ ไม่ใช่ว่าพอนายกฯมาแล้วเกิดปัญหา แล้วจะทำให้ตนไม่สบายใจ เรื่องนี้ไม่เป็นไร เราเข้าใจกัน
"เมื่อป้องกันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อยู่ด้วยกันไป ทำให้กลมกลืน เมื่อกี้ผมเข้าไปจับมือกับ 2-3 คน ไม่มีใครทำร้าย รอดตัวมาได้ อยากให้ทุกคนสบายใจ ผมพยายามใช้ความอดทนสูงกับสิ่งแวดล้อมเหล่านี้" นายสมชายกล่าว
ภายหลังการมอบนโยบาย นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ว่า มีนโยบายจะไปเยี่ยมการทำงานทุกกระทรวง เพื่อดูว่าจะให้การสนับสนุนอย่างไรและอะไรที่มีความจำเป็นกับประชาชน ที่มาวันนี้ไม่ได้มาก้าวก่ายเรื่องภายในของกระทรวง แต่ดูว่ามีอะไรติดขัดตรงไหน จะได้ช่วยแก้ไข เพื่องานจะได้เดินหน้าเร็วขึ้น ทั้งนี้กระทรวงไอซีทีมีภารกิจหนึ่งในการดูเรื่องเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งระยะหลังเว็บไซต์ที่ไม่บังควรออกมา ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทย ซึ่งรัฐบาลยอมไม่ได้ จึงมอบนโยบายให้รัฐ มนตรีไปจัดการแก้ไขเป็นเรื่องแรก และพร้อมจะสนับสนุนงบประมาณให้ ขณะนี้ได้ปิดไปแล้วหลายเว็บแต่ยังมีอีก
ปารองเท้า-ขวดน้ำ ใส่นายกฯ โดดชก-รปภ.ขวาง!
-ขากลับก็โดนม็อบล้อมกรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาที่นายกฯร่วมประชุมกับผู้บริหารไอซีที ทางทีมรักษาความปลอดภัยได้เดินสำรวจเส้นทางเข้า-ออกรอบๆ อาคารหลังจากทราบว่ามีม็อบพันธมิตรปิดล้อมเส้นทางเข้า-ออกไว้ทุกทาง โดยสอบถามเจ้าหน้าที่ของไอซีทีถึงลานจอดเฮลิคอป เตอร์บนอาคาร เผื่อกรณีฉุกเฉิน พร้อมสั่งให้นำรถเบนซ์กันกระสุนมาเตรียมเอาไว้อีกทางหนึ่งด้วย ขณะที่บริเวณด้านล่างอาคารทีมรักษาความปลอดภัยได้ประสานตำรวจจากสน.ทุ่งสองห้องมาสนับสนุนกำลัง แต่เมื่อตำรวจมาถึง กลุ่มพันธมิตรได้เป่านกหวีดและตะโกนขับไล่จนไม่สามารถเข้าไปในอาคารได้
กระทั่งเวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ตัดสินใจให้นายกฯลงลิฟต์มาบริเวณชั้น 1 ด้านหน้าอาคาร โดยประสานกับผู้สื่อข่าวให้ไปรอหน้าลิฟต์เพื่อเตรียมให้สัมภาษณ์ และทันทีที่นายกฯออกจากลิฟต์ กลุ่มพันธมิตรได้กรูเข้าไปโอบล้อม และบางคนพยายามเข้าไปประชิดตัวเพื่อนำมือตบไปตบให้ใกล้ๆหน้าของนายกฯมากที่สุด พร้อมตะโกนด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ทีมรักษาความปลอดภัยที่ห้อมล้อมนายกฯอยู่ ได้พยายามยกมือกันไม่ให้มือตบไปถึงได้ ขณะที่มีพันธมิตรบางคนได้นำขวดน้ำโพลาริสรุมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กันตัวนายกฯ และพยายามขว้างขวดน้ำไปที่นายกฯ
-ปาขวดน้ำ-รองเท้าใส่นายกฯ
ขณะที่กลุ่มพันธมิตรที่ล้อมอยู่ชั้นนอก ได้พยายามใช้ตัวและเท้าดันกลุ่มรปภ.และตำรวจเพื่อไม่ให้นายกฯเดินออกมาได้ ทำให้นายกฯที่อยู่ในวงล้อมของทีมรักษาความปลอดภัยและกลุ่มผู้สื่อข่าวเดินออกจากตัวอาคารเพื่อมาขึ้นรถอยู่ในสภาพทุลักทุเล และก่อนจะขึ้นรถไปได้ กลุ่มพันธมิตรฯได้ใช้มือตบและขวดน้ำขว้างไปที่ตัวนายกฯ ทำให้ขวดน้ำลอยเฉี่ยวศีรษะและตกลงตรงหน้านายกฯ และบางคนถึงขั้นถอดรองเท้าปาใส่เข้าไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาที่ถูกกดดันจากกลุ่มพันธมิตรทีโอที นายสมชายยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธหรือหงุดหงิดอะไรออกมา ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนที่นายสมชายจะเดินทางมาถึง ทางทีมรปภ.ส่วนล่วงหน้าได้แจ้งให้ทราบแล้วว่ามีกลุ่มพันธมิตรดักรออยู่ แต่นายสมชายยังยืนยันจะเดินทางมา โดยบอกว่า "ก็ผมจะไปทำงาน"
-ฮือจะชกหน้านายกฯแต่พลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่ชุลมุนกันอยู่นั้น มีชายคนหนึ่งเข้ามาประชิดตัวนายกฯ และปล่อยหมัดชกใส่หน้านายกฯ แต่ดีว่าทีมรปภ. กันไว้ได้แต่ก็โดนชกเต็มๆแทน โดนเข้าที่ขมับจนเขียว ส่วนนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ คณะทำงานนายกฯ โดนถีบที่ข้างหลัง นายนาวิน บุญเสรฐ คณะทำงาน โดนขวดน้ำปาถูกศรีษะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ นายกฯสมชายได้เปลี่ยนมาใช้รถอัลพาร์ดสีขาว ทะเบียนษณ 7676 กทม. ซึ่งเป็นของรมว.ไอซีที เพื่อเดินทางออกจากกระทรวงไอซีทีแทน ส่วนรถโฟล์กสีดำทะเบียน ฮฉ 9999 กทม. ที่ได้ใช้ตอนแรก ได้จอดทิ้งไว้ที่ชั้นใต้ดินของตัวอาคารตามเดิม จากนั้นเวลา 12.30 น. นายกฯได้แวะเข้าพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านพักภายในหมู่บ้านเบเวอร์ลี่ ฮิลล์ ย่านแจ้งวัฒนะ
-โฆษกรัฐชี้ทำเกินขอบเขต
เวลา 13.00 น.ที่ทำเนียบดอนเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวถึงกรณีม็อบมือตบทีโอทีรุมล้อมกดดันแสดงท่าทีไม่ต้อนรับคณะนายกฯ ระหว่างตรวจเยี่ยมกระทรวงไอซีที ว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคมไทยและสังคมประชาธิปไตยแม้การแสดงความไม่เห็นด้วย ไม่ยอมรับการทำงานของรัฐบาลจะถือเป็นสิทธิ์โดยชอบตามกฎหมายก็ตามแต่การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเกินเลยกว่าขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การปลุกระดมของแกนนำกลุ่มพันธมิตรผ่านเอเอสทีวีและเวทีปราศรัยต่างๆ เพราะต้องการให้เกิดภาพว่ารัฐบาลไม่ได้รับการต้อนรับจากประชาชน นายกฯถูกปฏิเสธจากประชาชนในทุกที่ที่ไปปฏิบัติงาน แต่การแสดงออกนั้นเป็นการกระทำของคนเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ขณะนี้คนอีกจำนวนมากไม่ได้เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวที่มีแต่จะสร้างภาพความแตกแยกขึ้นในสังคมให้เพิ่มมากขึ้น ตนขอเรียกร้องให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรแสดงความรับผิดชอบและมีจิตสำนึกกับการปลุกระดมผู้คนในการปฏิบัติการใดๆให้มากขึ้น
-ท้าแกนนำพธม.เช็กเรตติ้ง
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดที่ปลุกระดม ยุยง ให้ประชาชนไปปิดล้อมทำเนียบ รัฐสภา และใช้กำลังตอบโต้เจ้าหน้าที่ จนมีตำรวจบาดเจ็บจากการถูกยิง ถูกแทง ถูกรถทับ ซึ่งต้องถามว่าแกนนำของกลุ่มพันธมิตรจะรับผิดชอบด้วยหรือไม่ หรือจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร แต่ขณะเดียวกันกลับพยายามเคลื่อนไหวสร้างแรงเสียดทาน สร้างความกดดันและสร้างเงื่อนไขในการเผชิญหน้า ใช้กำลังปะทะและโยนความรับผิดชอบให้รัฐบาล ท้ายสุดใครกันแน่ที่เป็นคนจุดชนวนทั้งหมดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นคนที่อ้างตัวว่าเคลื่อนไหวเพื่อประชา ธิปไตย หากไม่มีจิตสำนึกในการเคารพสิทธิเสรีภาพของคนอื่นคงจะหาความยอมรับจากสังคมไม่ได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรน่าจะลองมาใช้ชีวิตปกติดูบ้าง ลองเดินเข้าห้างฯ เดินตลาดเหมือนคนปกติ คนสุจริตที่เขาใช้ชีวิตดูบ้าง จะได้เป็นการเช็กเรตติ้งตัวเองว่าถ้าแกนนำกลุ่มพันธมิตรมาเดินห้างฯ เดินตลาดแล้ว ประชาชนจะแสดงออกต่อคนกลุ่มนี้อย่างไร ไม่ใช่ไปไหนมาไหนก็ต้องมีกองกำลัง นักรบสารพัดอาณาจักรคอยปกป้อง ห้อมล้อมยิ่งกว่าคณะของผู้นำประเทศ
-สมชายชี้ลาออกแก้ปัญหาไม่ได้
เวลา 14.00 น. นายสมชาย เดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย เดิมจะใช้สถานที่หอประชุมกระทรวงคมนาคม แต่เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มพันธมิตรฯพร้อมมือตบไปดักรอจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมจึงได้เปลี่ยนสถานที่มาประชุมที่กรมการขนส่งทางบกแทน
นายสมชาย กล่าวตอนหนึ่งว่า "เมื่อเช้าผมไปที่กระทรวงไอซีทีก็มีสีสันไปอีกแบบหนึ่ง ผมไม่เครียด ไม่มีปัญหาอะไร หากมัวแต่กังวลในสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เราเสียในเรื่องการทำงาน เสียโอกาสในการทำงานให้ประชาชนในการที่เราต้องการทุ่มเทและผมตั้งใจไว้ว่าการเข้ามาทำงาน ไม่ใช่เข้ามาทำเพื่อตัวเอง ก็มีเสียงเรียกร้องให้ผมลาออกจากตำแหน่งท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผมก็บอกไปว่าการลาออกไม่ใช่ปัญหาเลย ปัญหาก็คือจะต้องดูที่ประชาชนเป็นหลักว่าถ้าผมออกไปในวันพรุ่งนี้ ประชาชนจะได้อะไรจากการลาออก เราต้องหาทางออกให้เจอก่อนแล้วทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ดูว่าประชาชนจะได้อะไร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ เป็นนายกฯนั้นไม่มีใครเป็นได้ตลอดไปค้ำฟ้า ก็ต้องมีการออกสับเปลี่ยนกันไป แต่การเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาต้องมีระบบระบอบ ต้องมีความลงตัวว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ประเทศศิวิไลซ์เขาทำกัน"
-โดนต้านรุนแรงแต่ให้อภัย
นายสมชาย กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯไม่ได้ติดยึดอะไร มาเป็นนายกฯก็โดนไล่ โดนโห่ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเป็นการเสียหน้าเสียตา บางคนบอกว่าอย่าไปเลยไปก็อายเขา เดี๋ยวจะเสียเกียรติ ตนก็บอกว่าไม่เป็นไร ใครทำให้ตนเสียหน้า ถ้าเขาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คนที่ทำก็จะเสียไปเอง ยืนยันว่าการเข้ามาทำหน้าที่ของตนไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่เปลี่ยนหน้าที่การงาน ทั้งหมดก็ต้องการให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ม็อบทีโอทีรุมขับไล่ว่า ไม่รู้สึกตกใจ แต่รู้สึกว่าแรงไปหน่อยเพราะมีการขว้างขวดน้ำ เมื่อถามว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแต่คนที่เดินตามหลังตนได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร เราให้อภัยกัน เมื่อถามว่าการต่อต้านในลักษณะนี้จะเป็นอุปสรรคในการทำงานต่อไปหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่เป็นอะไรเพราะตนหยุดในเรื่องของการทำงานไม่ได้ ส่วนจะทำอย่างไรให้ประเทศและสังคมเกิดความสมานฉันท์ก็ขอให้ช่วยกันคิดคนละไม้คนละมือว่าจะทำอย่างไร ตนก็ต้องทำงานทุกวันถ้าไม่ทำงานโครงการต่างๆ ก็ชะงัก การพัฒนาประเทศก็จะหยุดเพราะฉะนั้นตนหยุดไม่ได้
"ความคิดแตกต่างกันได้ ไม่เป็นไร แต่อย่าก่อความรุนแรง อย่าทำร้ายกัน อย่าก่อให้เกิดการวิวาทบาดหมาง สำหรับผมนั้นไม่ถือ ใครจะทำอะไรผมก็ให้อภัยทั้งหมดและผมก็ไม่ท้อแท้"นายสมชายกล่าว
-ยันไม่แตะกก.สอบสลายม็อบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเร่งให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 7 ต.ค. ทำงานเร็วขึ้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนและหายความคลางแคลงใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คณะกรรมการก็ทำงานอยู่แต่ตนจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือแทรกแซง คาดหมายไว้ว่าจะใช้เวลา 15 วัน แต่ถ้าจะขยายเวลาออกไปหรือจะทำให้เสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ตนพยายามให้คณะกรรมการทำงานได้สะดวก และสบายใจจะไม่เข้าไปแตะต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน สำนักโฆษกทำเนียบรัฐบาลได้ขึ้นข้อความในเว็บไซต์ Thaigov. go.th ว่า คณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ขอเชิญให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆฝ่าย สามารถเข้าให้ปากคำข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการ พร้อมด้วยพยานเอกสาร และหรือพยานวัตถุ(ถ้ามี) หากท่านใดมีความประสงค์จะให้ถ้อยคำในเรื่องดังกล่าว ติดต่อฝ่ายเลขานุการฯ ที่บ้านมนังคศิลา ชั้น 2 ถ.หลานหลวง โทร. 0-2280-6873 อย่างไรก็ตามคณะกรรมการอิสระฯได้นัดหมายประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 3 พ.ย. เวลา 14.00 น.
-ตร.รื้อป้ายขอโทษประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการเสนอข่าวติดป้ายประกาศขนาดใหญ่ พื้นสีขาวตัวหนังสือสีดำ มาติดบริเวณประตูทางเข้าออกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 ป้ายที่มีข้อความว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" โดยมีรายงานว่า ป้ายดังกล่าวอาจเป็นตำรวจสันติบาลเป็นผู้นำไปติดไว้ เนื่องจากตำรวจสันติบาลเป็นผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้มีการปลดป้ายทั้ง 2 ป้ายดังกล่าวออกแล้ว โดยนำป้ายวันตำรวจครบรอบ 146 ปีมาติดแทนที่ คาดว่าเนื่องจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาข้าราชการตำรวจ ถึงความเหมาะสมในการนำป้ายที่มีข้อความลักษณะดังกล่าวมาติด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามตำรวจสันติบาลที่รักษาการณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบเพียงว่าป้ายดังกล่าวกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้นำมาติดและนำป้ายออกตั้งแต่เมื่อคืน จึงไม่ทราบรายละเอียด
พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ ผบก.สท. กล่าวว่า ยอมรับว่าป้ายดังกล่าวกองสารนิเทศเป็นผู้จัดทำ เริ่มนำมาติดตั้งแต่วัน 18 ต.ค. ที่ผ่านมา สาเหตุที่ต้องนำออกไปเนื่องจากจะต้องติดป้ายถวายความอาลัยพิธีพระราช ทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และป้ายครบรอบวันตำรวจ แต่ยอมรับว่ามีคนสอบถามในเรื่องป้ายข้อความนี้มากแต่ยืนยันไม่มีอะไร
-สล้างประกาศล้อมทำเนียบ3วัน
เวลา 13.00 น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พล.ต.อ. สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงานทำบุญประเทศกู้วิกฤตชาติในวันนี้ว่า หลังจากงานทำบุญประเทศที่ลานพระบรมรูปนี้เสร็จสิ้น รวมทั้งงานทำบุญประเทศที่จ.เชียงใหม่ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้เสร็จสิ้นแล้ว ตนจะนำกำลังคนเข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อตัดเส้นทางไม่ให้มีการส่งข้าวส่งน้ำให้กับผู้ชุมนุมพันธมิตรภายในทำเนียบเป็นเวลา 3 วัน นอกจากนี้ตนได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์พิเศษจากมิตรประเทศเพื่อให้ปฏิบัติการยึดทำเนียบคืนโดยไม่ให้เสียเลือดเนื้อ ส่วนแผนการจะเป็นอย่างไรนั้นยังไม่ขอเปิดเผย
พล.ต.อ.สล้างเรียกร้องให้ 3 เหล่าทัพดำเนินการกับนายทหารในราชการที่ร่วมชุมนุมหรือให้การสนับสนุนพันธมิตร อาทิ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อย่างไรก็ตาม หากทหารนำกำลังออกมาปฏิวัติ ตนจะใช้กำลังประชาชนบุกเข้าไปกองพันทหาร เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ภรรยาของนายทหารให้โทรศัพท์ติดต่อไปยังสามีให้กลับใจ เนื่องจากการรัฐประหารที่ผ่านมาทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายบางใหญ่-บางซื่อ เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง 5 แห่ง ส่วนประชาชนเสื้อเหลืองที่เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตร หลังจากนี้ตนจะให้เวลาทบทวนตัวเองว่าเงินค่าจ้างที่ได้รับมาคุ้มค่าหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ 7 ตุลา ตำรวจนำกำลังปราบ กบฏ จนถูกสื่อมวลชนและนักการเมืองบางคนเบี่ยงเบนประเด็นว่าเป็นการสลายม็อบ ทั้งที่คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเตรียมการเพื่อสังหารส.ส.และข้าราช การในสภา
-นปช.5พันร่วมทำบุญประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 13.00 น. มีพระภิกษุสงฆ์ สามเณรจากวัดต่างๆทั่วประเทศกว่า 2,000 รูปได้มาร่วมในพิธีทำบุญประเทศ นอกจากนี้บริเวณเต็นท์ด้านหน้าเวทีได้เปิดให้ลงทะเบียนรับเหรียญที่ระลึกรุ่นไทยรักสามัคคี โดยเหรียญดังกล่าวด้านหน้าเป็นพระรูปสมเด็จย่า ด้านหลังเป็นพระรูปในหลวง ซึ่งผู้ที่ต้องการให้จดชื่อที่อยู่และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนติดต่อกลับลงในแบบฟอร์ม จากนั้นจะแจกคูปองให้มารับเหรียญในวันที่ 27 ต.ค.ที่บช.น. และภายในงานยังแจกจ่ายซีดีวันที่ 7 ต.ค. สกรีนด้านหน้าว่าพันธมิตรฆ่าประชาชน ซึ่งเป็นแผ่นซีดีสีดำ และยังมีการจำหน่ายตีนตบและผ้าโพกสีแดง ทั้งนี้ มีประชาชนมาร่วมงานประมาณ 5,000 คนส่วนใหญ่สวมเสื้อสีขาว
ขณะที่กลุ่มพันธมิตรบริเวณด้านหน้ากองทัพภาคที่ 1 ได้นำตะแกงเหล็กและยางรถยนต์มาปิดกั้นทางเข้าไปยังทำเนียบอย่างแน่นหนา โดยวางกำลังการ์ดพันธมิตรหลายร้อยคนและมีอาวุธครบมือเพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากกลุ่มของพล.ต.อ.สล้าง บุกเข้ามายึดคืนทำเนียบรัฐบาล
-สั่งสอบนอภ.ด่ารัฐบาลชั่ว
สำหรับความคืบหน้ากรณีที่นายสมโภช โชติชูช่วง นายอำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรที่จ.สงขลาด่ารัฐบาลชั่วนั้น ล่าสุดนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช ตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ และให้บอกกล่าวตักเตือน หากพบว่ามีการขึ้นเวทีโจมตีรัฐบาล เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ข้าราชการสามารถไปร่วมชุมนุมได้แต่ไม่ควรขึ้นเวทีโจมตีใคร และไม่ควรทำอีก ส่วนขั้นตอนต่อไป ตนได้มอบหมายให้ต้นสังกัดดำเนินการตามขั้นตอน คือตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ตรวจสอบจากเทปบันทึกภาพ เทปบันทึกเสียง หรือสื่ออื่นๆที่บันทึกเอาไว้ หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดจึงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
-ตร.เปลี่ยนเส้นทางเสด็จใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ปฏิบัติราชการแทน ผบช.น.มีหนังสือแจ้งเลขาธิการพระราชวัง ลงวันที่ 21 ต.ค. กำหนดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พ.ศ.2551 เส้นทางเสด็จวันที่ 24 ต.ค.เวลา 16.00 น.สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จฯ แทนพระองค์ทอดผ้าพระกฐิน ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม และ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
เนื่องจากเส้นทางเสด็จจากสวนจิตรลดาไปวัดมกุฏฯและเส้นทางจากวัดมกุฏฯไปวัดราชบพิธฯ กำหนดให้ใช้ถนนกรุงเกษมที่ต้องผ่านถนนราชดำเนินนอกช่วงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ใกล้บริเวณที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่และบางส่วนของถนนมีการตั้งวางสิ่งของบนผิวการจราจร อันอาจเป็นการไม่ปลอดภัยและไม่เหมาะสม บช.น.พิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อให้เส้นทางเสด็จเป็นไปอย่างสมพระเกียรติมีความสะดวกและปลอดภัย เห็นควรกำหนดเส้นทางใหม่ดังนี้ เสด็จฯจากถนนจิตรลดา ประตูพระวรุณอยู่เจนไปตามถนนพระราม 5 เลี้ยวซ้ายราชวิถี เลี้ยวซ้ายสามเสน เลี้ยวซ้ายกรุงเกษม เข้าวัด มกุฏฯ จากวัดมกุฏฯ ถนนกรุงเกษม เลี้ยวซ้ายถนนสามเสน เลี้ยวซ้ายถนนพระสุเมรุ เลี้ยวขวาถนนราชดำเนิน เลี้ยวซ้ายถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายถนนราชบพิธฯ ส่วนเส้นทางเสด็จฯ กลับ ควรใช้เส้นทางตามกำหนดไว้เดิม
-พธม.แถลงไม่เลิกยึดทำเนียบ
เวลา 11.00 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 ได้ประชุมร่วมกันถึงท่าทีการเลิกการชุมนุม จากนั้นพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป ตามเป้าหมายเดิมคือต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และขับไล่รัฐบาลพรรคพลังประชาชน เพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่ ส่วนที่สะพานมัฆวานรังสรรค์จะรื้อเต็นท์ และเวทีปราศรัยออกไปอย่างถาวร เนื่องจากหลังจากวันที่ 23 ต.ค. ยังคงมีหมายกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพพระพี่นางฯ รวมทั้งพิธีทอดผ้าพระกฐิน จึงต้องเปิดให้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการจะสร้างการเมืองใหม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ หากคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญจะสร้างการเมืองใหม่ได้อย่างไร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้ไม่ลาออก จะสร้างการเมืองใหม่ไม่ได้ เห็นได้ชัดจากการประชุมตั้งส.ส.ร.ที่เคยกำหนด 4 ฝ่ายก็ เหลือเพียงฝ่ายเดียวคือฝ่ายรัฐบาล เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรกับประชาชนที่ยังสนับสนุนรัฐบาล เพราะหากเลือกตั้ง นักการเมืองเหล่านี้จะกลับมาอีก พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับคนในประเทศ
เมื่อถามว่า มีนักวิชาการเสนอให้พันธมิตรถอนออกจากทำเนียบ เพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้ง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรกล่าวว่า ที่ผ่านมานักวิชาการอยู่บนหอคอยงาช้างจึงไม่เข้าใจ อยากให้มาร่วมออกแบบกับประชาชนบนท้องถนนดูบ้าง
-การ์ดพธม.จับใบกระท่อม
เวลา 14.30 น. ที่สน.พันธมิตรฯ ภายในทำเนียบรัฐบาล การ์ดพันธมิตรได้ควบคุมตัวนายสุพจน์ โพธิพฤกษ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/4 หมู่ 9 ต.หนองฉิม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นายคำหวา ดีนัก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 5 ต.กุดโคน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ และนายรหัส บุตรพิน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 6 ต.คูทุ่ง อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมใบกระท่อม 21 ใบ โดยควบคุมได้ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล
โดยนายสุพจน์ กล่าวว่า มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรตั้งแต่เดือนก.ย. และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้ารัฐสภาวันที่ 7 ต.ค. จากนั้นได้รับเงินค่าเยียวยาจากกลุ่มพันธมิตร 5,000 บาท ก่อนจะตัดสินใจเดินทางกลับบ้านในภาคเหนือ ขณะที่จะไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงได้พบกับนายคำหวาและนายรหัส ที่อยู่ในสภาพอิดโรยและเดินขอข้าววัดกิน จึงแนะนำและพาทั้ง 2 คน มากินข้าวที่ม็อบพันธมิตร ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่เดินเข้าบริเวณประตู 5 ถูกการ์ดพันธมิตรตรวจค้นตัวและพบใบกระท่อมภายในกระเป๋าเสื้อผ้าของนายคำหวา ก่อนถูกควบคุมมาสอบสวนดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับใบกระท่อมดังกล่าว
เบื้องต้นการ์ดพันธมิตรได้แจ้งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้มารับตัวนายสุพจน์ นายคำหวาและนายรหัส เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
-เสธ.แดงลั่นจะยึดทำเนียบคืน
ที่บก.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้มอบหมายให้พล.ท.พิรุณ แผ้วพลสง รองเสนาธิการทหารบก ประสานกับพล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. เรียกพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. เข้าพบเพื่อสอบถามถึงจุดยืนต่อการออกไปเคลื่อนไหวฝึกกองกำลังนักรบพระเจ้าตาก ที่ท้องสนามหลวง โดยกลุ่มนักรบพระเจ้าตากเหล่านี้เคยเป็นส่วนรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มนปช. เมื่อครั้งเดินขบวนมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อคัดค้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่ยึดทำเนียบรัฐบาล
พล.ต.ขัตติยะ เปิดเผยว่า พล.ท.พิรุณ ได้ขอให้พล.อ.ไตรรงค์ ประสานให้ตนไปพบเนื่องจากพล.อ.อนุพงษ์ ต้องการทราบจุดยืน ซึ่งตนได้บอกไปว่าจุดยืนที่แท้จริงคือต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรที่เข้ายึดทำเนียบ และการนำประเด็นการอภิปรายต่างๆ ไปพูดจาพาดพิงสถาบัน
"ผมไม่ได้เป็นแนวร่วมของนปช. หรือพวกเสื้อแดง ทั้งได้อธิบายให้พล.ท.พิรุณ ฟังว่า กลุ่มเหล่านี้แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกอยู่ที่ท้องสนามหลวงเป็นม็อบเติมเงิน แกนนำ 5-6 คน รับเงินค่าจ้างสด 2 แสนบาท อีกส่วนอยู่ที่เมืองทองธานี มีกลุ่มคนที่เป็นอดีตนักการเมืองพรรคพลังประชาชนเป็นหลัง ซึ่งผมไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรับค่าจ้าง แต่ต้องการฝึกพวกฮาร์ดคอร์ไว้เป็นกองกำลังต่อสู้กดดันพวกนักรบศรีวิชัย ที่มีอาวุธและฝึกมาอย่างดี ทั้งนี้ แกนนำพันธมิตรบางคนได้เงินค่าจ้างเหมือนกัน วงเงินอยู่ที่ 6 ล้านบาท" พล.ต. ขัตติยะกล่าว
พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ตนเคยคุยกับพล.ต.อ.สล้างถึงการออกมาประกาศยึดทำเนียบคืน หากบุกยึดทำเนียบคืน ตนพร้อมนักรบพระเจ้าตาก จะพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไร แต่คงไม่ไปร่วม เนื่องจากการฝึกของตนเป็นแบบจรยุทธ์ ยังยืนยันว่าจะเผารถยนต์ที่จอดข้างคลองวัดโสมนัส 10 คันก่อน แล้วจึงเปิดเกมตามที่วางแผนไว้เป็นขั้นตอน ส่วนที่นักรบพระเจ้าตากถูกจับที่ศาลเมื่อวันที่ 21 ตค.นั้นเท่าที่ทราบคือไปดูสถานการณ์
-"พปช."ปะทะคารม"ปชป."
เวลา 13.30 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม มีสมาชิกหารือถึงเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตร ปิดล้อมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ในที่สุดมีการสลายการชุมนุม โดยร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน หารือว่า วันที่ 7 ต.ค. ส.ส.โดนกักขังในสภา 4 ชั่วโมง เสื่อมเสียอิสรภาพ เสี่ยงชีวิต ถ้าตำรวจไม่เปิดทาง คงมีการปีนเข้ามาฆ่าเพราะมีการเตรียมการ เตรียมน้ำมันมาเผา ทั้งนี้การสลายการชุมนุม แม้มีคนเจ็บและตาย แต่ต้นเหตุไม่มีใครพูดถึง กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยึดทำเนียบและจะมายึดรัฐสภา ฉะนั้นสภาควรตั้งกรรมการสอบสวนเพราะมีเพื่อนร่วมอาชีพไปดูแล จัดการ พร้อมจะฆ่า ซึ่งใครอยู่เบื้องหลังก็รู้ๆ อยู่ บางคนบาดเจ็บต้องหนีไปต่างจังหวัด เพราะกลัวเป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายโจมตีรัฐมนตรีว่าไม่ยอมมาร่วมประชุมสภา กระสันอยากเป็นฝ่าเลือดเข้าสภามาแถลงนโยบาย หากสมาชิกอยากพูดถึงเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ตนอยากพูดเช่นกัน เพราะอยากเห็นหน้าคนที่กระสันแถลงนโยบายว่าวันนี้หายไปไหน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนายวิทยา อภิปราย ร.ต.ท.เชาวริน ประท้วงเป็นระยะโดยเฉพาะการใช้คำว่า "กระสัน" ทำให้มีการปะทะคารมกันเล็กน้อย ก่อนที่นายวิทยา จะถอนและใช้คำว่า "ใคร่" แทน จากนั้นนายสามารถ ขอให้สมาชิกอภิปรายถึงปัญหาของประชาชนเพื่อให้การประชุมดำเนินไปด้วยดี
-โชว์กันนัวเนีย-ซีดีเหตุ7ตุลาคม
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายโดยนำวีซีดี "ตำรวจฆ่าประชาชน" ที่บันทึกเหตุการณ์สลายชุมชุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. มาแสดงในที่ประชุมและมอบให้ประธาน ขณะที่ส.ส.พรรคพลังประชาชน อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน อภิปรายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีวีซีดีอยู่ 2 ชุด ตนมีชุด "พันธมิตรฆ่าประชาชน" ซึ่งตนไม่อยากให้ด่วนสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรรอผลการสอบสวนโดยคณะกรรมการที่นายกฯตั้งขึ้น ไม่ว่ากรณีคาร์บอมบ์หน้าพรรคชาติไทย หรือน้องโบว์ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นั้นไม่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา ทั้งนี้ตนสนับสนุนการตัดสินใจเปิดประชุมของประธานรัฐสภา ส่วนการบอยคอตของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่มีคนของกลุ่มพันธมิตรเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และเตรียมการทำอะไรในสภาหรือไม่ คงต้องตรวจสอบต่อไป แต่มีข้อสังเกตว่าวันนั้นกล้องวงจรปิดรัฐสภามีผ้าสีดำปิดไว้หมด และมีความพยายามพังประตูรัฐสภาเข้าไป
"ผมเชื่อว่าถ้าผลสอบสวนระบุว่ารัฐบาลผิด ไม่มีใครหน้าด้านอยู่ต่อไป ขอถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าวันนั้นนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน เข้าประชุมด้วยหรือไม่ คนเป็นสมาชิกแต่ไม่เข้าทำหน้าที่แล้วไปร่วมชุมนุมหรือรู้เห็นเป็นใจให้เกิดเหตุการณ์ มีแผนการอะไรหรือไม่" นายจตุพรกล่าว
-ฝนถล่มงานทำบุญประเทศ
เวลา 16.00 น. บริเวณลานพระรูปซึ่งเป็นที่จัดงานทำบุญประเทศ ได้เกิดฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่พระสงฆ์กำลังทำพิธีอยู่บนเวที จนผ้าใบด้านหลังขาดกระจุยไม่สามารถใช้งานได้อีก และรถที่จอดอยู่หลังเวทีหลายคันได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเวทีหลุดไปโดน ขณะเดียวกันพระสงฆ์และสามเณรที่นั่งอยู่ภายในเต็นท์จำนวนมากต่างพากันเปียก เนื่องจากขณะฝนตกได้มีลมพัดแรงมากและสาดเข้ามาในเต็นท์ซึ่งไม่มีที่บังฝน
ภายหลังจากพิธีการต่างๆ เสร็จสิ้นลงประมาณ 17.00 น. ได้มีพระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากพากันเดินออกจากเต็นท์ เพื่อมาขึ้นรถตู้และรถบัสที่จอดรออยู่บริเวณลานพระรูป ขณะเดียวกันพระบางรูปที่ไม่มีรถมาก็พากันเดินจับกลุ่มออกมายืนรอรถแท็กซี่บริเวณแยกดังกล่าว และพระบางรูปมาจากวัดซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงทำเนียบ ได้อาศัยเส้นทางถนนราชดำเนินนอก ฝั่งประตู 5 เดินตัดผ่านเพื่อจะกลับวัด แต่เมื่อเดินมาถึงบริเวณจุดที่การ์ดพันธมิตร ตั้งด่านอยู่ก็ต้องถูกสกัด โดยไม่อนุญาตให้พระสงฆ์ที่มาร่วมงานทำบุญประเทศในครั้งนี้เดินผ่าน รวมทั้งประชาชนทั่วไปด้วย ถึงแม้ว่าพระสงฆ์พยายามจะเจรจาแล้วก็ตาม การ์ดพันธมิตรก็ไม่ยอม อ้างเรื่องความปลอดภัย จนพระสงฆ์ต้องเดินอ้อมไปใช้เส้นทางพระราม 5 และถนนด้านบช.น.แทน
-บิ๊กทีโอทียันวางตัวเป็นกลาง
นายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ชุมนุมพร้อมมือตบรับนายกรัฐมนตรีซึ่งเดินทางมาตรวจราชการ ณ กระทรวงไอซีที ซึ่งเป็นการชุมนุมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยผู้ชุมนุมในบริเวณห้องโถงอาคาร 9 นั้น ส่วนใหญ่ซึ่งมีจำนวนราว 200 คนเศษ ประกอบด้วยกลุ่มพันธมิตรทางการเมือง ขณะเดียวกันมีบุคคลภายนอกบางกลุ่มก็เข้ามาร่วมในการชุมนุมด้วยเช่นกัน ซึ่งการชุมนุมในวันนี้ไม่ได้หมายถึงพนักงานทีโอที ถือว่าเป็นความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม
ทั้งนี้ ทีโอทีให้ความสำคัญกับสิทธิและเสรีภาพในการร่วมกิจกรรมและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทีโอทีขอยืนยันที่จะวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ส่วนการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองสามารถทำได้ตามกรอบของกฎหมายและที่สำคัญคือการร่วมกิจกรรมทางการเมืองหรือกิจกรรมใดๆ นั้น จะต้องไม่ส่งผลกระทบแก่ผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ