"ทักษิณ"ส่งทนายแจ้งจับ"สนธิ"หมิ่นกล่าวหาทุ่มเงินล้มสถาบัน ตร.เล็งขอศาลออกหมายจับ แกนนำนปช.หมิ่นเบื้องสูง นายกฯโผล่เปิดงานที่จ.อยุธยา ทั้งๆได้แจ้งยกเลิกไปแล้ว "ปู่ชัย"แถลงผ่านทีวี วอนทุกฝ่ายถอยคนละก้าว ยันสัปดาห์หน้าไม่ย้ายที่ประชุมสภา นายกฯ ย้ำขอทำเนียบคืน
"ทักษิณ"ส่งทนายแจ้งจับ"สนธิ"หมิ่นกล่าวหาทุ่มเงินล้มสถาบัน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ตุลาคม นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล และนายวัชระ แสงประทุม ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เอกพล ทวิชวงศ์ไชยกุล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีต่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นสพ.ผู้จัดการ และเคเบิลเอเอสทีวี ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ด้วยเอกสาร
นายวัชระ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14-15 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และกล่าวปราศรัยโจมตีให้ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ รวมถึง สื่อในเครือได้ลงข้อความหมิ่นประมาท ในลักษณะ พ.ต.ท.ทักษิณ จ้องล้มสถาบันเบื้องสูง โดยมีข้อความว่า "แม้วทุ่มเงินล้มสถาบัน" ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นการกล่าวหา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทาง พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ปรึกษากับทีมทนายความแล้วเห็นว่าเป็นการกล่าวหาที่เกินจะรับได้ และไม่ควรที่จะดึงสถาบันเบื้องสูงมายุ่งกับการเมือง จึงได้มอบหมายให้ทางทีมทนายความเดินทางแจ้งความดังกล่าว
นายวัชระ กล่าวต่อว่า โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เคยฟ้องต่อศาลแพ่ง ซึ่งศาลแพ่งก็ได้มีคำสั่งห้ามนายสนธิพูดถึงอดีตนายกฯ ทักษิณให้เกิดความเสียหาย แต่นายสนธิก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของศาลเมื่อวันที่ 1 ก.ค.51 ซึ่งถือว่าไม่ให้ความเคารพคำตัดสิน โดยวันนี้ตนในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้นำหลักฐานเป็นหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ฉบับวันที่ 15 ตุลาคม 2551 รวมถึงซีดี คำถอดเทปจากรายการของเอเอสทีวีเข้าแจ้งความ และจะให้ทีมทนายความยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ที่ได้มีคำสั่ง ห้ามนายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวโจมตีใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไป ส่วนจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่นั้นจะมีการพิจารณาอีกครั้ง
พ.ต.ท.เอกพล กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความไว้และทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตร.เล็งขอศาลออกหมายจับ แกนนำนปช.หมิ่นเบื้องสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เตรียมยื่นคำร้องขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จากกรณีที่นายสุชาติกล่าวปราศรัยบนเวทีท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการพูดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและประชุมชุดพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการขอหมายจับวันที่ 17 ต.ค.นี้ เวลา 11.00 น.
นายกฯโผล่เปิดงานที่จ.อยุธยา ทั้งๆได้แจ้งยกเลิกไปแล้ว
ล่าสุด ปรากฏว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเดิมมีการแจ้งว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการเดินทางมาเป็นประธานงานวันขจัดความยากจน แต่นายกฯได้เดินทางมาตามกำหนดการเดิม แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยมีการระบุว่า จะไปแถลงข่าวที่ศูนย์บัญชาการรัฐบาลที่ดอนเมืองแทน
ก่อนหน้านี้ รายงานข่าวแข้งว่า กระทรวงมหาดไทย แจ้งด่วนไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีไม่ขอเดินทางไปเป็นประธานเปิดงานวันขจัดความยากจน ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่กำหนดเปิดงานในเวลา 10.00 น. แต่ได้มอบหมายให้นายปรีชา เร่งสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไปปฏิบัติหน้าที่แทน
สำหรับสาเหตุที่นายกรัฐมนตรีไม่ไปเปิดงานดังกล่าวเพราะว่ามีรายงานว่ามีประชาชนกลุ่มหนึ่งเตรียมเดินทางมาให้กำใจนายกรัฐมนตรี ขณะที่มีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งก็เตรียมเดินทางมาประท้วงนายกรัฐมนตรี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลทุกสถานีต้องเตรียมการรับมือและรักษาความปลอดภัยทำให้นายกรัฐนตรีตัดสินใจยกเลิกภารกิจดังกล่าวในที่สุด
พันธมิตรดาวกระจายปิดถนนสีลม
ผู้สื่อข่าวเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาชุมนุมเพื่อเคลื่อนขบวนจากลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี ไปที่ถนนสีลม เพื่อแจกวีซีดีเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่บริเวณรัฐสภาจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนมาเป็นจำนวนมากทำให้การจรจาจรบริเวณดังกล่าวติดขัดหนัก ขณะที่ถนนสีลมได้มีการปิดการจราจรแล้ว
"กานต์"พา นปช.ประจันหน้าพันธมิตรฯที่สวนลุมพินี
ผู้สื่อข่าวเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ตุลาคม พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำประชาชนที่ใช้สัญลักษณ์โผกผ้าสีแดงและแต่งชุดแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ประมาณ 60 คน มาปราศรัยที่บริเวณลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี ซึ่งมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาชุมนุมเพื่อเคลื่อนขบวนไปแจกวีซีดีเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่บริเวณรัฐสภาจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.กานต์ ได้ยืนปราศรัยพร้อมกับกลุ่ม นปช.ที่นั่งฝั่งอย่างสงบ ประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปที่สถานเอกอัคราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นผู้ดูแลยืนเรียงแถวกั้นทั้งสองกลุ่ม ขณะที่พันธมิตรฯได้โห่ไล่ นปช.อย่างไรก็ตามไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
นครบาล 5 เตรียมกำลัง 3 กองร้อยรับมือ-ดูแลพธม.บุกสีลม
พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ถึงมาตราการดูแลความปลอดภัยกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะดาวกระจายไปแจกเอกสารชี้แจงการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ย่านสีลม ว่า เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และ 6 จำนวน 3 กองร้อย ไว้คอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก โดยเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยและป้องกันการปะทะกันของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ทราบจุดหมายที่กลุ่มพันธมิตรฯ ว่าจะเดินทางไปจุดใดก่อน แต่ก็เตรียมการพร้อมแล้ว โดยหากพันธมิตรฯ เข้าไปในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ใด เจ้าหน้าที่สายตรวจและผู้รับผิดชอบก็จะดูแลเต็มที่
พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า จากการการประเมินสถานการณ์เชื่อว่า การเคลื่อนพลดาวกระจายจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแน่นอน
พธม.อยุธยารอไล่"สมชาย"มีข่าวไปศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
นางกัลยาณี ชูกลาง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ว่า หลายปีที่ผ่านมาประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองระดับชาติ แต่ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ พันธมิตรฯ จ.อยุธยาจะพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองไปตอนรับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดการเดินทางมายังศูนย์ศิลปาชีพบางไทรในวันนี้ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ให้นายสมชายลาออก โดยจะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ขอให้ตำรวจมั่นใจว่า พันธมิตรฯ จะไม่สร้างความวุ่นวาย
"สุริยะใส" "ชี้กองทัพส่งสัญญาณเตือนรัฐบาล
ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึง การตั้งสสร. 3 ว่า ยังมีการพยายามดันทุรังของพรรคร่วมและส.ว. ที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาล คำถามคือ จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่ออะไรเพราะตอนนี้ปัญหาไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญแต่เกิดจากการใช้อำนาจมิชอบ ซึ่งหากรัฐบาลยังยืนยันที่จะตั้ง สสร.3 พันธมิตร ก็จะไม่ร่วมสังฆกรรมและจะประท้วงเพื่อไม่ร่วมสังฆกรรม และตนเชื่อว่านักวิชาการก็จะไม่เข้าร่วมด้วย ทางออกเดียว คือ รัฐบาลต้องลาออก นอกจากนี้ ท่าทีของ ผบ.ทบ. ที่แถลงถึงจุดยืนของกองทัพว่า หากตัว ผบทบ.เป็นนายกฯเองก็จะลาออก คำสัมภาษณ์ในวันนี้ ดูนัยยะทางการเมือง คนที่ต้องไตร่ตรองมากกว่าใครอื่น ก็คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะท่าทีของวันนี้เข้มข้นกว่าทุกครั้ง จนแทบไม่ต้องจะตีความ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณอีกว่ารัฐบาลไม่ได้รับการยอมรับจากกองทัพและหากไม่รับผิดชอบจะเกิดอะไรขึ้น พรรคพลังประชาชนต้องไตร่ตรองให้ดี
เขายังกล่าวถึง กรณีที่ ปปช. ชี้มูลความผิดนายสมชาย ว่า นายสมชาย ต้องพ้นจากสภาพนายกฯทันที โดยดูตาม กม. ปปช. มาตรา 55 และถึงแม้จะมีการตีความ กม. เป็นอย่างอื่น แต่สิ่งที่ ปปช. ชี้มูลก็ถือว่านายสมชาย มีความผิดทางจริยธรรม นายสมชาย จึงควรปลดล็อค ด้วยการลาออก เพื่อไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดกว่านี้
แจ้งข้อหา"ศพในจี๊ป"มีบึ้มในครอบครอง
พ.ต.ท.รุ่งเพชร เมฆี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดุสิต เปิดเผยความคืบหน้าเหตุรถยนต์จิ๊ปเชโรกี ทะเบียน พต 4755 กรุงเทพมหานคร ระเบิดหน้าพรรคชาติไทย ทำให้ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หัวหน้าแกนนำกลุ่มพันธมิตรบุรีรัมย์ ถูกแรงระเบิดเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า อยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์จากกลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) และผลจากการตรวจชันสูตรศพจากแพทย์สถาบันรามาธิบดี อย่างไรก็ตาม เชื่อได้ว่าผู้ตายน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด เพราะอยู่ในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว จึงแจ้งข้อหากับผู้ตายว่ามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง และกระทำการให้เกิดระเบิดอันน่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่นไว้ก่อน ก่อนมีการนำสำนวนเสนออัยการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.เมธี เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว ส่วนการสอบปากคำเจ้าของรถยังไม่คืบหน้า เพราะเจ้าของอ้างว่ายังไม่พร้อมจะให้ปากคำ
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบเหตุสลายม็อบวันที่ 7 ตุลาคม มาตรวจสอบเหตุรถระเบิดบริเวณหน้าพรรคชาติไทยด้วย ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยืนพูดคุยกับผู้ตาย โดยมีการบันทึกภาพ และมีบุคคลเห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ที่พร้อมจะเป็นพยาน เป็นวินมอเตอร์ไซค์ย่านนั้น รวมทั้งรูปถ่าย
"ชัย"แถลงผ่านทีวีแจงเหตุ7ตุลา
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 16 ตุลาคม สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้เผยแพร่ภาพนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา จนทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต ตนในฐานะประธานรัฐสภา ขอชี้แจงว่า สาเหตุที่รัฐสภาต้องเปิดประชุมเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล ตามเงื่อนเวลาตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่ปรากฏว่ามีคนกลุ่มหนึ่งอ้างสิทธิในฐานะพลเมืองของประเทศ และอ้างสิทธิในการชุมนุมในที่สาธารณะเข้าขวางกั้นทุกวิถีทาง เพื่อมิให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย หากมีการกระทำเช่นเดียวกันนี้ในเรื่องอื่นๆ ที่เป็นปัญหาความขัดแย้งทางความคิด โดยไม่คำนึงกฎหมาย สังคมจะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ความสับสนวุ่นวายจะเกิดกับบ้านเมืองอย่างไม่มีวันจบสิ้น
วอนให้ถอยคนละก้าว
แถลงการณ์ระบุว่า ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนหันมาร่วมกันแก้ปัญหาตามระบบ โดยขอให้ยุติประเด็นทางการเมือง ตำหนิติเตียนด่าทอกัน และอยากเรียกร้องให้ทุกคนแสดงออกถึงความจงรักภักดีด้วยการกระทำที่เป็นรูปธรรม ถอยกันคนละก้าวหรือหลายๆ ก้าว เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พ่อแห่งแผ่นดิน" ของเรา เชื่อว่าวิกฤตชาติจะแก้ได้ในเร็ววันนี้
แถลงการณ์ระบุอีกว่า วันนี้รัฐสภาจำเป็นต้องถอยมาอีกก้าวหนึ่งเพื่อความสงบของชาติบ้านเมือง เพราะในขณะที่พวกเรากำลังจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตามกฎหมาย กลับมีบุคคลกลุ่มหนึ่งขัดขวางการกระทำและข่มขู่จะเคลื่อนไหวโดยอาจจะเล็งเห็นผลถึงความรุนแรงและเสียหาย ฉะนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยง ตนจึงจำเป็นต้องงดประชุมในสัปดาห์นี้
ยันสัปดาห์หน้าไม่ย้ายที่ประชุม
ก่อนหน้านี้ นายชัยกล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมตามปกติ ในวันที่ 22 ตุลาคม ส่วนวันที่ 23 ตุลาคม งดประชุมเพราะเป็นวันปิยมหาราช ส่วนที่งดประชุมในสัปดาห์นี้ เพราะต้องการดูบรรยากาศว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร เมื่อเหตุการณ์ปกติก็ประชุมได้ ซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เข้าร่วมประชุมสภาในสัปดาห์หน้า ก็อยากถามว่าเป็นผู้แทนราษฎรหรือไม่ และยืนยันว่าจะไม่ย้ายที่ประชุมสภา เชื่อว่าทุกคนเห็นแก่ชาติ มีสภาก็ต้องประชุมตามหน้าที่ จะประชุมที่อื่นไม่ได้ เพราะข้อบังคับกำหนดไว้ ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรจะมาปิดล้อมอีก ก็เป็นสิทธิเสรีภาพ และยังไม่ได้ขอกำลังตำรวจมาอารักขาเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า
"สมชาย" ย้ำขอทำเนียบคืน
เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลล์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมเคลื่อนพลดาวกระจายไปยังถนนสีลมในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ว่า ทางตำรวจจะดูแล ส่วนเรื่องการป้องกันนั้นเคยบอกว่า การชุมนุมมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่จะต้องไม่ละเมิดกฎหมายและสิทธิของคนอื่น
"ทำเนียบ มันต้องเอาคืน ต้องขอคืน เพราะจริงๆ มันสร้างด้วยเงินและภาษีประชาชน ความเสียหายที่ต้องซ่อมแซมก็เป็นเงินภาษีประชาชน ฉะนั้นมันจะต้องมีคนดูแลรับผิดชอบ"
เมื่อถามว่า หากพันธมิตรไม่ยอมออกจากทำเนียบรัฐบาล จะใช้แนวทางใด นายสมชายกล่าวแบบติดตลกว่า "นั่นสิ แต่ต้องขอคืน แล้วบอกว่า การชุมนุมไม่เป็นไร ชุมนุมที่ไหนก็เป็นสิทธิ แต่ถ้าเข้าไปอยู่ในสถานที่ราชการ ก็น่าจะไม่ใช่"
เมื่อถามว่า ลำพังขอคืนแต่ปาก คงไม่ได้ผลแล้ววันนี้ นายสมชายกล่าวว่า คงต้องตั้งสื่อช่วยเป็นทูตมาเจรจาให้หน่อย ส่วนการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วันเดียวกันนี้ ไม่ได้พูดถึงการปฏิบัติงานของตำรวจในวันที่ 7 ตุลาคม รวมทั้งไม่มีการย้ายผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ตร.พร้อมรับเหตุรุนแรงม็อบ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวว่า คำว่ายุทธการดาวกระจาย เป็นคำที่รุนแรง ใช้สมัยที่คอมมิวนิสต์ยังเคลื่อนไหวอยู่ แปลว่าโจมตีพร้อมๆ กันหลายจุดให้ตั้งรับไม่ทัน อย่างไรก็ตามหากไม่มีการกระทำที่รุนแรง ไม่บุกรุก ปิดกั้น ปิดล้อม เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญถือว่ายังสงบอยู่ แม้จะเรียกว่ายุทธการดาวกระจาย ตำรวจจะดูแลความเรียบร้อยให้ แต่ถ้าพกพาอาวุธ หรืออาวุธโดยสภาพ ถือว่าไม่สงบ อาจเกิดความรุนแรง ตำรวจมีอำนาจดำเนินการตามรัฐธรรมนูญได้
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมอยู่แล้ว โดยให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ หากเกิดเหตุรุนแรงตำรวจก็จะใช้เหตุผลในการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ก็วางกำลังดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมในการออกดาวกระจายตามจุดต่างๆ ด้วย
ทาบคนกลางที่ปรึกษาสลายม็อบ
พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวว่า มีการพูดคุยทบทวนมาตรการหากเกิดเหตุปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งการทำงานของตำรวจมีคู่มือขั้นตอนในการปฏิบัติอยู่ แต่ขณะปฏิบัติไม่สามารถทำได้ทั้งหมด และเพื่อความรอบคอบ ผบ.ตร.มีนโยบายให้ตั้งคณะที่ปรึกษาในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมาจากคนกลาง อาจเป็นนักวิชาการ สื่อมวลชน เพื่อเป็นที่ปรึกษา เพิ่มความรอบคอบในการปฏิบัติ ตนในฐานะผู้รับคำสั่งมาจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากเนื่องจากมีการทาบทามหลายคนที่เหมาะสมบ้างแล้ว แต่หลายคนมีภารกิจ และขอพิจารณาอยู่ จึงยังไม่เป็นรูปร่าง
กก.ชุด"ปรีชา"ตั้ง5อนุฯ
อีกด้านหนึ่ง ที่บ้านมนังคศิลา นายปรีชา พานิชวงศ์ อดีตรองประธานศาลฎีกาประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ได้ประชุมนัดแรก ทั้งนี้คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้เข้าประชุม ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ก่อนเข้าวาระการประชุม นายปรีชาได้เชิญผู้สื่อข่าวทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ เข้าร่วมหารือในที่ประชุม ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงที่รู้เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำ รวมทั้งขอสำเนาภาพข่าวที่บันทึกเหตุการณ์ทางโทรทัศน์ไว้โดยไม่ตัดต่อ เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณา
ภายหลังการประชุม นายปรีชาแถลงว่า ที่ประชุมมีมติที่จะตรวจสอบข้อมูลว่า เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคมเกิดขึ้นอย่างไร ฝ่ายใดเป็นฝ่ายกระทำและผลของการกระทำเป็นอย่างไรบ้าง มีใครล้มเจ็บ ล้มตาย และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของรัฐอย่างไร โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 5 ชุดเพื่อกำหนดกรอบหน้าที่ต่างๆ ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมการที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ ฝ่ายการเมืองและประจำ ตำรวจ ทหาร มีนายประเสริฐ บุญศรี เป็นประธาน
2.คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อมูลจากผู้มาชุมนุมทุกฝ่าย ประชาชนทั่วไปและจากพันธมิตร มีนายวิชัย ตันติบุรานันท์ เป็นประธาน 3.คณะอนุกรรมการตรวจสอบขอข้อมูลจากสื่อมวลชนทุกแขนงที่รู้เห็นเหตุการณ์ และจะขอภาพถ่ายชุดแรกที่ไม่มีการตัดต่อมาพิจารณา รวมทั้งตรวจสอบแพทย์ที่ทำการรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และแพทย์แต่ละโรงพยาบาลที่ได้รับบาดเจ็บ มีนายสหาย ทรัพย์สุนทร อดีตรองอัยการสูงสุดเป็นประธาน
4.คณะกรรมการตรวจสอบรายงานทางนิติเวช ซึ่งมีข้อมูลผลการตรวจสอบแล้วว่าเป็นอย่างไร ความจริงทางวิชาการเป็นอย่างไร ซึ่งจะนำมาวินิจฉัยร่วมกับบาดแผลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียหาย โดยคุณพรทิพย์ จาละ เป็นประธาน และ 5. คณะกรรมการรวบรวมศึกษาปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายวินัยข้าราชการตำรวจ ทหาร และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐ โดยมีนายวิชัย ตันติบุรานันท์ เป็นประธาน
ยันทำงานอิสระ-ไม่กำหนดเวลาเสร็จ
"ชุดนี้เป็นกรรมการอิสระ มีอำนาจเต็มหน้าที่โดยไม่อยู่ในอาณัติของใคร และจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ทำให้เกิดข้อเท็จจริงให้ประจักษ์ว่าเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคมเกิดอย่างไร และจะรายงานผลให้นายกฯรับทราบ โดยจะทำงานอย่างเร่งรัดและสั้นที่สุด เพราะหากมีคนมาให้ถ้อยคำ 200-300 คนจะทำอย่างไร แต่หากมีคนมาให้ข้อมูลแค่ 40-50 คน อาจจะเสร็จภายใน 2-3 เดือน แต่เมื่อยังไม่รู้ว่าจะมากี่คนเราจึงกำหนดเวลาไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะทำงานให้เร็ว อย่ากลัวว่าเราจะเลือกปฏิบัติหรือเลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งขอวิงวอนอย่างเดียวให้ผู้มาให้ข้อมูลมาด้วยความซื่อสัตย์ตามความเป็นจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่บ้านเมือง" นายปรีชากล่าว
รับหน้าเสื่อเพราะให้แก่ชาติ-ในหลวง
"ก่อนตัดสินใจเข้ามารับหน้าที่นี้ มีลูกศิษย์ลูกหามาถามว่าอายุปูนนี้แล้วรับงานนี้ทำไม ผมก็บอกว่าเป็นเรื่องที่ทำหน้าที่แสวงหาความจริงให้ประชาชนทราบ ซึ่งก่อนที่ผมจะเข้ามารับ มีเพื่อนที่เป็นผู้พิพากษามาขอร้องให้ผมทำงาน แต่ผมปฏิเสธ เขาก็บอกว่าถ้าผมไม่เป็นแล้วใครจะเป็น โดยผมทำงานนี้เพราะอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ถ้าทุกอย่างสงบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะได้บรรทมหลับบ้าง" นายปรีชากล่าว และว่า การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ไม่มีใครสั่งได้ เพราะนายกฯให้อิสระเต็มที่ ไม่มีใครมาแทรกแซง และนับจากที่ตั้งกรรมการชุดนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ไม่เคยโทรศัพท์มา เพราะแค่เอ่ยชื่อตนในวงการกฎหมายก็รู้ว่าไม่ควรมายุ่ง ถ้าแทรกแซงตนก็จะออก
พันธมิตรดาวกระจายสีลม 17 ตุลานี้
ที่ห้องสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร แถลงว่า ในวันที่ 17 ตุลาคม เวลา 10.00 น. แกนนำและกลุ่มพันธมิตรจะนัดรวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เพื่อรณรงค์ให้สังคมได้ทราบความจริงในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ได้ต้องการทำลายสถาบันตำรวจ เพียงแต่ต้องการแยกตำรวจที่ดีและตำรวจที่เลวที่มีจิตใจโหดเหี้ยมออกจากกัน เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถเอาตำรวจที่ไม่ดีมาลงโทษได้ จึงไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย โดยจะมีการแจกหนังสือ ตำรวจฆ่าประชาชน พร้อมกับซีดี และจะเคลื่อนขบวนจากสวนสุมพินีไปตามถนนสีลม คาดว่าจะใช้เวลาภายใน 2 ชั่วโมง ส่วนการเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยังไม่ได้ยกเลิก แต่จะหารือกับแกนนำอีกครั้งเพื่อรอดูสถานการณ์
ส.ว.ปรามรบ.ปล่อย"พรทิพย์"อิสระ
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมีรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคพลังประชาชนออกมาโจมตีการตรวจสอบหลักฐานการใช้กำลังสลายการชุมนุมของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ว่าทำเกินกว่าหน้าที่ ว่า รัฐบาลควรปล่อยให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ทำงานอย่างอิสระ เพราะ พญ.คุณหญิงพรทิพย์เข้ามาตรวจสอบในฐานะเป็นอนุกรรมการของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้งกรณีภาคใต้หลายสิบคดีและสึนามิ โดยรัฐบาลไม่ควรแทรกแซงทุกรูปแบบ และการที่นักการเมืองไปแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระถือว่าขัดรัฐธรรมนูญบางมาตรา อนุกรรมาธิการติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง จะตรวจสอบเรื่องนี้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวหรือไม่
พปช.บุกแจ้งความพธม.รุ่น2
ขณะที่ สน.ดุสิต ส.ส.พรรคพลังประชาชน กลุ่มขุนค้อน ประกอบด้วย นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร นายจุมภฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร นายสุชาย ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พร้อมนายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา ได้เดินทางไปยัง สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรรุ่น 2 อาทิ นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสหภาพรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และนายสำราญ รอดเพชร อดีต สนช.ในข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำให้สูญเสียเสรีภาพ จากเหตุการณ์นำผู้ชุมนุมบุกปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ดุสิต กล่าวว่า คดีนี้ได้ทำหนังสือยื่นไปยังเลขาธิการรัฐสภาไปแล้วว่า หากมีผู้ประสงค์เข้าแจ้งความในคดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ส.ว. คณะรัฐมนตรี หรือเจ้าหน้าที่ ก็ให้แจ้งมาพร้อมกันทีเดียว เพราะคดีนี้เมื่อสอบปากคำจะนำหลักฐานการสอบปากคำส่งให้คณะกรรมการสอบสวนของ บช.น. ประกอบในการพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชนแจ้งความครั้งนี้เป็นชุดที่สอง หลังจากที่นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี และนายธเนศ เครือรัตน์ นายวิรัตน์ โหตรไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ จากพรรคเดียวเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา
จี้"ชัย"แจ้งความพธม.กักขังหน่วงเหนี่ยว
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน แถลงว่า ได้แจ้งไปยังนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้เร่งรัดแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตร เพราะถือเป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยวสมาชิกรัฐสภา ซึ่งถือว่าเป็นศักดิ์ศรีของสมาชิกทุกคน โดยขอให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นเจ้าภาพหลักในการแจ้งความ ซึ่งนายชัยรับปากว่าเป็นเรื่องสำคัญ สภาควรจะเป็นเจ้าภาพ ไม่ควรปล่อยให้ ส.ส.ไปแจ้งความกันเอง ในฐานะประธานสภาควรจะเอาใจใส่ในเรื่องนี้และเร่งดำเนินการโดยเร็ว โดยจะมอบหมายให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในฐานะฝ่ายปฏิบัติไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี
ทักษิณส่งทนายแจ้งจับสนธิหมิ่นกล่าวหาทุ่มเงินล้มสถาบัน ตร.ขอศาลออกหมายจับ แกนนำนปช.หมิ่นเบื้องสูง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ทักษิณส่งทนายแจ้งจับสนธิหมิ่นกล่าวหาทุ่มเงินล้มสถาบัน ตร.ขอศาลออกหมายจับ แกนนำนปช.หมิ่นเบื้องสูง