พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าววันนี้ (9 ต.ค.)
ยืนยันพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลเตรียมแจ้งข้อหากบฏกับ 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใหม่อีกครั้ง เชื่อพยานหลักฐานมากเพียงพอที่จะเริ่มกระบวนการยุติธรรมในข้อหากบฏได้ ถึงแม้วันนี้ศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 2 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหาดังกล่าวแล้วก็ตาม และจะไม่ขอฎีกาคำสั่งศาลเด็ดขาด
“ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ บุกปล้นรถเมล์สาย 23 เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจยังคงเดินหน้าทำคดีและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นคดีอาญาถึงแม้ ขสมก.จะรับรถคืนไปแล้วก็ตาม”รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าว
กรณีกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ จับตัวและทำร้ายร่างกาย ร.ต.อ.สาริษฐ์ อักษร รองสารวัตรงานสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 นั้น พล.ต.ต. อำนวย
จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในข้อหา ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และปล้นทรัพย์ เพราะเป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ ส่วนกรณีที่แกนนำพันธมิตรฯ จะเข้ามอบตัวต่อตำรวจ ก็ขอให้ศึกษาข้อกฎหมาย และข้อหาในคดีก่อน เพราะคดีนี้ไม่ใช่คดีเล็ก แต่ได้มีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวนเตรียมพร้อมสอบปากคำให้ได้ทันที
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง พร้อมสมาชิกวุฒิสภา โดยฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) ให้ยุติการใช้กำลังในการเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม และตุลาการได้ทำการไต่สวนฉุกเฉินตามคำร้องของผู้ถูกร้องไปเมื่อวันที่ ( 8 ต.ค.) นั้น วันนี้ ตุลาการศาลปกครองกลางมีคำสั่ง หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกระทำการใด ๆ ต่อผู้เข้าร่วมชุมนุม ต้องดำเนินการเท่าที่จำเป็น โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสม มีลำดับขั้นตอนตามหลักสากล ที่ใช้ในการสลายการชุมนุมของประชาชน และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล และให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจหน้าที่ของตน ดำเนินการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติตามมาตรการ หรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวตามคำสั่งศาล จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น