เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก นางดวงพร จันทรลักษมี ประธานกลุ่มสตรีเพื่อความเป็นธรรมในสังคมนำ โดยกลุ่มสตรีศิษย์เก่านิด้า จำนวน 20 คน แต่งชุดดำเดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อขอให้ทหารปกป้องประชาชนและยับยั้งการใช้อำนาจมิชอบของรัฐบาล โดยมีพล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบกเป็นผู้รับหนังสือแทน
โดยจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ ผบ.ทบ.ใช้กำลังทหารเพื่อปกป้องประชาชน ให้ปลอดภัยจากการใช้กำลังและอาวุธของหน่วยต่างๆ ที่รัฐบาลจัดตั้งและสนับสนุน เนื่องจากประชาชนจำนวนมากไม่อาจเชื่อถือข้อมูลใดๆ ที่ผู้มีอำนาจหน่วยอื่น โดยเฉพาะตำรวจได้อีกต่อไป จึงขอให้ท่านตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
เพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบว่า มีการใช้อาวุธจริงหรือไม่ และหากมีเป็นอาวุธประเภทใดจึงทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจำนวนมาก และขอให้มีบทบาทในการยับยั้งการใช้อำนาจในทางมิชอบของรัฐบาล โดยไม่ต้องทำการปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาการบริหารปกครองประเทศได้โดยปราศจาก การคอรัปชั่นทั้งโดยตรงและเชิงนโยบาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มสตรีฯ ยื่นหนังสือ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพล.ต.วีรัณ โดยแกนนำกลุ่มสตรีระบุว่า ที่ผ่านมากลุ่มชื่นชมและวางใจผบ.ทบ.มาก แต่ตอนนี้เราไม่มั่นใจ เพราะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูท่านจะเฉยไป อยากถามผบ.ทบ.ว่า ทำไมทหารไม่มาช่วยประชาชน เราเข้าใจว่าผบ.ทบ.ต้องเป็นธรรม แต่อยากให้ท่านช่วยชายตามมามองประชาชนมือเปล่า กับการใช้อาวุธสงคราม และความจริงการใช้กำลังวันนั้นต้องมีการเจรจาก่อน แต่ตำรวจไม่เจรจากลับจัดการประชาชนทันที และเราเข้าใจว่ากองทัพบกมีปัญหาภาคใต้ แต่ตอนนี้มีปัญหากลางเมือง หากแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้คงแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้แน่นอน
ด้านนางศิริรัตน์ สุจริตจันทร์ พยาบาลเกษียณอายุราชการ แกนนำกลุ่มสตรี ฯ กล่าวว่า ในวันนั้นมีคนไข้ที่ตนโทรมาหาตนให้ไปช่วยเหลือ เพราะเราไม่ได้สู้กับคนธรรมดา และมีข่าวว่าจะมีการฆ่าหมอพยาบาลทั้งหมด แต่ตนก็ออกมาบอกว่า ตายเป็นตาย เด็กที่นอนในเต้นท์ ร้องไห้จนตนใจไม่ดี บาดแผลที่เอามาดูพบว่ามีสะเก็ดระเบิด เราอยากให้ผบ.ทบ.ออกมาช่วยประชาชน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลนี้จะทำร้ายประชาชนตลอด
ทั้งนี้ตนขอเรียกร้อง 3 ข้อคือ
1.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
2.ขอความเป็นธรรมให้ประชาชน
3.หาแนวทางที่จะทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มพร้อมยอมรับผลการตรวจสอบของคุณหญิงพรทิพย์ เพราะท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งหรือเกี่ยวข้องกับการเมือง และการทำงานมีงานมีความซื่อตรงไม่กลัวอำนาจรัฐ แต่ถ้าตำรวจมาตรวจสอบเรายอมรับไม่ได้ตน