ถึงแม้กระแสรังเกียจปฏิวัติ-รัฐประหาร จะเป็นเรื่องล้าหลัง นอกรัฐธรรมนูญ แต่เหตุความรุนแรงจากการสลายการชุมนุมที่รัฐสภา
ความเคลื่อนไหวของบรรดา ผบ.เหล่าทัพ ก็เริ่มคึกคักอีกครั้ง โดยพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น หลังเหตุรุนแรงที่หน้ารัฐสภา และฝ่ายการเมืองยังไม่มีทีท่าว่าจะแสดงความรับผิดชอบ อย่ากะพริบตาละความเคลื่อนไหวของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก นับจากนาทีนี้
เริ่มงานปฏิบัติการ ช่วงเช้าวันที่ 8 ตุลาคม พล.อ.อนุพงษ์ เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
เพื่อเข้ารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งถือเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่น่าจับตามอง... หลังจากภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ “แก๊สน้ำตา” ยิงถล่มใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงดึกวันที่ 7 ตุลาคม จนทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 400 คน
ทำให้บรรยากาศ “บ้านเมือง” ดูเศร้าสลดหดหู่ไปในถนัดตา เหตุเพียงแค่ “ต้องการ” เปิดทางให้ “รัฐบาล” ของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เข้าสภาเพื่อแถลงนโยบายให้ได้เป็นรัฐบาลอย่างสมบูรณ์เท่านั้น ไม่สนใจว่า “ผล” ของการกระทำครั้งนี้ ออกมาด้าน “ลบ” มากเพียงใด เมื่อรัฐบาลใช้กำลังปราบประชาชนเช่นนี้ ก็เป็นธรรมชาติที่ต้องมองหาอำนาจอื่นที่อาจจะถ่วงดุล ความเคลื่อนไหวของบรรดา ผบ.เหล่าทัพ จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจละเลย โดยเฉพาะเป็นเหล่าทัพที่เพิ่งวางอำนาจการเมืองไปเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากเข้ายึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้บรรดา ผบ.เหล่าทัพ นัดหารือกันอย่างเร่งด่วน
ทั้ง พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ
ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ทหาร “ปฏิวัติ-รัฐประหาร” เพื่อยุติความรุนแรงของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ การพบกันของ ผบ.เหล่าทัพ ใช้เวลาหารือกันกว่า 2 ชั่วโมง ในการวิเคราะห์พิจารณาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง “ความเหมาะสม” เพราะผู้ชุมนุมปราศจากอาวุธ ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งสถานการณ์ที่บานปลายไปถึงความไม่พอใจในท่าทีของกองทัพ ของฝ่ายการเมืองที่ตั้งวงถล่ม พล.อ.อนุพงษ์ จนบางคนถึงกับเสนอว่า น่าจะปลด พล.อ.อนุพงษ์ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. เพราะเชื่อว่าหากทหารส่งกำลังออกมาช่วยเหลือตำรวจ เหตุการณ์คงไม่บานปลายไปมากเท่าที่เป็นอยู่