ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปรี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา รพ.รามาธิบดี เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม
ถึงผลชันสูตรศพ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ อายุ 27 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า ว่า พบมีบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณหน้าอกซ้ายต่อเนื่องถึงแขนซ้าย เนื้อบริเวณหน้าอกฉีกขาดหลุดออกมาเป็นชิ้นจนเห็นซี่โครง และทำให้กระดูกแขนข้างซ้ายหัก ภายในพบว่า มีเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอดซ้าย ปอดฟกช้ำจนทะลุ และหัวใจได้รับแรงกระแทกจนทะลุเช่นกัน สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก หัวใจทะลุ และเลือดออกในช่องปอด ลักษณะของบาดแผลเกิดจากถูกของแข็งที่มีความร้อน เข้าปะทะด้วยความเร็วสูง
"ความเร็วและความแรงเปรียบเทียบได้เท่ากับแรงกระแทกของการตกตึก 3 ชั้น และยังพบคราบเขม่า รวมทั้งรอยไหม้ทั่วร่างกาย โดยได้ส่งคราบเขม่าบนชุดชั้นในให้กับพนักงานสอบสวนส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อระบุชนิดของวัตถุระเบิดต่อไป เชื่อว่าแผลฉีกขาดในระดับนี้ รุนแรงเกินไปที่จะเกิดจากแก๊สน้ำตา นอกเสียจากแก๊สน้ำตาถูกยิงมาใส่อกและระเบิดที่บริเวณหน้าอกของผู้ตายพอดี"
ที่ศาลาสิงหเสนี วัดศรีประวัติ ที่ตั้งศพสวดพระอภิธรรม น.ส.อังคณา บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบๆ
ส่วนใหญ่เป็นคนในครอบครัว และญาติสนิท และมีบุคคลจากวงการต่างๆ มาร่วมเคารพศพ อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม.ปชป. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ศ.ระพี สาคริก ราษฎรอาวุโส ฯลฯ และเพื่อความสะดวกทางวัดได้ย้ายศพจากศาลสิงหเสนีไปยังศาลาบำเพ็ญกุศล ที่ใหญ่กว่า และสามารถรองรับพันธมิตรกลุ่มต่างๆ มาร่วมงานได้ และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมี ส.ว.กลุ่ม 40 และสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ นำพวงหรีดมาเคารพศพ แต่ยังไม่มีฝ่ายรัฐบาลมาร่วมงาน
นายจินดา บิดา น.ส.อังคณาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ลูกสาวไม่ใช่วีรสตรีคนเดียว ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องต้องช่วยดูแลคนอื่นที่บาดเจ็บด้วย หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ ในอนาคตอาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก