สหรัฐฯเรียกร้องให้ปชช.ชาวไทยเคารพกฎหมาย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

ที่แสดงความเสียใจต่อเหตุปะทะนองเลือดในไทยระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง ที่ด้านนอกรัฐสภาของไทยเมื่อวันอังคาร ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็ยอีกกว่า 400 คน เจ้าหน้าที่ผู้นั้นกล่าวด้วยว่า รู้สึกกังวลต่อรายงานที่ว่าผู้ประท้วงบางคนได้ใช้ความรุนแรงกับตำรวจและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมาย และแก้ปัญหาเรื่องความเห็นที่แตกต่างกัน ภายใต้สถาบันทางประชาธิปไตยต่างๆของไทย และขอให้ผู้ประท้วงแสดงมุมมองของตนอย่างสงบ โดยไม่ขัดขวางการทำงานของรัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง

สำนักข่าวเอเอฟพียังรายงาน เรื่องผู้ประท้วง 10 คนจาก"กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้จี้รถโดยสารประจำทางสาย 23 คันหนึ่ง

เมื่อเวลา 19.00 น.คืนที่ผ่านมาตามเวลาในไทย และไล่พนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร และผู้โดยสารทั้งหมดลงจากรถ ก่อนจะนำรถไปยังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกลุ่มนี้ยืดเป็นที่ทำการมาตั้งแต่ 26 สิงหาคม เพื่อใช้เป็นสิ่งกีดขวางบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล การบุกยึดรถโดยสารประจำทางนี้ มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากการปะทะกับทางตำรวจที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต2 คน และบาดเจ็บ 455 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 60 คนบาดเจ็บสาหัส และทำให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพประกาศในเวลาต่อมา ระงับการให้บริการรถโดยสารทั้งหมดทั่วกรุงเทพฯ ในช่วง 23.00 นาฬิกาถึง 03.00 นาฬิกา เพื่อรับประกันความปลอดภัยของพนักงานขับรถโดยสาร

สำนักข่าวเอเฟพีได้อ้างรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ที่ว่า กดลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศจะไม่วางแผนก่อการประท้วงเพิ่มเติมในช่วง 3 วันนี้ แม้จะยังปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ต่อไปด้วย

ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า บรรดาผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในไทยได้ประกาศเมื่อวันพุธว่าจะล้างแค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการปะทะกับตำรวจ ขณะที่ทหารเข้ารักษาความสงบในกรุงเทพฯหนึ่งวันหลังจากมีผู้เสียชีวิต 2 คน มีผู้ประท้วงบาดเจ็บ 423 คน และตำรวจบาดเจ็บ 20 นาย เพราะตำรวจพยายามเข้าสลายการชุมนุมประท้วง จนกลายเป็นความรุนแรงทางการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 1 ทศวรรษของไทย มีรายงานด้วยว่าในวันเดียวกัน มีคนงานหลายร้อยคนออกไปทำความสะอาดท้องถนนรอบๆรัฐสภา ที่เต็มไปด้วยซากรถยนต์ที่ถูกเผากับขยะอื่นๆที่เกิดจากการจลาจล

ในขณะที่แต่ละฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุ หลายคนได้ชี้ไปที่อาการบาดเจ็บรุนแรงของผู้ประท้วงหลายคน รวมทั้ง 4 คนที่ขาขาด

โดยระบุว่าเป็นหลักฐานว่าตำรวจใช้อาวุธหนัก ในขณะที่ตำรวจอ้างว่าใช้แต่ระเบิดแก๊สน้ำตา และเชื่อว่าผู้ประท้วงบาดเจ็บเพราะระเบิดที่พกพไปเอง ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย กล่าวกับผู้ชุมนุมในที่มั่นที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกเข้ายึดมาตั้งแต่ 26 สิงหาคม ว่าจะไม่เจรจากับคนที่มือเปื้อนเลือด เขาเรียกร้องให้ทุกคนเข้มแข็งและเปลี่ยนความเสียใจให้เป็นความโกรธเพื่อแก้แค้น

แม้ตำรวจจะยืนยันว่าใช้แค่แก็สน้ำตา แต่บรรดาผู้สื่อข่าวของเอพีรายงานว่ามีการใช้กระสุน"สตั๊นท์"ด้วย

ในขณะที่นายสมชาย วงศสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวว่าการใช้แก็สน้ำตาเป็นมาตรฐานระดับสากลในการนำกลับมาซึ่งความสงบเรียบร้อย และในขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงบอกว่าชุมนุมอย่างสงบ ก็มีหลายคนพกแท่งเหล็ก หนังสติ๊ก ประทัด และขวดเพื่อใช้โจมตีตำรวจนักข่าวของ เอพี เทเลวิชั่น นิวส์ เห็นอย่างน้อยสามคนที่พกปืน และเห็นสองในคนในจำนวนนี้ยิงใส่ตำรวจ ทำให้มีตำรนวจถูกยิง 3 นาย และอีกนายหนึ่งถูกแทงด้วยด้ามธง

รายงานข่าวระบุด้วยว่าแพทย์กว่า 10 คนที่โรงพยาบาลจุฬาฯได้กล่าวว่าจะปฏิเสธที่จะให้การรักษาพยาบาลตำรวจเพราะไม่พอใจการกระทำของตำรวจ

และเรียกร้องให้ผู้ร่วมงานเข้าร่วมด้วย แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยืนยันว่าจะให้การรักษาผู้เจ็บป่วยทุกคน ขณะที่สำนักข่าวเอพีอ้างเวปไซต์ของหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่นว่า นักบินของสายการบินในประเทศของสายการบินไทยที่ปฏิเสธไม่ให้สมาชิกสภาจากพรรคพลังประชาชนของนายสมชายขึ้นเครื่องบิน ได้ถูกสั่งพักงานแล้ว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์