ดีเบตโค้งสุดท้ายผู้สมัครยำกันเละ ชูวิทย์รอปาฏิหาริย์

ปชป.จัดปราศรัยใหญ่ให้ "หล่อเล็ก" หวังมัดใจคนกรุง "อภิรักษ์" มั่นใจประชาชนเลือก เชื่อ กกต.รับรองเป็นผู้ว่าฯ อีกแน่ "สมชาย" เปิดเวทีประชันที่สนามหลวง ยกเบอร์ 10 มืออาชีพเหมาะนั่งผู้ว่าฯ "ประภัสร์" เย้ยหล่อเล็กมีเวลา 4 ปี แต่ทำไม่สำเร็จ ยึดสโลแกนพูดจริง-ทำจริง ขณะที่ "ชูวิทย์" รับสภาพ รอ "ปาฏิหาริย์" ชนะเลือกตั้ง ส่วน กกต.คาดตีหนึ่ง วันที่ 6 ต.ค.รู้ผล

บรรยากาศการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากผู้สมัครจะสามารถหาเสียงได้ถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 4 ตุลาคมนี้ เท่านั้น ทำให้ผู้สมัครแต่ละคนต่างเร่งหาเสียงในเย็นวันสุดท้ายอย่างเต็มที่

 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม ที่ สวนเบญจสิริ ถ.สุขุมวิท พรรคประชาธิปัตย์ได้ปราศรัยใหญ่ให้แก่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครหมายเลข 5 โดยมีแกนนำพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยมีประชาชนมาฟังการปราศรัยราว 500 คน ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย

 นายอภิรักษ์กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานเพื่อคน กทม.อีกครั้งหนึ่ง โดยเน้นนโยบายทั้ง 5 ด้าน เช่น คุณภาพชีวิต ความปลอดภัย การแก้ไขปัญหาการจราจร ฯลฯ โดยจะทำนโยบายให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน

 นายอภิรักษ์กล่าวถึงการหาเสียงในช่วง 1 เดือน ที่ผ่านมา ซึ่งมีการโจมตีนายอภิรักษ์อย่างหนักว่า ระยะเวลา 1 เดือน ที่ผ่านมา ตนใช้ความอดทนอย่างมาก ทุกเวทีที่ไปแสดงวิสัยทัศน์มีผู้สมัครพูดโจมตีตน และรุนแรง ถึงขั้นยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบความโปร่งใสในการหาเสียง ที่ผ่านมายืนยันว่าการหาเสียงของตนเป็นไปตามกฎหมาย และเคารพกฎหมายทุกประการ

 "ประชาชนเชื่อมั่นได้เลยว่า หากเลือกอภิรักษ์ จะได้ผู้ว่าฯ กทม.ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่มีพฤติกรรมที่ขัดต่อระเบียบปฏิบัติของกฎหมายแน่นอน มั่นใจได้ว่าจะผ่านการรับรองของ กกต.และเข้าไปทำงานเพื่อคน กทม. เป็นคนของคน กทม." นายอภิรักษ์กล่าว

 ต่อมา เวลา 18.40 น. วันเดียวกัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นปราศรัย ณ ท้องสนามหลวง เพื่อช่วย นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครหมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน ท่ามกลางกองเชียร์หนาแน่น

 นายสมชายกล่าวว่า พรรคพลังประชาชนส่งนายประภัสร์ เพราะโลกเปลี่ยนไปทุกวัน หมุนไปทุกวัน คนเก่าๆ อาจไม่ทันสมัยแล้ว คนใหม่ความคิดใหม่ กำลังเป็นผู้บริหารแนวใหม่ และนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภาในอีก 1-2 วันนี้ สิ่งหนึ่งที่จำเป็นคือ การดูแลความสงบสุข สะดวกสบายของคน กทม. ซึ่งคนที่เป็นมืออาชีพที่จะดูแลคน กทม.มีความเชี่ยวชาญด้านขนส่งมวลชน ยุคนี้ไม่มีใครเหนือกว่านายประภัสร์ เอาแค่ระบบขนส่งมวลชนทำมาหลายสมัยแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ ลองให้นายประภัสร์เข้ามาจะสำเร็จหรือไม่

 "ผู้ว่าฯ กทม.ต้องเข้าใจแนวนโยบายรัฐบาล เพราะจะทำให้ง่ายในการที่มีคนในครอบครัวเดียวกันเข้ามาทำงานนั้น ง่ายกว่าที่จะไปปรึกษาคนนอกบ้าน เรื่องรถไฟฟ้าพูดกันมานาน ต่อไปนี้ขอให้ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่มาพิสูจน์ฝีมือ ผมขอฝากเบอร์ 10 พลังประชาชน และขอขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้ และในวันอาทิตย์ก็ขอให้ไปใช้สิทธิเลือกนายประภัสร์ด้วย" นายสมชายกล่าว

 ด้านนายประภัสร์ กล่าวว่า สาเหตุที่มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากเห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมา กทม.ยังไม่ได้รับการพัฒนาไปเท่าใดนัก โดยเฉพาะนโยบายที่ผู้สมัครจะต้องพูดจริง ทำจริงได้ และยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของหลายๆ ฝ่ายได้ แม้ว่าจะถูกโจมตี ซึ่งจนถึงขณะนี้เชื่อว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจตนและทีมงานที่จะเปลี่ยนให้ กทม.ดีขึ้น โดยเฉพาะประชาชนสามารถตรวจสอบได้ หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จะยึดหลักการพูดจริง ทำได้ ตอบได้ และขอฝากไปยังนายอภิรักษ์ว่า ทำไมเพิ่งมาพูดนโยบายตอนนี้ ทั้งๆ เมื่อ 4 ปีก่อนมีโอกาสทำ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเวทีปราศรัยนอกจากจะมี ส.ส. สก. และ ส.ข. ของพรรคพลังประชาชน มาช่วยกันปราศรัยแล้ว ยังมี ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ นายสุนัย จุลพงศธร และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เช่น นายอดิศร เพียงเกษ นายจาตุรนต์ ฉายแสง มาร่วมด้วย โดยการปราศรัยสิ้นสุดลงเมื่อเวลา 20.00 น.

"ชูวิทย์" ทำบุญแก้เคล็ด รอ "ปาฏิหาริย์" ให้ชนะ

 ส่วน นายชูวิทย์ ได้ปลีกเวลาในช่วงเช้าไปวัดศรีบุญเรือง เพื่อทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยการถวายสังฆทาน ปล่อยเต่า 19 ตัว โดยเขียนชื่อ-นามสกุล และอายุของตัวเองไว้ที่ท้องเต่า จากนั้นจึงปล่อยนก 7 ตัว ปลาไหล 7 ตัว และหอยขมอีก 600 ตัว

 นายชูวิทย์กล่าวว่า การมาทำบุญครั้งนี้เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และเพื่อความสบายใจของตัวเอง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) รู้ว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และเยาวชนไม่ควรทำตาม

 นายชูวิทย์ยอมรับว่า "โอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้คงจะต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น แต่ผมจะสู้ต่อไปอย่างไม่ท้อถอย"

 ส่วนกรณี กกต.กทม.กำลังตรวจสอบป้ายประชาสัมพันธ์ กทม.ของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครหมายเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ และอาจทำให้โดนใบเหลือง นายชูวิทย์ระบุว่า หากนายอภิรักษ์ได้รับใบเหลือง ตนก็อาจลงสมัครอีกครั้ง

"วิศาล" ช้ำพิษศอก-เท้าลาพัก 7 วัน

 อาการล่าสุดของนายวิศาล ดิลกวณิช ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมิติเวช เจ้าตัวระบุว่า ขณะนี้ยังมีอาการปวดศีรษะและท้ายทอยทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งหูซ้ายและหูขวา ปวดคอ มีอาการระบม แพทย์ได้ให้ยาและบอกให้พักฟื้นรอดูอาการ 2 วัน เพราะมีภาวะโลกหมุน

 เมื่อถามถึงการดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ นายวิศาลระบุว่า ได้เข้าให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว และกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งเทปโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ของนายชูวิทย์ ที่กล่าวหาตนด้วยข้อความที่ไม่เป็นความจริงว่า ตนบอกว่านายชูวิทย์ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ซึ่งตนไม่ได้พูด เป็นการอ้างคำพูดที่เป็นเท็จ ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ทีมทนายฟ้องหมิ่นประมาทนายชูวิทย์ ส่วนคดีทางแพ่งอาจจะปรึกษาทีมทนายอีกครั้งว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไร โดยเงินที่ได้มาจะมอบให้การกุศล

 ขณะที่ พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดแล้ว และจะสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ประมาณ 1-2 คน ซึ่งน่าจะเพียงพอ ขณะนี้เหลือเพียงผลวินิจฉัยทางการแพทย์ว่านายวิศาลมีอาการบาดเจ็บแค่ไหน จึงจะสามารถแจ้งข้อหานายชูวิทย์ได้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งข้อหาทำร้ายร่างกายธรรมดา ซึ่งเป็นข้อหาลหุโทษ แต่หากแพทย์ระบุว่าเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจก็จะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ส่วนการออกหมายเรียกนายชูวิทย์ เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเมื่อไร ต้องรอวินิจฉัยจากแพทย์เป็นสำคัญ

กกต.กทม.เลื่อนส่งสำนวนป้ายอภิรักษ์ 6 ต.ค.นี้

 นายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะส่งสำนวนข้อร้องเรียนกรณีป้ายประชาสัมพันธ์ กทม.เอื้อประโยชน์ให้นายอภิรักษ์ ไปยัง กกต.กลาง ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะส่งได้ภายในวันนี้ (3 ต.ค.) เพราะกระบวนการธุรการยังไม่แล้วเสร็จ และ กกต.กลางสามารถเรียกสอบพยานเพิ่มได้ หากเห็นว่าข้อมูลยังไม่ครบถ้วน เพื่อวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป

 ส่วนกระแสข่าวที่นายอภิรักษ์อาจได้ใบเหลือง ประธาน กกต.กทม.กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ว่าจริงหรือไม่ เพราะเป็นมารยาทที่จะไม่เปิดเผยผลสรุปในชั้นนี้ และได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องห้ามเปิดเผยข้อมูลด้วย เพราะอำนาจการพิจารณาอยู่ที่ กกต.กลาง

 นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.พร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แม้จะห่วงเรื่องฝน แต่ก็เตรียมพร้อม โดยย้ายหน่วยเลือกตั้ง 9 หน่วย ซึ่งเสี่ยงน้ำท่วม แต่ไม่ไกลจากจุดเดิม โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับทราบ

 เมื่อถามถึงข้อร้องเรียนเรื่องป้ายประชาสัมพันธ์ กทม. และการแจกไวไฟ การ์ดของนายอภิรักษ์ นายประพันธ์ระบุว่า กกต.คงวินิจฉัยไม่ทันก่อนเลือกตั้ง หากนายอภิรักษ์ได้รับเลือกตั้งอาจประกาศรับรองไปก่อน และหากพบว่าผิดก็จะร้องให้ศาลเพิกถอนสิทธิ์ ส่วนผู้สมัครคนอื่นก็ต้องระวัง หากนำเรื่องร้องเรียนไปโจมตีก็อาจเข้าข่ายความผิดมาตรา 57 ของกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสี

คาดรู้ผลเลือกตั้งตีหนึ่งวันที่ 6 ต.ค.

 ด้านการเตรียมความพร้อมของ กกต.ในการนับคะแนนจะมีการนับคะแนน และประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ณ สถานที่นับคะแนน และจะส่งผลการประมวลผลคะแนนด้วยระบบออนไลน์ไปให้ กกต.กทม.ศูนย์ประสานงานเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร

 การแสดงผลจะผ่านทางจอทีวีขนาดใหญ่ 2 จอ จนครบทั้ง 50 เขต และจะประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์