อดีตนายกรัฐมนตรี"สมัคร สุนทรเวช" กำลังประสบความยากลำบากในชีวิตบั้นปลาย ขนาดที่ว่าอาจจะต้องเข้าไปอยู่ในคุกเลยทีเดียว
เมื่อวันที่25 ก.ย. ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสมัครและนายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาท จากการที่ทั้งสองได้ร่วมกันจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวีและทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และการจัดรายการดังกล่าวมีการพูดพาดพิงถึงนายสามารถราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.ในทางเสียหาย ทำให้ถูกนายสามารถยื่นฟ้อง
กรณีของนายสมัครถือว่าเป็น โอษฐภัย ซึ่งหมายถึงภัยที่เกิดจากคำพูดโดยแท้ โดยกรณีของนายสมัครผู้ที่ต้องรับภัยจาก "ปาก" ก็คือตัวนายสมัครเอง
เห็นได้จากตอนหนึ่งของคำพิพากษาที่ระบุว่า"จำเลยเคยดำรงตำแหน่งระดับสูง ย่อมรู้ว่าคำพูดของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ และจำเลยยังเคยต้องโทษฐานหมิ่นประมาทจนคดีถึงที่สุดมาแล้วถึง 3 คดี จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ" แต่นายสมัครยังมีโชคอยู่บ้างที่ศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไป ซึ่งในช่วงนี้นายสมัครต้องไปตระเตรียมเรื่องเพื่อขออนุญาตฎีกาต่อไป โดยมีเวลาสำหรับนายสมัคร 30 วัน
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย..สำหรับนายสมัครที่จะได้รับอนุญาตให้ฎีกา
ทั้งนี้เนื่องจากคดีของนายสมัครเข้าข่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาถึง2 มาตรา
1.มาตรา 218 บัญญัติว่า ในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
2.มาตรา 219 บัญญัติว่า ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 2 ปี ถ้าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดที่ว่ามานี้ ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
แต่ถึงแม้โดยหลักต้องห้ามยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ก็ยังมีข้อยกเว้นไว้ให้...
ทั้งนี้เนื่องจากมาตรา221 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา บัญญัติว่า ในคดีซึ่งห้ามฎีกาไว้โดยมาตรา218, 219 ถ้าผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกาหรืออัยการสูงสุดรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีของนายสมัครที่จะหวังพึ่งให้อัยการสูงสุด รับรองฎีกาให้คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอัยการมาตั้งแต่ต้น โดยอดีตรองผู้ว่าฯ สามารถ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเอง
ดังนั้นความหวังของนายสมัครจึงขึ้นอยู่กับศาลชั้นต้น หรือศาลอุทธรณ์มากกว่า ว่าจะอนุญาตให้นายสมัครฎีกาได้หรือไม่
หากนายสมัครไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาก็ต้องก้มหน้ารับโทษจำคุก 2 ปี ทันที
และจากการหมิ่นประมาทดังกล่าวนายสามารถยังได้ยื่นฟ้องนายสมัคร เป็นคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายถึง 100 ล้านบาทอีกด้วย
วิบากกรรม ของนายสมัครไม่ใช่มีเพียงแค่นี้
เพราะนอกจากคดีนี้แล้วยังมีอีก 3 คดี ที่รอชี้ชะตากรรมของนายสมัคร
1.คดีทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของ กทม. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.
2.คดีทุจริตโครงการจ้างเหมาเอกชนขนขยะมูลฝอยของ กทม. 3 โครงการ มูลค่ากว่า 9,589 ล้านบาท คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.เช่นกัน
3.คดี กกต.แจ้งความร้องทุกข์ว่านายสมัครปลอมลายเซ็นนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน
ทั้ง3 คดี มีโทษตามกฎหมายถึงจำคุกทั้งสิ้น
และว่าด้วยเรื่อง"ปาก" ของนายสมัครนั้นน่าสนใจยิ่ง
นายสมัครเป็นนักการเมืองระดับ"ดาวสภา" คนหนึ่งเพราะเป็นคนพูดเก่ง เวลาอภิปรายในสภาจะมีคนรอฟังจำนวนมาก
แต่ก็เพราะ"ปาก" ของนายสมัครนี่เอง ที่ทำให้เกิดเรื่องเกิดราวมาหลายครั้ง
ครั้งหนึ่งนายดำรงลัทธพิพัฒน์ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ในรัฐบาลของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ฆ่าตัวตาย นายสมัครซึ่งขณะนั้นเป็นฝ่ายค้าน ได้ออกมาให้ข่าวทำนองว่า นายดำรงฆ่าตัวตายเพราะความเครียดเนื่องจากยักยอกงบประมาณของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จนทำให้นางสมศรี ภรรยาของนายดำรงยื่นฟ้อง ในข้อหาหมิ่นประมาท ต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษาให้จำคุกนายสมัคร 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญา
อีกกรณีหนึ่งซึ่งเป็นที่โด่งดังก็คือกรณี "สเตทเมนต์ปลอม" เนื่องจากนายสมัครได้อภิปรายกล่าวหานายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในขณะนั้น
โดยกล่าวหาว่านายจิรายุรับสินบนโดยนำสำเนาสเตทเมนต์แสดงการโอนเงินเข้าบัญชีของธนาคารเฟิสต์ อินเตอร์สเตท ในสหรัฐมาแสดงในสภาและอภิปรายว่ามีชื่อของนายจิรายุ เป็นเจ้าของบัญชี แต่ต่อมาจากการตรวจสอบโดยคณะกรรมการวิสามัญตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรผ่านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยพบว่าสเตทเมนต์ที่นายสมัครนำมาแสดงเป็น "ของปลอม" และนายจิรายุไม่เคยมีบัญชีเงินฝากในธนาคารดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่มีการดำเนินคดีต่อนายสมัคร เนื่องจากมีกฎหมายให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
อาจกล่าวได้ว่า...การกระทำในอดีตกำลังกลายเป็น "วิบากกรรม" ที่ตามไล่ล่านายสมัคร อยู่ในขณะนี้