เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯยืนยันจุดยืนต่อต้านการแก้ รัฐธรรมนูญ 2550 และเสนอการเมืองใหม่ ซึ่งรูปแบบการเมืองใหม่ มีความแตกต่างจากระบบเก่าอย่างชัดเจน โดยยังจะเป็นการเลือกตั้งแบบ 100% แต่แยกออกเป็นสองทาง คือ การเลือกตั้งผ่านเขตพื้นที่ และเลือกตั้งผ่านกลุ่มสาขาอาชีพ ตามสัดส่วนประชากร ยืนยันว่าไม่ได้เป็นแบบ 50:50 ตามที่สื่อเสนอ และไม่ใช่การสรรหาหรือแต่งตั้ง ไม่อยากให้เข้าใจผิด เพราะวันนี้มีการใส่ร้ายเรา ขณะนี้ยังเป็นเพียงตุ๊กตา ที่ยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนที่ชัดเจน ไปกำหนดไม่ได้ เพราะจะเถียงกันไม่จบ และยังเปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็น โดยในวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น. จะมีการเปิดเวที โดยเชิญผู้มีความรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม 30-40 คนมาหารือ
พล.ต.จำลองกล่าวว่า การเสนอการเมืองใหม่ เพื่อเป็นการป้องกันนายทุนเข้าไปซื้อสภาฯ ครอบงำอำนาจนิติบัญญัติและบริหาร จนเกิดเผด็จการรัฐสภา
อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มอาชีพมีจำนวนมากแต่ไม่มีโอกาสมาเป็น ส.ส. จึงต้องไปสวามิภักดิ์นักการเมือง ทั้งนี้ ในแต่ละอาชีพ อาจคัดเลือกตัวแทนลงสมัคร โดยประชาชนอาจต้องเลือกตั้งสองส่วน คือ เขตพื้นที่และสาขาอาชีพ มั่นใจว่าจะดีกว่าแบบเก่า และจะไม่ถูกครอบงำโดยง่าย เนื่องจาก มีความหลากหลาย แต่จะเป็นการมีตัวแทนที่แท้จริงไปคานอำนาจ หากดำเนินการได้ จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นจริงดังคำจำกัดความ และเราก็ไม่ต้องมาชุมนุมกันอีกต่อไป
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. นี้ กลุ่มพันธมิตรฯจะรื้อเวทีและเต็นท์บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินรวมทั้งสิ้น 6 วัน
เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยจะปรับรูปแบบมาใช้เป็นรถขยายเสียงเคลื่อนที่แทน ตามเจตนารมณ์ของการชุมนุม ที่ยึดหลักปกป้องสามสถาบันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การเปิดทางครั้งนี้ ถือว่าดำเนินการด้วยความเต็มใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อขอเจรจามาบ้างหรือไม่ พล.ต.จำลองตอบว่า ยังไม่มีใครในรัฐบาลติดต่อมา
แต่ยืนยันว่าเราไม่ปิดประตูการเจรจา แต่ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการตั้ง ครม.ใหม่ก่อน จึงคิดว่าควรทำภารกิจตรงนั้นให้เสร็จ แล้วค่อยคุยเรื่องนี้ แต่คนที่จะมาคุย ขอให้เป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ แต่เราคงไม่สามารออกไปเจรจานอกทำเนียบฯได้ เพราะออกไปตำรวจก็จับ ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งเงื่อนไข แต่ช่องทางอื่น เช่น ทางโทรศัพท์ก็สามารถทำได้ แต่สมมติหากทางรัฐบาลต่อสายมายังแกนนำคนใดคนหนึ่ง ก็ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป เพราะต้องนำหารือกับแกนนำทั้งหมด และถ้าเป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องสอบถามมติจากผู้ชุมนุม เพราะถ้าเราตัดสินใจอะไรไป แล้วผู้ชุมนุมไม่ยอม จะเป็นปัญหา
เมื่อถามกรณี พล.ต.สนั่นจะชักชวน พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อน จปร.7 ของ พล.ต.จำลองมาช่วยเจรจา พล.ต.จำลองตอบว่า ไม่มีปัญหาเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น ขอให้มีอำนาจในการตัดสินใจ