"สมชาย" เดินทางตรวจน้ำท่วมจ.พระนครศรีอยุธยา ชาวนาเมืองกรุงเก่าร้องทบทวนผันน้ำเข้าทุ่งนา ชาวสระบุรีแห่กรี๊ดผู้นำฝ่ายค้าน"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ระหว่างลงพื้นที่แจกถุงยังชีพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
(20ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรานนท์ รมว.วัฒนธรรม และนายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย ได้ไปตรวจดูการทำแนวป้องกันน้ำท่วมที่บริเวณพระตำหนักสิริยาลัย และวัดชัยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุทธยา โดยนายกรัฐมนตรี กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมให้เต็มที่
ก่อนหน้านี้ตัวแทนสมาคมชาวนา จ.พระนครศรีอยุทธยา ได้เข้ายื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี ทบทวนกรณีการผันน้ำเข้าทุ่ง เนื่องจากไม่อยากให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนเหมือนที่ผ่านๆ มา จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศ โดยมีอธิบดีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมชลประทาน บรรยายสถานการณ์โดยรวมทั่วประเทศ โดยขณะนี้ยังมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ คือ จ.พิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี หนองบัวลำภู และขอนแก่น
ซึ่งหากไม่มีฝนตกเพิ่มขึ้นช่วงนี้ก็ทำให้สภาวะการเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-4 วัน ยกเว้นจ.ลพบุรี ที่ต้องใช้เวลา 1 เดือนในการระบายน้ำ ทั้งนี้สำหรับภาพรวมทั่วประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรับมือและดูแลช่วยเหลือประ ชาชนได้เป็นอย่างดี และขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานทหาร กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรฯ ในการเข้าไปดูและช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น.วันนี้ ที่วัดชำผักแพว ม.1 ต.ชำผักแพว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้าน น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี เขต 1 และคณะ นำสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิ น้ำดื่ม อาหารแห้ง ผ้าห่มนวม ไปแจกจ่ายให้กับราษฏรในตำบล ชำผักแพว ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำท่วม จำนวน 10 หมู่บ้าน 1,061 ครัวเรือน โดยมีผู้มารอรับกว่า 1,500 คน
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปดูร่องรอยความเสียหายบ้านพักของ นายคำ จันทมี อายุ 72 ปี อยู่เลขที่ 82 ม.3 ต.ชำผักแพว ที่ปลูกอยู่ริมคลองชำผักแพว ซึ่งพักอาศัยอยู่กับลูกและหลานชาย ถูกกระแสน้ำพัดบ้านพังไปกับกระแสน้ำทั้งหลัง ตั้งแต่เมื่อ ค่ำวันที่ 12 ก.ย.2551 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เบื้องต้นให้กับครอบครัวนายคำ จำนวนหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พบปะประชาชนได้มีบรรดาชาวบ้านที่มารอรับของแจกกับครอบครัว ต่างพาขอถ่ายรูป กับผู้นำฝ่ายค้าน กันอย่างคึกคัก
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ฯและคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม และแจกถุงยังชีพแก่พี่น้องประชาชน ที่ประสบภัยน้ำท่วมใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ในวันเดียวกันนี้ต่อไปด้วย
ด้านพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย เปิดเผยว่า ปัญหาที่พบและทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก เนื่องจากลำคลองที่มีอยู่ทั่วประเทศยังน้อย เมื่อเกิดฝนตกหนักน้ำไม่สามารถระบายได้ทัน จึงทำให้น้ำเอ่อล้นและไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎร ดังนั้นแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาได้ก็คือ ทุกจังหวัดจะต้องมีการขุดลอกคูคลองเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นทางระบายน้ำให้น้ำสามารถไหลผ่านลงสู่บึงและลำน้ำใหญ่ๆ ได้
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวอีกว่า จะได้เร่งสั่งการให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดสำรวจสิ่งที่กั้นแนวทางน้ำที่ทำให้เกิดน้ำท่วม อีกทั้งสำรวจคูคลองต่างๆ ที่มีอยู่ว่าสามารถระบายน้ำได้แค่ไหน หากตื้นเขินและควรมีการขุดลอกใหม่ก็รวบรวมมาเพื่อดำเนินการขุดลอกคูคลอง ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ และหากจังหวัดใดอยู่ในที่ลุ่ม เมื่อเกิดน้ำท่วมไม่มีทางระบายน้ำ ก็จำเป็นต้องสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มเพื่อเชื่อมต่อกับลำคลองให้สามารถระบายน้ำที่ท่วมเมืองได้ หรือบางจังหวัดที่มีลำน้ำตื้นเขินก็จำเป็นต้องขุดลอกแม่น้ำเพื่อให้สามารถรับน้ำในฤดูน้ำหลากได้ เช่น ทางภาคเหนือที่แม่น้ำยมกำลังตื้นเขินก็จะมีการขุดลอกให้สามารถรับน้ำได้มากขึ้นและสามารถระบายน้ำได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศเบื้องต้นก็ได้ให้ทางจังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหามอบสิ่งของต่างๆ พร้อมการชดเชยความเสียหายให้กับชาวบ้านแล้ว ถ้าหากจังหวัดไหนขาดเหลือก็ขอให้ประสานไปได้ เพื่อที่จะได้มีการเสนอรัฐบาลและอนุมัติงบประมาณต่างๆ ลงมาให้ได้ แต่เบื้องต้นตัวเลขความเสียหายยังไม่สามารถระบุได้ รอให้น้ำลดและทุกจังหวัดสำรวจความเสียหายส่งเข้าไปให้ก่อนถึงจะสรุปได้
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ของจ.ขอนแก่น จากการรายงานของ นายเจตน์ ธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนกว่า 39,925 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในครั้งนี้ และยังพบว่าพื้นที่การเกษตรของประชาชากว่า 125,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมพืชผลทางการเกษตรเสียหายจำนวนมาก ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายจากน้ำท่วมในครั้งนี้กว่า 98.3 ล้านบาท ซึ่งหลายพื้นที่ยังถูกน้ำท่วมขังอยู่นั้น หาก 1-2 วันนี้ฝนไม่ตกลงมา สถานการณ์ก็คงจะคลี่คลายลงได้