"สมชาย" อ้อมแอ้มต่อสาย "สนธิ" แกนนำ พธม. พยักหน้ารับบรรยากาศดี "จำลอง" ยัน รบ.ประสานมาเพิ่งเริ่มต้น พร้อมเจรจาไม่มีเงื่อนไข แฉตำรวจเล็งสลายม็อบทำเนียบเช้ามืด 22-23 ก.ย. วางแผนรวบแกนนำรุ่น 1-2 ขู่ฟ้องเหมือนเหตุการณ์ลุยผู้ชุมนุมสงขลา เตรียมเปิดโฉมการเมืองใหม่ 22 ก.ย. ไม่ขวางสูตร 50-50 "บิ๊กจิ๋ว" ปัดแตกแยก "สุริยะใส" ตร.เข้มตั้ง 3 แนวสกัด "นปช.-พันธมิตร" เคลื่อนปะทะ
"สนธิ"แจ้งข่าว "สมชาย"โทร.หา
เวลา 22.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ขึ้นเวทีในทำเนียบรัฐบาลปราศรัยว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาพูดคุยด้วย โดยสอบถามว่า "สบายดีหรือไม่" ซึ่งได้ตอบไปว่า ขณะนี้ก็ไม่เดือดร้อนอะไร มีเพียงคดีที่ถูกฟ้องร้องอยู่ จากนั้นนายสมชายได้ถามว่า กลุ่มพันธมิตรต้องการให้รัฐบาลทำอะไรให้บ้าง รัฐบาลยินดีที่จะพิจารณา จึงได้ตอบไปว่า ต้องนำคำถามนี้ไปหารือกับแกนนำพันธมิตร และสอบถามประชาชนก่อน แต่สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรต้องการคือ ให้พรรคพลังประชาชนออกจากรัฐบาลโดยสิ้นเชิง
พันธมิตรเปิดการเมืองใหม่22ก.ย.
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังคงปักหลักชุมนุมทำเนียบรัฐบาลเรียกร้องให้มีการเมืองใหม่ โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตร ร่วมแถลงข่าวที่ห้องสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 กันยายน ซึ่ง พล.ต.จำลองกล่าวว่า แกนนำได้ประชุมหารือผู้รู้ เช่น นักวิชาการ อดีตข้าราชการ อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ และกลุ่มต่างๆ ถึงเรื่องการเมืองใหม่ จึงสรุปเป็นข้อคิดเห็นทั้งหมดไม่ใช่ของกลุ่มใด เพื่อจะบอกไปยังกลุ่มอาชีพต่างๆ ทั่วประเทศให้ร่วมกันเสนอแนวคิดและจะนำสิ่งที่หารือมาเป็นการเมืองใหม่ของประชาชน ซึ่งประชาชนจะต้องรับรู้และเห็นชอบด้วย
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอการเมืองใหม่ 50 ต่อ 50 (เลือกตั้ง 50: คัดสรร 50) นั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า พล.อ.ชวลิตเป็นคนสำคัญของบ้านเมืองมีประสบการณ์เห็นว่าการเมืองเก่าไปไม่ได้ จึงเสนอสูตรใหม่และเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อให้คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศเข้ามาเป็นนักการเมืองได้ ไม่ใช่มีเฉพาะนักเลือกตั้งและนายทุนเท่านั้น ดังนั้นจะไปว่า พล.อ.ชวลิตไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่ดี โดยไม่น่าจะผูกการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะจะปิดโอกาสกลุ่มอาชีพต่างๆ เข้ามาแก้ไขปัญหาของชาติ และจะเชิญผู้รู้มาร่วมเป็นเจ้าภาพหารือเกี่ยวกับการเมืองใหม่ต่อไป
พล.ต.จำลองกล่าวว่า ส่วนที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำจะประกาศการเมืองในวันที่ 22 กันยายน คาดว่าจะได้เห็นหน้าตาการเมืองใหม่ แต่ยังไม่ใช่เบ็ดเสร็จ ซึ่งจะเรียบร้อยได้ต้องนำไปสู่การประชุมของกลุ่มอาชีพต่างๆ ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ปูดตร.เล็งสลายม็อบ22-23ก.ย.
พล.ต.จำลองกล่าวถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ให้สัมภาษณ์ว่าพันธมิตรต่อรองหมายจับคดีกบฏว่า พันธมิตรไม่เคยต่อรองเลย พล.ต.อ.พัชรวาทได้พูดโกหกอีกแล้ว เพราะพันธมิตรพร้อมให้จับกุมตลอด แต่ผลที่ตามมาอาจเกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมืองได้
"การที่ตำรวจจะเข้ามาสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นเรื่องจริง ซึ่งเตรียมโล่ กระบอง และแก๊สน้ำตาไว้หมดแล้ว และเพิ่งได้รับจดหมายจากพันธมิตรที่เชื่อถือได้ว่าญาติเป็นตำรวจที่ จ.ศรีสะเกษ ยืนยันว่าตำรวจจากหลายจังหวัดจะเข้ามาจับแกนนำและสลายการชุมนุมในวันที่ 22-23 กันยายนช่วงเช้ามืด เพราะผู้ชุมนุมมีจำนวนน้อย ซึ่งได้เตรียมแผนจับแกนนำรุ่นที่ 2 ด้วยโดยจะให้ตำรวจไปล้อมบ้านของแกนนำรุ่นที่ 2 พร้อมกับจับแกนนำรุ่นที่ 1 ไม่ให้เคลื่อนไหวด้วย"
พล.ต.จำลองยังหยิบหนังสือพิมพ์ ฉบับเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม หลายฉบับขึ้นมาโชว์ต่อผู้สื่อข่าวพร้อมกับอ่านพาดหัวข่าวให้ฟังและกล่าวว่า ในหนังสือพิมพ์วันดังกล่าวไปดูได้มีการสลายการชุมนุมโดยตำรวจได้ทำร้ายคนชราและเด็กลงในหน้าหนึ่งแล้ว เป็นภาพที่โหดเหี้ยมมาก พันธมิตรจะฟ้องตำรวจตามหลักฐานที่ปรากฏ พันธมิตรยอมให้เข้ามาสลายชุมนุมได้แต่ต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามด้วย หากพันธมิตรจะฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อาจล้มละลายได้ เพราะเคยมีเหตุการณ์เมื่อครั้งการสลายชุมนุมที่ จ.สงขลา ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย
รับ "สมชาย" ต่อสาย-ยันไม่มีเงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้ต่อสายเจรจากับแกนนำพันธมิตร พล.ต.จำลองยืนยันว่า รัฐบาลได้ประสานมานั้นยังพูดอะไรไม่ได้เต็มที่เพราะเป็นระยะเริ่มต้นที่มีการเจรจา อย่างที่นายกฯได้พูดไว้ซึ่งเป็นเพียงริเริ่มเท่านั้น และถือเป็นสัญญาณที่ดีเพราะมีอะไรต้องพูดจากัน พันธมิตรพร้อมตลอดที่จะมีการเจรจาตั้งแต่ต้นมาถึงขณะนี้
เมื่อถามว่า ทำไมถึงยอมเจรจากับรัฐบาลนายสมชาย พล.ต.จำลองกล่าวทันทีว่า เรายอมเจรจาทุกรัฐบาล มีรัฐบาลมาเจรจากับเราบ้าง อีกทั้งการเจรจากับรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นั้นก็ไม่มีการเจรจามีแต่เล่นงานพันธมิตรอย่างเดียว ยืนยันพันธมิตรไม่ติดเงื่อนไขใด แต่ก็รอว่าจะเจรจากันเรื่องใด พร้อมเจรจาด้วยเหตุผลกับใครก็ได้ทั้งนั้น
ส่วนพันธมิตรต้องการให้รัฐบาลเสนอตัวเปิดเจรจาอย่างเป็นทางการก่อนหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดในรายละเอียด ต้องติดตามต่อไป การที่มีการริเริ่มเจรจานั้นเป็นเรื่องจริง ส่วนจะต้องเป็นนายกฯเข้ามาเจรจาหรือไม่นั้น ไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ เพราะการมีเงื่อนไขจะทำให้กลายเป็นคนดื้อดึงพูดยาก
ปัดแกนนำแตกแยก "สุริยะใส"
เมื่อถามว่านายสมชายคุยกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล หรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า หากมีการพูดคุยกับใครรายบุคคลในแกนนำพันธมิตรก็จะบอกกับแกนนำทั้งหมด ยืนยันไม่มีแกนนำแยกออกไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวและไม่บอกให้แกนนำรู้ ทั้งนี้ ฝ่ายที่มาเจรจาจะเป็นคนกลางหรือตัวแทนก็มีผลทั้งนั้นสามารถพูดคุยกันได้
พล.ต.จำลองยังกล่าวถึงการแถลงข่าวโต้ 5 ข้อเสนอของนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานพันธมิตรว่า ไม่ได้โต้แย้งนายสุริยะใส ตนและนายสมศักดิ์ก็ได้พูดคุยว่าข้อเสนอของนายสุริยะใสเป็นเรื่องดี และเคารพในความคิดของแต่ละคน และขอชมนายสุริยะใสเพราะเป็นคนนุ่มนวลมีไหวพริบ ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางแกนนำพันธมิตรและนายสุริยะใสไม่ได้มีการแตกแยกกัน
"สมชาย" รับต่อสายพธม.บรรยากาศดี
ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นนทบุรี เวลา 10.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุม ก.พ.ระดับปลัดกระทรวงกล่าวถึงกระแสข่าวต่อสายคุยกับแกนนำพันธมิตรว่า บางครั้ง เราคนไทยด้วยกัน ตนพร้อมพูดคุยได้กับทุกคน ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาว่าจะโกรธเกลียดกัน ถึงจะมีความคิดที่แตกต่างกันก็น่าจะสามารถพูดคุยกันได้
เมื่อถามย้ำว่าได้คุยกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรใช่หรือไม่ นายสมชายตอบว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำงาน ถามว่าบรรยากาศดีหรือไม่ นายสมชายไม่ตอบแต่พยักหน้า ส่วนกรณีที่ พล.ต.จำลองระบุว่าพร้อมเจรจา แล้วรัฐบาลจะพร้อมหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ขอให้เริ่มทำงานก่อน บางเรื่องต้องคุยยาว บางเรื่องต้องคุยสั้น
ปชป.แนะโละ "ความจริงวันนี้"
วันเดียวกันที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงภารกิจของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าหากนายกรัฐมนตรีพูดจากับประชาชนในวันที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไร และตั้งใจที่จะทำอย่างนั้นด้วยความจริงใจ เชื่อว่าประชาชนยอมรับได้ และจะทำให้เห็นโอกาสของความสำเร็จที่จะเกิดความสามัคคีของคนในชาติได้
"ตอนนี้จะบอกว่าพันธมิตรไม่ลดราวาศอก คงไม่ได้ นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ตบมือสักข้างหนึ่ง เพียงแต่บอกว่าจะทำ ดังนั้น นายกฯจะต้องไปหาเขา ชวนคุย ตั้งวงเจรจากัน ถ้าเจรจากันแล้ว เสนอทุกเงื่อนไขกันแล้ว พันธมิตรไม่เอา ก็ให้พี่น้องประชาชนรับรู้ รับทราบ และพิจารณาต่อไป" นายสุเทพกล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้านายกรัฐมนตรียังยืนยันในเรื่องของความปรองดองก็ต้องขจัดเงื่อนไขเหล่านี้ออกไป แม้แต่ในกรณีของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีก็เช่นเดียวกัน ควรมีท่าทีที่ชัดเจนได้แล้ว ว่าจะเปิดโอกาสให้คนอื่นมีสิทธิได้ใช้สื่อของรัฐหรือจะปล่อยให้มีการใช้สื่อของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมือง ตรงจุดนี้ถ้าทำได้เร็วก็จะเรียกความเชื่อมั่นได้ ขณะนี้ยังไม่ได้คิดที่จะขอพื้นที่ให้ฝ่ายค้านเพราะยังไม่ทราบว่ารัฐบาลจะมีแผนการใช้สื่อของรัฐอย่างไร แต่เฉพาะรายการที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้คือ รายการความจริงวันนี้ ควรจัดการยกเลิกได้แล้ว
ก๊วนเพื่อนเนวินมึนข้อเสนอ "บิ๊กจิ๋ว"
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวถึง พล.อ.ชวลิต เสนอรูปแบบการเลือกตั้งสูตรใหม่ว่า ไม่รู้ใจของ พล.อ.ชวลิต ซึ่งเห็นว่าอาจจะคิดนอกกรอบเพื่อบ้านเมือง แต่สูตรที่ต้องการให้แบ่งการเลือกตั้งร้อยละ 50 และอีก 50 มาจากการสรรหาตามอาชีพต่างๆ นั้น ไม่ทราบว่าเป็นระบบอะไร ซึ่งหากมีการใช้จริงอาจจะเป็นประเทศเดียวที่ใช้ระบบนี้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาว่าใครจะเป็นคนแต่งตั้ง และกำหนดหลักเกณฑ์การคัดสรร ส.ส.อีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออย่างไร
"สดศรี" ชี้ต่างชาติไม่รับการเมืองใหม่
ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ว่า หากพรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง โปร่งใส ก็ไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.ที่มาจากการแต่งตั้ง เพราะไม่รู้ว่า ส.ส.แบบแต่งตั้งนั้นจะเป็นตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนหรือไม่ และไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ส.ส.ที่มาจากการแต่งตั้ง จะมาทำประโยชน์ให้กับประเทศอย่างแท้จริง เนื่องจากกระบวนการสรรหาแบบไทย ยังมีการเล่นพรรคเล่นพวก และมีระบบอุปถัมภ์เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น จะให้บุคคลเพียงไม่กี่คนมาคัดสรรบุคคลมาทำหน้าที่แทนประชาชนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคิดเช่นกัน
" ทุกประเทศในโลกที่มีประชาธิปไตยจะไม่มี ส.ส.ที่มาจากการแต่งตั้ง เมื่อเราเป็นหนึ่งในประเทศที่รายล้อมไปด้วยประเทศที่มี ส.ส.เลือกตั้งทั้งระบบ ก็จะทำให้ประเทศเราผิดแผกแตกต่างจากประเทศอื่นๆ และจะเป็นปัญหาว่าต่างประเทศจะยอมรับระบบ ส.ส. แบบแต่งตั้งหรือไม่ และหากมี ส.ส.แต่งตั้ง ต่อไปก็ไม่จำเป็นจะต้องมีพรรคการเมือง" นางสดศรีกล่าว
ปธ.กกต.หนุนต้องฟังความคิดปชช.
ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองน่าน นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวภายหลังเป็นประธานโครงการเสวนาเรื่อง "บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการสนับสนุนการเมืองภาคประชาชน" ว่ากรณีมีการเสนอแนวคิดการเมืองใหม่ เนื่องจากไม่ไว้ใจระบบเลือกตั้งและนักการเมืองถูกกล่าวหามาจากขายสิทธิ-ซื้อเสียงนั้น เป็นความคิดเห็นอย่างหนึ่งของประชาชน ซึ่งสมควรต้องรับฟังจึงจะเป็นประชาธิปไตย ส่วนจะปฏิบัติได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันอาจไม่ใช่เลือกตั้ง 30 หรืออาจเป็นกี่สิบต่อกี่สิบก็นับเป็นแนวคิดอย่างหนึ่ง เห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีเมื่อถูกเสนอมาจากประชาชนก็ต้องพิจารณา การพัฒนาระบบเลือกตั้งในตอนนี้ต้องใช้ระบบผ่านสภาอยู่ ก็ต้องพยายามปฏิบัติตามกฎหมาย ต้องพิจารณามาตามขั้นตอน รูปแบบที่กำหนดไว้ ซึ่งถือเป็นระบบที่ดีที่สุดในยามนี้ ส่วนจะแก้ไขอย่างไรก็ปรับปรุงกันไป
นักวิชาการสวน "ลากตั้ง"ถอยหลัง
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทฤษฎีการเมืองใหม่ 70:30 ต้องคุยกันให้ชัดเจน โดยต้องให้พันธมิตรขยายความว่าหมายถึงอะไร ที่บอกว่าตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นตุ๊กตายังไม่มีความชัดเจน ส่วนตนมองว่า ระบอบประชาธิปไตยการเมืองควรจะเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง ถ้า 70 เปอร์เซ็นต์ มาจากการแต่งตั้งก็จะเป็นการเมืองที่ถอยหลัง ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องใช้ท่าทีของความเป็นผู้นำรัฐบาล และผู้นำในพรรคควบคุมไม่ให้เกิดปัญหา ขณะนี้ยังมีทางออก ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันยังมีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์ โดยเฉพาะการไม่ใช้ความรุนแรง
ตร.ตั้ง3แนวสกัดกลุ่มนปช.-พธม.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงการดูแลป้องกันการชุมนุมไม่ให้ทั้งกลุ่มพันธมิตรที่ทำเนียบรัฐบาลและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่สนามหลวงกระทบกระทั่งกัน ว่าคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) ซึ่งมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธาน ได้ประชุมหารือถึงแนวทางต่างๆ ถ้ามีการเคลื่อนย้ายก็ต้องตรวจสอบอาวุธ หรือสิ่งที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ ไม่ว่าจะเป็นไม้เบสบอล หนังสติ๊ก ด้ามธง ท่อนเหล็ก เป็นต้น ไม่ให้ติดตัวระหว่างที่เคลื่อนขบวน
พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ตำรวจวางแนวสกัดกั้นไว้ 3 ชั้น แนวที่ 1 บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มีตำรวจ 2 กองร้อย ไม่มีอาวุธ ไม่มีโล่ เป็นจุดเจรจา แนวที่ 2 เป็นจุดหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นแนวสกัดกั้น มีกำลังตำรวจ 2 กองร้อย พร้อมโล่ แนวที่ 3 เป็นจุดหน้ากองทัพบก เป็นจุดควบคุมขั้นเด็ดขาดไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมมาปะทะกันได้ หรือผ่านทะลุไปได้ จุดนี้มีกำลังตำรวจ 500 ร่วมกับกำลังทหารอีก 5 กองร้อย พร้อมอุปกรณ์ปราบจลาจลเต็มอัตราจำนวน รถดับเพลิง ลวดหนาม สกัดไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าปะทะกันโดยเด็ดขาด จากการข่าวของตำรวจคาดว่าจะสามารถคุมกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้มีการเคลื่อนที่ได้ แต่เพื่อความไม่ประมาทเตรียมพร้อมไว้ทั้ง 3 แนวไม่ให้มีการปะทะกันได้อย่างเด็ดขาด
ยันไม่คุย9แกนนำกบฏเจอจับทันที
ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาการแทน ผบช.น. กล่าวหลังประชุมประเมินสถานการณ์กลุ่มพันธมิตรและ นปช. ว่าเหตุการณ์ชุมนุมจะผ่านพ้นไปด้วยดี ยึดถือการเจรจาเป็นหลัก จะขอร้องแต่ละกลุ่มไม่ให้เคลื่อนขบวน ไม้กอล์ฟ ด้ามไม้ คันธง ถ้าถือมาคงไม่ได้ จัดเป็นอาวุธตามกฎหมายแล้ว รวมทั้งจะมีมาตรการเสริมคือจัดเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพวิดีโอ เพื่อให้เห็นภาพว่าใครทำอะไรบ้างหลังเกิดเหตุจะได้จับกุมตัวมาดำเนินคดีได้
พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น. กล่าวว่า ฝากถามทั้ง นปช.และพันธมิตร ที่บอกว่าไม่มีอาวุธนั้น การถือไม้กอล์ฟจะเอาไปไดร์ฟที่ไหน จะไม่ให้ถือมาปะทะกันเด็ดขาด แต่หากตำรวจคุมไม่อยู่ก็จะประสานกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ภายใน 15 นาที และจะไม่เจรจากับแกนนำและผู้ถูกออกหมายจับข้อหากบฏทั้ง 9 คน เพราะมีหมายจับอยู่ถ้าเจอที่ไหนก็ต้องจับ ซึ่งถ้าพบด้านนอกทำเนียบรัฐบาลต้องจับกุมทันที เหตุที่ไม่บุกเข้าไปจับกุมในทำเนียบรัฐบาล เพราะอาจเกิดความวุ่นวาย ตอนนี้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองแก้ปัญหา
กลุ่มพลังรามฯจี้ตร.แจงคดียิง2น.ศ.
เวลา 17.15 น. เครือข่ายพลังนักศึกษาเพื่อสังคมมหาวิทยาลัยรามคำแหง นำโดยนายสิกขนันท์ หนูเล็ก ผู้ประสานงานฯ นำแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ขอให้ตำรวจชี้แจงคดียิง 2 นักศึกษารามคำแหงบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 4 กันยายน ระหว่างเดินขบวนไปบ้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เนื่องจากผ่านมา 2 สัปดาห์แล้ว จึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ชี้แจงความคืบหน้าคดีกับสังคมให้ชัดเจนด้วยเงื่อนเวลาอย่างเร็วที่สุด ซึ่ง พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น. รับเรื่องไว้
5พันคนร่วมสนามหลวง-นปช.ไม่เคลื่อน
เวลา 19.00 น. ที่บริเวณเวทีปราศรัยสนามหลวงของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ซึ่งป้ายบนเวทีเขียนว่า "ครบรอบ 2 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ยุติการเมืองพันธมิตร" โดยมีประชาชนส่วนใหญ่สวมเสื้อสีแดงมาร่วมชุมนุมฟังประมาณ 5,000 คน ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลความสงบเรียบร้อย ขณะที่แกนนำ นปช.ทยอยมารอขึ้นปราศรัยหลังเวที อาทิ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด รวมทั้งนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี นายวีระ มุสิกพงศ์ และนายจตุพร พรมหมพันธุ์ ส.ส.พลังประชาชน ซึ่งเป็นผู้จัดรายการความจริงวันนี้มาร่วมด้วย
นายวิภูแถลงกล่าวว่า การชุมนุมในคืนวันนี้จะไม่มีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปไหนเพราะไม่อยากให้ปะทะกัน และจะยุติลงในเวลาประมาณ 24.00 น. โดยขอประกาศจุดยืน 2 ข้อ 1.ไม่ยอมรับและคัดค้านการแก้ปัญหาด้วยการรัฐประหารโดยเด็ดขาด 2.หากการเมืองมีปัญหาก็ให้ใช้ระบบรัฐสภาแก้ปัญหา ไม่เห็นด้วยการทำรัฐประหารเพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติโดยเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีกรบนเวทียังได้ประกาศยกย่องนายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ที่ขับรถชนรถถังทหารเสียชีวิต เมื่อช่วงเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 กับนายณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสง ผู้ชุมนุมชาวนครราชสีมาที่เสียจากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มพันธมิตรบริเวณถนนราชดำเนินกลาง เมื่อค่ำวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา
"วีระ-จตุพร" ปราศรัยอัดพธม.
เวลา 20.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตแกนนำพรรคพลังประชาชน ปราศรัยบนเวที นปช.ว่า ขอให้ทุกคนอดทน พันธมิตรกำลังหาทางลง คนที่เข้าไปชุมนุมในทำเนียบไม่มีความสุขเพราะทำผิดกฎหมาย แกนนำโดนข้อหาฉกรรจ์ แต่ทำใจดีสู้เสือ ส่วนตัวอยากเสนอให้ยกเลิกองค์กรอิสระที่ไม่อิสระอย่างแท้จริง พร้อมกับแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 เลิกกฎหมายไม่เป็นธรรม และว่า หากรายการ ความจริงวันนี้ ถูกถอดจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที จะมาชุมนุมที่สนามหลวงแทน หลังหมดหน้าฝนแล้วราวเดือนตุลาคมนี้ นปช.จะชุมนุมใหญ่อีกครั้งเพื่อสนับสนุนรัฐบาล
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ขอให้นายกฯอยู่เคียงข้างประชาชน รักษาระบอบประชาธิปไตยเหมือนเช่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายสมัคร สุนทรเวช กระทำ อย่ายกเลิกข้อหากบฏให้กับ 9 แกนนำพันธมิตร ขณะนี้ทำเนียบกำลังเสื่อมโทรม มีกลิ่นเหม็น ใครเป็นนายกฯใหม่ไม่สบายใจที่จะเข้าไปดูแล
ต่อมานายกอบแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. ประกาศบนเวทีว่า ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมนี้ จะชุมนุมต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อประกาศพิทักษ์ประชาธิปไตย และขอรับสมัครการ์ด นปช.อายุตั้งแต่ 40 ปีลงมา พร้อมเปิดรับระดมทุนเคลื่อนไหว
สนธิยอมรับสมชาย.ต่อสายคุย จำลอง ชี้สัญญาณดี ตร.เล็งสลายม็อบทำเนียบเช้ามืด 22-23 ก.ย.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง สนธิยอมรับสมชาย.ต่อสายคุย จำลอง ชี้สัญญาณดี ตร.เล็งสลายม็อบทำเนียบเช้ามืด 22-23 ก.ย.