นายกฯ 7 เดือน สมัคร สุนทรเวช อัศวินโลว์คอสต์ ก่อนผันแปรสู่ คนธรรมดาโนคอสต์

"...จากวันนั้นถึงวันนี้ที่ผู้ชายชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" เป็นผู้นำประเทศผ่านมากว่า 7 เดือนแล้ว ได้เสนอนโยบายที่สร้างทั้งเสียงชื่นชมและประณาม ทั้งรื้อฟื้นโครงการเมกะโปรเจ็คต์ของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาอีกครั้ง ..."

สร้างประวัติศาสตร์กับประเทศไทยอีกบทหนึ่ง เมื่อพรรคไทยรักไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ถูกยุบในวันที่ 30 พ.ค. 50 จนเหลือเพียงมูลนิธิ 111 ไทยรักไทยไว้ดูต่างหน้า

หลายคนอาจคิดว่าเรือลำใหญ่นี้จะจมพร้อมหัวเรือหลัก เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ติดร่างแหถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี แต่แล้วก็มี "อัศวินขี่ม้าขาว" คนหนึ่ง ชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" ปรากฎตัวขึ้นพร้อมรับหน้าที่ดูแลลูกพรรคที่กำลังลอยคออยู่ในทะเลและพากันย้ายไปขึ้นเรือลำใหม่ชื่อ"พลังประชาชน"



วันที่ 24 สิงหาคม 2550 ที่ประชุมใหญ่พรรคพลังประชาชนเลือกนายสมัครเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ผู้ที่กล่าวอ้างว่ามี "เลือดสีน้ำเงิน" อยู่เต็มตัว

นำทัพลงหาเสียงจนได้รับคะแนนเสียงถล่มทลาย ได้กุมเสียงส่วนมากในสภาฯ จัดตั้งรัฐบาลสมปรารถนา ส่งผลให้ผู้ประกาศตัวเป็นคนโลว์คอสต์คว้าเก้าอี้ประมุขฝ่ายบริหารมาครอง นับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2551 สานฝันนายสมัครที่เคยพลาดหวังตำแหน่งผู้นำประเทศ ได้ผงาดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทยได้สำเร็จ



บุญวาสนาของนายสมัครยังไม่จบแค่นั้น เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 นายสมัครยังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควบอีก 1 ตำแหน่ง ซึ่งนายสมัครนับว่าเป็นพลเรือนคนที่ 3 ที่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงนี้

จากวันนั้นถึงวันนี้ที่ผู้ชายชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" เป็นผู้นำประเทศผ่านมากว่า 7 เดือนแล้ว ได้เสนอนโยบายที่สร้างทั้งเสียงชื่นชมและประณาม ทั้งรื้อฟื้นโครงการเมกะโปรเจ็คต์ของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาอีกครั้ง ความคิดเปิดบ่อนกาสิโนเสรีในไทย นโยบายการผันแม่น้ำโขงผ่านอุโมงค์เข้าพื้นที่เกษตรภาคอีสาน มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดราคาสินค้าหมูเนื้อแดง ยกเลิกมาตรการกันเงินสำรองระหว่างประเทศ 30% และโครงการประชานิยมใหม่ล่าสุด เช่น มาตรการ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อไทยทุกคน

แต่ผลงานที่นายสมัครไม่ตั้งใจสร้าง แต่กลับกลายเป็นบุคลิกที่แสนโดดเด่น คือการวิวาทะกับสื่อมวลชน จนกลายเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ ภายในข้ามคืน

เมื่อผู้นำประเทศถามนักข่าวหนุ่มว่า "เมื่อคืนไปเสพเมถุนกับใครมาหรือเปล่า" หลังถูกถามถึงปัญหาภายในพรรค จนกระทั่งองค์กรวิชาชีพสื่อสามารถนำพฤติกรรมของนายสมัครรวมเล่มเป็นผลการศึกษาเรื่อง ′(วิ)วาทกรรมสมัครกับสื่อ′ สรุปว่าสมัครใช้กลยุทธ์การสื่อสารที่ทำให้การสื่อสารสองทางเป็นการสื่อสารทางเดียว ใช้ภาษาข่มขู่ รุนแรง ดุเดือด เลี่ยง เบี่ยงเบน บิดเบือน และทำให้หลงประเด็น พูดความจริงบางส่วน หรือ พูดเท็จบ่อย ๆ ทำให้ความชอบธรรมกลายเป็นความไม่ชอบธรรม ลดทอนน้ำหนักของประเด็นคำถาม สร้างเรื่องใหม่ขึ้นมากลบเกลื่อนประเด็นสำคัญ นอกจากเกิดอาการตาขวางหน้านิ่งใส่นักข่าว เมื่อไม่สบอารมณ์

 

นอกจากนี้ ด้วยความเป็นคนตรงไปตรงมาและมีจุดยืนชัดเจน ทำให้นายกฯ คนนี้ตกเป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

จากกรณีพูดพาดพิงนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม., คดีจัดซื้อรถดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิงมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ลงนามสมัยเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และกรณีที่ถูกกล่าวหาเรื่องการเป็นพิธีกรจัดรายการชิมไปบ่นไป และยกโขยงหกโมงเช้า อาจขัดต่อคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แต่ 7 เดือนที่ผ่านนั้น อาจไม่ใช่เวลาที่สั้นนัก เมื่อเทียบกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย อย่าง พล.อ.สุจินดา คราประยูร เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2535 แต่ได้ถูกกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่มคัดค้านตลอดมา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" พล.อ.สุจินดา จึงลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 24 พ.ค. เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยอิสระและเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายพจน์ สารสิน ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแค่ 3 เดือนกว่าเท่านั้น ในช่วงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2500 ถึงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 เนื่องจากนายพจน์เป็นเพียงนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลรัฐประหารของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

เมื่อเส้นทางบนหอคอยทำเนียบรัฐบาลไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่นายสมัครฝันมาตลอด อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชาชน อาจพร้อมชูคนใกล้ตัวอย่าง "นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์" รองนายกรัฐมนตรีคนที่1 และน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ แต่งตัวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็ได้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์