"ชูวิทย์"จี้กกต.แจกใบแดง"อภิรักษ์" อ้างป้ายโฆษณาแฝงติดทั่วเมือง ทำผลโพลอดีตผู้ว่าฯพุ่งฉิว ร้องให้รีบปลดป้ายออก บอกขอท้าชนอย่างลูกผู้ชาย
เมื่อเวลา 10.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 เดินทางมาที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อร้องเรียนกรณีป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ ของกรุงเทพมหานคร ที่มีชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นผู้สมัครหมายลข 5 โดยร้องเรียนว่า 1.ป้ายโฆษณาดังกล่าวปรากฎอยู่ในมี่สาธารณะอันมีลักษณะเข้าข่ายเป็นการต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้งรูปแบบ ขนาด และสถานที่ติดตั้ง
2. ป้ายโฆษณาตามป้าย เป็นลักษณะ 3 มิติ บางป้ายเป็นป้ายที่มีปล่องไฟ อันไม่ตรงกับลักษณะที่ กกต. กำหนด แม้จะไม่มีชื่อนายอภิรักษ์ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า เป็นผลจากการโฆษณาต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เป็นผลงานของนายอภิรักษ์อยู่ดี ทั้งลักษณะการโฆษณาเกินจริง เพราะไม่ปรากฎว่า มีโครงการนั้น ตามที่โฆษณา จึงเป็นเพียงการสร้างสรรค์สื่อโฆษณา
3. ป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ของนายอภิรักษ์ ทั้งที่เสร็จสิ้นแล้ว รวมทั้งอันที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ รวมถึง นโยบายในอนาคต ซึ่งตามโครงการก็ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงปรากฎว่าอยู่ที่ใด
4. ป้ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์บางอัน ได้มีการติดชื่อนายอภิรักษ์ และมีทั้งป้ายที่ไม่มีการปิดชื่อนายอภิรักษ์ แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่สุจริต ปรากฎอยู่ทั่วไปเป็นผลให้ประชาชนเข้าใจว่า เป็นผลงานของนาอภิรักษ์ ซึ่งหากประชาชนเลือกนายอภิรักษ์ มาเป็นผู้ว่าต่ออีก 1 สมัย ก็จะสืบสานโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหากไม่เลือกนายอภิรักษ์ ก็อาจไม่ได้รับการบริการจากโครงการต่างๆ เหล่านั้น
5. หากกระทำเช่นนี้ได้ ในสื่อใดสื่อหนึ่ง ก็หมายความว่า สามารถโฆษณาได้ในสื่ออื่นๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ หากยอมให้มีการกระทำดังกล่าว ต่อไปในการเลือกตั้ง ก็จะมีผู้กระทำการเช่นนี้ ก่อนหมดวาระ การดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น และต่อเนื่องจนถึงการเลือกตั้ง อันเป็นการไม่ส่งเสริมระบบการเลือกตั้ง ตามระบอบปรุะชาธิปไตย
6. ป้ายโฆษณาดังกล่าว ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร ทั้งที่มาจากภาษีอากรของประชาชน การนำป้ายโฆษณาดังกล่าว ที่มีชื่อนายอภิรักษ์ มาติดตั้งในบริเวณต่างๆ ส่งผลให้คะแนนนิยม ของนายอภิรักษ์สูงขึ้น โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ซึ่งค่าใช้จ่ายนั้นจะต้องคำนวณ รวมเป็นงบฯ ในการเสียงตามที่ กกต. กำหนด จึงถือว่า ไม่เป็นะรรมต่อผู้สมัครรายอื่นๆ
7. ป้ายโฆษณา ได้ปรากฎชื่อของนายอภิรักษ์ อย่างชัดเจน และบางป้ายได้ปรากฎรูปภาพของนายอภิรักษ์อีกด้วย ซึงถือว่าเป็นกานโฆษณาหาเสียงแอบแฝง
8. ปัจจุบันสถานะของนายอภิรักษ์ เท่าเทียมกับผู้สมัครรายอื่น การมีป้ายโฆษณาดังกล่าว ทำให้เเกิดแรงจูงใจให้ประชาชนเชื่อว่า ถ้าเลือกนายอภิรักษ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ก็จะได้รับบริการจากโครงการและนโยบายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น
9. การดำเนินการติดตั้ง ป้ายโฆษณา แม้จะเริ่มในสมัยนายอภิรักษ์ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. แต่หลังจากพ้นวาระ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2551 ป้ายดังกล่าวก็สมควรที่จะถูกปลดลง เพื่อความเป็นธรรมกับผู้สมัครรายอื่น ซึ่งจจะปล่อยให้มีป้ายปรากฎอยู่นั้น มีผลทำให้คะแนนความนิยม ของนายอภิรักษ์ สูงกว่าผู้สมัครรายอื่น เพราะผู้สมัครรายอื่น ไม่สามารถโฆษณาได้เช่นเดียวกับนายอภิรักษ์
10. ป้ายโฆษณาดังกล่าว มีน้ำหนักความน่าเชื่อถือกว่าป้ายโฆษณาโดยทั่วไป เพราะจัดทำโดยส่วนราชการ
ชูวิทย์ร้องกกต.แจกใบแดงอภิรักษ์ทำป้ายโฆษณาแฝง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายชูวิทย์ เดินทางมาถึง ได้ข้ามถนน เพื่อไปดู ป้ายประชาสัมพันธ์ของกทม. ซึ่งมีชื่อของนายอภิรักษ์ ปรากฎอยู่
จากนั้นก็เดินทางไปที่ ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ทั้งนี้นายชูวิย์ กล่าวว่า พฤติกรรมของนายอภิรักษ์ ส่งผลต่อความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ว่า หากไม่เลือกนายอภิรักษ์ จะไม่ได้รับการบริการเช่นนี้อีก ซึ่งถือว่า เป็นการซื้อเรือแถมพาย ซื้อควายแถมเชือก โดยคะแนนความนิยม ชี้ให้เห็นจากผลสำรวจจากสำนักต่างๆ ที่นายอภิรักษ์ มีคะแนนำผู้สมัครรายอื่นๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น กรุงเทพฯ ม. 57 วรรค 5 โดยโครงการบางโครงการที่อยู่ในป้ายโฆษณาของนายอภิรักษ์ ยังทำไม่เสร็จ บางโครงการยังไม่เริ่ม หากมีป้ายโฆษณานี้ก็ต้องไม่มีการเลือกตั้ง ให้นายอภิรักษ์ชนะไปเลย เพราะถือว่า เจตนาไม่บริสุทธิ์ ทั้งนี้ อยากถามว่า กทม. ทำธุรกิจแข่งกับใคร ทำไมต้องปิดป้ายโฆษณาดังกล่าวเต็มบ้านเต็มเมือง ผลประโยชน์ตกกับใคร และป้ายใหญ่กว่าป้ายรถเมล์อีก
"ผมมาเรียกร้องความยุติธรรม ขอให้การแข่งขันอย่างเป็นธรรม ขอท้าชนให้แข่งขันกันอย่างลูกผู้ชาย" นายชูวิทย์กล่าว และแสดงความเป็นกังวลว่า เรื่องดังกล่าวอาจทำให้ต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2 ครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องการให้ กกต. ทำอย่างไรกับป้ายเหล่านี้ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ต้องให้ใบแดงเท่านั้น โดยเรียกร้องให้ปลัด กทม. ให้ใบแดงนายอภิรักษ์
เมื่อถามว่า หากกทม. ทำการปลดป้ายนายอภิรักษ์แล้ว นายชูวิทย์ จะดำเนินการอย่างไร นายชูวิทย์กล่าวว่า เหมือนเอามีดแทงคนแล้วมาขอโทษ แล้วความผิดมันหายไปหรือไม่ การกระทำเช่นนี้ เป็นความผิดที่ทำไปแล้ว ดังนั้นขอเรียกร้องให้ กกต. ให้ใบแดงนายอภิรักษ์ด้วย ในขณะที่ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ นำกระดาษ สีเหลืองอ่อน มาเขียนชื่อของตัวเอง "ชูวิทย์" ด้วยปากกาสีเขียว พร้อมกล่าวว่า ชื่อชูวิทย์ เขียนตรงๆ อย่างนี้ จากนั้นนายชูวิทย์ เอากระดาษสีเหลืองอีกแผ่นหนึ่งขึ้นมา แล้วเอาปากกาวสีเขียวฝนบนกระดาษ ซึ่งก็ปรากฎชื่อนายอภิรักษ์ขึ้นมา เป็นตัวอักษร พร้อมกล่าวว่า แสดงให้เห็นว่า ชื่อนายอภิรักษ์ มีสิ่งแอบแฝงซ่อนเร้น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายชูวิทย์ ได้ดื่มน้ำมะนาว พร้อมกล่าววว่า น้ำมะนาว ต้องดื่มบ่อยๆ จะได้ด่าคนคล่องคอดี และกล่าวทิ้งท้ายว่า ดอกนี้เป็นดอกที่ 1 ส่วนดอกที่ 2 ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ตนจะจัดการคดีรถและเรือดับเพลิงต่อ