ที่บ้านสนามบินน้ำ นายบรรหารให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้าน ได้มอบหมายให้ประธานวุฒิสภาไปเจรจากับทุกฝ่าย เป็นสิ่งที่ดีเพราะท่านเป็นคนกลาง
แต่ปรากฏว่าขณะนี้ทุกฝ่ายไม่ยอมลดเงื่อนไข ยืนกระต่ายขาเดียวอยู่ท่าเดียวว่าจะเอาโน่น เอานี่ อย่างนี้มันไปไม่รอด ขอให้สงสารคนทั้งประเทศ ทุกฝ่ายยอมลดเงื่อนไขแล้วหันหน้าเจรจากัน อย่าคิดว่าเงื่อนไขของตนเองเป็นสิ่งที่ถูกต้อง บางคนก็ผิด ตอนนี้กระทบกระเทือนมาก ตอนนี้การท่องเที่ยวแย่ เสียหายยับ ชาวต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยวประเทศไทยก็ยกเลิกหมด ทั้งการเดินทาง โรงแรม ภาคเศรษฐกิจวิตกมาก ถ้าบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ใครจะมาค้าขายกับเรา ขอเรียนตรงๆ ว่าบ้านเมืองในขณะนี้มันไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ในรอบ 70 ปีมาเลย มันแย่มากที่สุด ขอวิงวอนให้ช่วยกันลดเงื่อนไขไม่เช่นนั้นจะไปด้วยกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะฝ่ายการเมืองจะไปคุยกับซีกรัฐบาลอย่างไร นายบรรหารกล่าวว่า ประ เด็นปัญหาคือทุกคนต้องลดเงื่อนไข ถ้าไม่ยอมลดเงื่อนไขก็คุยกันไม่ได้
ถ้าแต่ละฝ่ายยังยืนหยัดอยู่อย่างนี้คุยกันไม่ได้ ไอ้นั่นยิงมาฉันจะยิงตอบก็เจรจากันไม่ได้ ยื่นมือกันมาเสียบ้าง ฝ่ายไหนยื่นมือกันมาก่อนก็ได้ไม่เป็นไร แต่นี่ไม่ยอมกัน ไม่รู้จะทำอย่างไร บ้านเมืองจะล่มจมหรือไม่ตอบไม่ได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์บานปลาย หรือมีเหตุการณ์วิกฤตอะไรในการชุมนุมก็ยิ่งไปกันใหญ่
"อยากให้นึกถึงพฤษภาทมิฬว่าเหตุเกิดเพราะอะไร ผมอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ฝ่ายหนึ่งจะเอานายกฯ มาจากการเลือกตั้ง แต่งตั้งไม่เอา มาคราวนี้จะเอาแต่งตั้ง เลือกตั้งไม่เอา กลับไปกลับมา ไม่รู้จะทำอย่างไร ปัญหาเป็นอย่างนี้ ฉะนั้นทุกอย่างมาจากรัฐสภามันต้องเข้าช่องนี้ ช่องอื่นไม่ได้ เพราะมันขัดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ทำไม่ได้ ผมเห็นด้วยกับผบ.ทบ.ว่าสื่อนั้นสำคัญมากโดยเฉพาะการพาดหัวข่าว ช่วยบอกแต่ละฉบับว่าพาดหัวข่าว ให้นิ่มนวลหน่อย ฝ่ายโน้นทำอะไรก็ขึ้นหัวใหญ่เลย ฝากกรุณาเถอะจะให้ผมไหว้วิงวอนก็ยอม ลดโทนของการพาดหัวลงแล้วเขียนเตือนสติอย่างนี้ก็ช่วยได้อีกทางหนึ่ง" นายบรรหารกล่าว
เติ้งช็อก-นาทำเนียบ จะร้องไห้ ทั้งขยะ-น้ำเสีย-โรค
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน นายบรรหารกล่าวว่า ต้องดูเหตุการณ์ก่อน เพราะที่รัฐบาลประกาศพ.ร.ก.เขามีเหตุผลอะไรหรือไม่ แล้วจะมีเหตุการณ์วิกฤตอีกหรือไม่ คิดว่าเมื่อเหตุการณ์สงบคงจะต้องเลิกคงไม่ช้า คงไม่ปล่อยไว้เนิ่นนาน
เมื่อถามว่ากระบวนการทำงานที่มีผบ.ทบ.เป็นหัวหน้าคณะจะขับเคลื่อนไปได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทยกล่าวว่า ฟังแนวทางการทำงานของท่านพยายามไม่เข้าข้างฝ่ายใด เป็นกลาง ไม่เข้าข้างรัฐบาลหรือพันธมิตรฯ จะประคับประคองทุกอย่างไม่ให้เกิดวิกฤตขึ้นได้ เพราะท่านไม่สามารถทำอะไรได้
"ผมอยากวิงวอนที่ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลควรจะออกมาเสีย ในนั้นพื้นที่จำกัด คนเข้าไปอยู่เป็นหมื่น ขยะจะเพิ่มขึ้นทุกวัน น้ำก็เสีย มลภาวะ ดีไม่ดีเชื้อโรคจะเกิดขึ้น อากาศไม่บริสุทธิ์จะเกิดความเสียหายกับผู้ชุมนุม ดังนั้น ผมคิดว่าออกมาชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ แล้วปิดถนนยังจะดีกว่า ยิ่งเมื่อวานผมเห็นมีการทำนาด้วยยิ่งเศร้าสลดใจ อยากจะร้องไห้จริงๆ เอาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมาหลายสิบปีมาทำนา พูดแล้วอยากจะร้องไห้ ใครไปแนะนำ ทำไมพันธมิตรฯ ไม่ห้าม และในแต่ละตึกก็แย่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ที่ดูแลรักษามานานก็แย่ไปหมด และไม่รู้จะมีอะไรเสียหายอีก มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมขอวิงวอนให้ออกมาเถอะ ให้ปรับปรุงซ่อม แซมให้ดีขึ้น เพราะเท่านี้ก็อายชาวบ้านชาวเมืองไปทั่ว" หัวหน้าพรรคชาติไทยกล่าว