ครม.สัญจร ส่อวุ่น พันธมิตรระดมคนไล่ "ขวัญ" จ้อผ่านวิทยุชุมนุมจัดแนวรบ นปช.อารักขารัฐมนตรี กร้าวใครขวางชกได้ ตร.งัดแผนกรกฎ 48 ระงับเหตุ ด้านสหภาพรถไฟ ยันสายใต้ยังปิดบริการไม่มีกำหนด ส่วน ร.ฟ.ท.แจ้งจับ 123 พันธมิตรสงขลาขึ้นรถไฟไม่จ่ายค่าตั๋ว
หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มีกำหนดการจัดประชุม ครม.สัญจรที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 9 กันยายนนี้ ส่งผลให้อุณหภูมิการเมืองในระดับท้องถิ่นร้อนแรงขึ้นทันที เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ แกนนำพันธมิตรอุดรธานี กล่าวว่า การจัดประชุม ครม.ครั้งนี้ แสดงถึงพฤติการณ์ของนายสมัครที่ต้องการจะเคลื่อนมวลชนให้เกิดการปะทะกัน โดยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งมีนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และนายอุทัย แสนแก้ว น้องชายนายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นแกนนำ อาจจะเคลื่อนมวลชนให้เกิดเหตุการณ์คล้ายกับที่หนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่มีการปะทะกันจนนองเลือด เมื่อไม่นานมานี้
ดังนั้นการจัดประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ พันธมิตรอุดรจะมีมาตรการในการตอบโต้รัฐบาลที่หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ แต่ยังไม่ได้รับการประสานงานจากพันธมิตรจังหวัดข้างเคียงว่า จะเข้าร่วมชุมนุมขับไล่ ครม.สัญจรหรือไม่
"เบื้องต้นจะมีประชาชนจำนวนมากไล่คณะรัฐมนตรี ส่วนมาตรการตอบโต้ที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีที่ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีวาระซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้" นายเจริญกล่าว
นายขวัญชัยได้ประกาศผ่านคลื่นสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ทางคลื่นเอฟเอ็ม 97.50 เมกะเฮิรตซ์ ว่า ได้เตรียมสมาชิกชมรมคนรักอุดรกว่า 100 คน เป็นทัพหน้าในการดูแลการประชุม ครม.สัญจร ที่จะมาถึง และทัพหลังอีก 100 คน เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หากมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร ทั้งการนำป้ายต่อต้านรัฐบาลมาติดตามจุดสำคัญๆ ในจังหวัด หรือแม้แต่สนามบิน โดยได้สั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าทำร้ายคนที่นำป้ายข้อความไปติดตั้งได้เลย และยินดีที่จะมอบตัวต่อตำรวจเพื่อสู้คดี
"ถ้ามีคน 10-20 คน มาต่อต้าน ครม.สัญจร คงยอมไม่ได้ ถ้าพบที่ไหนให้ทำร้ายได้เลย โดยจะไม่พกอาวุธ ชกด้วยมือ ไม่ปิดหน้า ไม่ใส่หมวกกันน็อก แต่จะทำอย่างเปิดเผย เพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรที่กรุงเทพฯ จะไม่ไปยุ่ง แต่ถ้า ครม.มาประชุมที่ จ.อุดรธานี ทางกลุ่มคงไม่สามารถให้การยอมรับได้" นายขวัญชัยกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบช.ภ.4) กล่าวว่า ในการเตรียมการเพื่อรักษาความปลอดภัย ครม.ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดที่อยู่ข้างเคียงเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง ที่จะเกิดจากการปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช. และกลุ่มพันธมิตร แต่ในเบื้องต้น จ.อุดรธานีเตรียมกำลังไว้ 3,000 นาย หากเกิดเหตุการณ์บานปลายจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จะนำกำลังจากจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จ.หนองคาย ขอนแก่น หนองบัวลำภู และนครพนม เข้าสมทบทันที จังหวัดละ 3 กองร้อย โดยจะเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีภายใน 30 นาที
ส่วนแนวทางการป้องกันการปะทะกันของประชาชนทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่จะใช้ "แผนกรกฎ 48" ที่ปรับให้เข้ากับแผนตำรวจภูธรภาค 4 เข้าปราบปรามการชุมนุมทันทีที่มีการใช้ความรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่ จ.อุดรธานี เคยเกิดประวัติศาสตร์เช่นนี้ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างแน่นอน
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม นายธีระชัย นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพีระพล ไตรทศาวิทย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาร่วมประชุมด่วนโดยไม่มีการนัดหมายล่วงหน้ากับ นายวิลาศ รุจิวัฒนพงษ์ และนายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ รองผู้ว่าฯ อุดรธานี เพื่อเตรียมงานก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี และการจัดคลินิกมหาดไทย ในวันที่ 8 กันยายนนี้ ที่สนามทุ่งศรีเมือง โดยนายกรัฐมนตรีและ ครม.จะมาพบประชาชนในเวทีกลาง พร้อมกล่าวปราศรัย
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องพลังมวลชนจะมาร่วมงานดังกล่าว ด้วยการมอบให้แต่ละหน่วยงานนำองค์กรเครือข่ายเข้าร่วม
อย่างไรก็ตาม จากที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตร อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้ระดมคนมาชุมนุมโดยจากจ่ายหัวละ 800-1,000 บาทนั้น แกนนำพันธมิตร อ.ชุมแพ ให้สัมภาษณ์ "คม ชัด ลึก" ว่า ไม่เป็นความจริง ทุกคนเข้าร่วมการชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือขับไล่รัฐบาลนายสมัคร