นี่คือภาวะฉุกเฉินของสมัคร ไม่ใช่ฉุกเฉินของประเทศ

นายกฯ สมัคร สุนทรเวช ประกาศ "ภาวะฉุกเฉิน" ในกรุงเทพมหานคร ได้ไม่กี่ชั่วโมง

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : พรรคพลังประชาชนของเขา ก็ตกอยู่ใน "ภาวะฉุกเฉิน" อย่างแท้จริง


เพราะคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศว่ามีการลงมติเป็นเอกฉันท์เสนอให้ยุบพรรคนี้เสีย เพราะกระทำการผิดกฎหมายเลือกตั้ง


คุณสมัคร ทำให้ความ "ฉุกเฉิน" ของตัวเอง กลายเป็นความ "ฉุกเฉิน" ของประเทศชาติ


และความเสียหายของการให้ทั้งโลกเห็นว่า เมืองหลวงของประเทศไทย ตกอยู่ภายใต้ state of emergency นั้น กว้างขวางและรุนแรงยิ่งนัก
ข่าวออกไปทั้งโลกว่าที่ผู้นำไทยประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น เกิดขึ้นหลังกลุ่มคนที่อยู่ข้างรัฐบาลออกมายั่วยุให้เกิดการทุบตีกันกับกลุ่มคนที่ประท้วงรัฐบาล และเรียกร้องให้เขาลาออก


จนเกิดการบาดเจ็บล้มตาย


และเกิดขึ้นภายใต้การนำของนายกฯ ที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช
สำนักข่าวต่างประเทศถ่ายทอดออกไปทั่วโลก เมื่อนายกฯ ไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งไทยและเทศ โดยเฉพาะตอนที่นักข่าวคนหนึ่งถามว่า "มีคนถูกตีตายไปคนหนึ่งในระหว่างการปะทะของ นปช. กับ พันธมิตร...ท่านในฐานะผู้นำประเทศจะว่าอย่างไร"

แทนที่นายกฯ ของไทยจะแสดงความเป็นห่วงเป็นใย และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสมัครกลับย้อนถามนักข่าวคนนั้นว่า


"คนคนนั้นอยู่ข้างไหน"


แปลว่าคนที่ถูกตีตาย และได้รับบาดเจ็บนั้นจะได้รับความสนใจจากนายกฯ ที่ชื่อสมัคร หรือไม่อยู่ที่ว่าเขาอยู่ฝ่าย นปก. หรือพันธมิตร
สะท้อนว่านายกฯ คนนี้ไม่ได้ดูแลคนไทยทั้งประเทศ หากแต่เป็นห่วงเป็นใยเฉพาะคนไทยที่อยู่ฝ่ายที่สนับสนุนเขาเท่านั้น ใครที่คัดค้านหรือไม่เห็นพ้องต้องกับเขาไม่อยู่ในข่ายของความสนใจของผู้นำคนนี้แต่ประการใด ความจริงไม่ใช่เรื่องผิดคาดว่า นายกฯ สมัคร สุนทรเวช จะใช้ "ภาวะฉุกเฉิน" เพื่อจัดการกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย... และไม่ใช่เรื่องแปลกใจ ที่การจัดฉากให้เกิดการปะทะกันระหว่างคนสองกลุ่ม เพื่อเป็นข้ออ้างที่จะใช้ พ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉิน เพื่อเป็นอาวุธทางการเมืองของรัฐบาล


คุณสมัครอ้างมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า จะไม่ใช้วิธีการนี้ เพราะ "ไม่อยากทำให้บรรยากาศ" เสีย


คุณสมัครใช้การประชุมร่วมของสองสภา เพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรมของตนก่อน แต่เมื่อเห็นว่าข้อเสนอของสมาชิกรัฐสภาที่ให้เหตุให้ผลน่าฟัง คือ การให้เขาเลือกจะลาออกหรือยุบสภา คุณสมัครก็รู้ว่าเขามิอาจจะใช้สภาเป็นเครื่องมือเพื่อซื้อเวลาสำหรับตัวเองได้อีกต่อไป
ดังนั้น โดยฉับพลันทันทีภายในวันสองวัน กลุ่ม นปช. ก็ระดมคนเป็นจำนวนมากจากหลายจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ และมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนดึกของคืนวันจันทร์...จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันถึงขั้นเลือดตกยางออกอย่างที่เห็นกัน


คุณสมัครไม่ได้แสดงความสนใจว่าใครเป็นคนก่อเหตุ ใครเป็นคนยั่วยุให้เกิดการปะทะกัน แต่ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉินทันที จนไม่อาจทำให้คิดเป็นอย่างอื่นว่านี่คือการปูทางเพื่อให้ใช้อาวุธทางการเมืองของคุณสมัคร ในการจัดการกับการชุมนุมที่เข้าสู่วันที่ 101 ของพันธมิตร เมื่อวานนี้


ทั้งๆ ที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเห็นชัดว่า เป็นการ "สร้าง" ขึ้น เพื่อเป้าหมายที่ใครๆ ก็มองเห็น


และทันทีที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน นายกฯ ก็แต่งตั้งให้ผู้บัญชาการทหารบก พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการตามอำนาจเบ็ดเสร็จของตน
เท่ากับเป็นการโยนให้ทหารเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม และเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในสังคมไทย แต่คุณสมัครไม่อาจจะลอยตัวเหนือปัญหานี้ และ "ใช้" ทหารเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตนได้ เพราะทุกสายตาจะจ้องมาที่นายกรัฐมนตรีว่า จะหาทางออกอย่างสันติและชอบธรรม ต่อความขัดแย้งนี้ได้อย่างไร


จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณสมัคร จะต้องประกาศเลิกการใช้ภาวะฉุกเฉินใน กทม. โดยด่วนที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด


การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง...และนั่นคือ ผู้นำประเทศต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการพิจารณาตัวเองอย่างเร่งด่วน


เมื่อ กกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอให้ยุบพรรคพลังประชาชน เพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแล้ว ความชอบธรรมของคุณสมัคร ในฐานะหัวหน้าพรรคนี้ที่เป็นนายกฯ ก็ลดฮวบลงอย่างกะทันหัน
 

นายกฯ ญี่ปุ่น ยาสุโอะ ฟูกูดะ อยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 1 ปี แต่เมื่อเจอกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนโยบายที่ประชาชนไม่นิยมชมชอบ ก็ประกาศลาออกไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา


เขาก็มาจากการเลือกตั้ง และมีเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร แต่เมื่อประชาชนจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ เขาก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ไม่ต้องให้มีการชุมนุมหรือเรียกร้องจากเจ้าของประเทศด้วยซ้ำไป


นี่คือ มาตรฐานสากลที่คุณสมัคร ยังไม่ยอมเข้าใจและไม่ยอมรับรู้


ขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพจาก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์