เมื่อเวลา 05.45 น.นายสนธิอ่านประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 12/2551
เรื่องกำหนดเป้าหมายและวิธีชุมชุนนุมสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย ย้ำใช้สิทธิตาม ม.63 ยึดมั่นแนวทางสันติวิธี ระบุอาจต้องปิดการจราจรและทำให้สถานที่ราชการบางแห่งไม่สามารถเปิดทำการ เพื่อไม่ให้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมเข้าทำงานจนสร้างความเสียหายล่มจมต่อประเทศชาติ ว่า
ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 12/2551เรื่องกำหนดเป้าหมายและวิธีการชุมนุมสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ณ บัดนี้ได้มาถึงเวลาเช้าวันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551 อันเป็นวันที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยมีพลังของกองทัพประชาชนกู้ชาติ ที่ยิ่งใหญ่ ห้าวหาญ เกรียงไกร เปี่ยมไปด้วยพลังทางศีลธรรม ที่สมควรได้รับการคารวะอย่างสูงยิ่ง
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยังคงธำรงภารกิจศักดิ์สิทธิ์เดิมในการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และโค่นล้มระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ตลอดจนสร้างการเมืองใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติชุดนี้กำลังจะทำให้บ้านเมืองล่มจม เพราะได้ย่ำยีรัฐธรรมนูญทุกรูปแบบ เหิมเกริมถึงขั้นจะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแล้วยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อฟอกความผิดให้กับตัวเองและพวกพ้องตลอดจนจะล้มล้างสถาบันองคมนตรี ซ่องสุมอุ้มชูผู้คนเป็นขบวนการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉ้อฉลปล้นชาติล้างผลาญเงินงบประมาณเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้อง ถึงขั้นจะเตรียมการจะปล้นคลังหลวง สร้างรัฐตำรวจกลั่นแกล้งใส่ร้ายประชาชนอย่างไร้ศีลธรรม สร้างอันธพาลป่าเถื่อนของรัฐบาลทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ส่งเสริมให้คนชั่วให้มีอำนาจในแผ่นดิน กำจัดคนดีออกจากอำนาจหน้าที่ปกครองบ้านเมือง ขายชาติขายอธิปไตยทำให้สูญเสียดินแดนบนบกและแหล่งพลังงานธรรมชาติในอ่าวไทย มุ่งร้ายและทำลายองค์กรอิสระและสถาบันตุลาการ และใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบใช้หน่วยงานและเครื่องมือของรัฐแทรกแซงสื่อสารมวลชน ให้ข้อมูลเท็จและทำให้เกิดความเข้าใจผิดในบ้านเมือง
ดังนั้น นับตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป การชุมนุมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีเป้าหมายหลักเพื่อการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติที่ไร้จริยธรรมให้ออกไปจากการบริหารประเทศโดยเร็วที่สุด อันเป็นหนทางเดียวในการกอบกู้ประเทศชาติ ที่ใกล้ล่มจมอยู่ในขณะนี้ มิให้ต้องล่มจมลงไปในที่สุด
เพื่อบรรลุเป้าหมายในการชุมนุมในครั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำหนดวิธีการให้กองทัพประชาชนกู้ชาติปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ให้กองทัพประชาชนกู้ชาติได้เข้าร่วมการชุมนุมอย่าง สงบ และปราศจากอาวุธ อันเป็นการใช้สิทธิของประชาชนตามมาตรา 63 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 อย่างเคร่งครัด
ในการนี้ให้พี่น้องประชาชนที่ได้เข้าร่วมการชุมนุม ได้ยึดมั่นในสันติวิธี ไม่ใช้วาจาหรือการกระทำใดๆที่เป็นการยั่วยุ และไม่ทำลายทรัพย์สินทางราชการ โดยเด็ดขาด
2. ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์มาโดยตลอดแล้วว่า การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีแต่ความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ โดยที่ไม่เคยเกิดเหตุวุ่นวายแม้แต่ครั้งเดียว ดั้งนั้นหากมีผู้ใดก็ตามที่เข้าร่วมชุมนุม และก่อความไม่สงบ ยั่วยุ ก่อกวน สร้างเงื่อนไขให้เกิดการทะเลาะวิวาท กระทำการรุนแรง หรือการทำลายทรัพย์สินทางราชการ ให้ถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ไม่หวังดีและเป็นอันธพาลของรัฐบาล ที่ต้องการทำลายความชอบธรรมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการตามขั้นตอนของกฎหมายในทันที โดยให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว
3. เมื่อมีประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากเพื่อใช้สิทธิตามมาตรา 63 ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความจำเป็นต้องปิดช่องการจราจรและอาจถึงขั้นไม่สามารถทำให้สถานที่ราชการบางแห่งเปิดทำการได้
หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือว่าเป็นการสำแดงพลังของกองทัพประชาชนที่ไม่ต้องการให้ประเทศชาติต้องล่มจม จึงไม่ยินยอมให้โอกาสรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมทั้งในทางนิติธรรม และศีลธรรม บริหารประเทศชาติและเข้าทำงานสถานที่ราชการนั้นอีกต่อไป
พร้อมกันนี้ขอเชิญชวนข้าราชการเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อกอบกู้ชาติบ้านเมืองมิให้ล่มจมอย่างพร้อมเพรียง
4. เพื่อความสำเร็จในเป้าหมายในการชุมนุม หากมีการเคลื่อนกองทัพของประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนฟังและปฏิบัติตามคำสั่งและประกาศจากเวทีใหญ่มัฆวาน อย่างมีวินัย และเคร่งครัด
ประกาศ ณ เช้าวันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย