พปช.ข้องใจวิฑูรย์ รอดโกงเลือกตั้ง เชื่อ คมช.ช่วยหวังดัน ปชป. เป็นรัฐบาล กกต.เล็งลงมติ 27 ส.ค.

นายศุภชัย ใจสมุทร

พปช.ข้องใจ "วิฑูรย์" รอดโกงเลือกตั้ง ตามแผนบันได 3 ขั้น คมช. อยากให้ "ปชป." นั่งฝ่ายบริหาร จี้ กกต.รอบคอบอ้างสังคมจับตาลงมติ 27 ส.ค. "มาร์ค" บอกไม่ได้เปรียบการเมือง "วิฑูรย์" ได้ทีฟ้อง "สมบัติ" เพิ่ม

พปช.เชื่อแผน คมช.ทำ ปชป.รอด
 
คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคพลังประชาชน (พปช.) ตั้งข้อสงสัยกรณีคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ให้ยกคำร้องคดีนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และพวก กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์รอดคดียุบพรรค เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ว่า อาจจะความพยายามขั้นสุดท้าย ตามแผนบันได 3 ขั้น ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศ
 
ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม นายศุภชัย ใจสมุทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พปช. กล่าวว่า การยกคำร้องของอนุกรรมการ กกต. อาจจะอย่างที่หลายคนเชื่อว่าเป็นไปตามแผนบันได 3 ขั้นของ คมช.ตั้งแต่ปฏิวัติ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศให้ได้ ซึ่งแผนนี้ยังมีอยู่ ไม่ได้หายไปไหน กรณีนี้อาจเป็นความพยายามขั้นสุดท้ายก็เป็นได้
 
"ก่อนหน้านี้มีข่าวสะพัดไปทั่ว คือ กกต.อุบลราชธานี ให้ใบแดง 1 คนคือ นายวิทวัส พันธ์นิกุล ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี ให้ใบเหลือง 2 คนคือ นายวุฒิพงษ์ นามบุตร และนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 ส่วนนายวิฑูรย์ได้ใบขาว" นายศุภชัยกล่าว
 
จี้กกต.รอบคอบอ้างสังคมจับตา
 
นายศุภชัยกล่าวว่า นายสมบัติ รัตโน ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พปช. ร้องไป 2 ประเด็นคือ 1.หัวคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์แจกคูปองภาพยนตร์ให้ประชาชน และมีกระบวนการจัดให้ประชาชนไปอยู่ในโรงภาพยนตร์ 2.มีการปราศรัยในโรงมหรสพ แม้ผู้ถูกร้องจะอ้างว่าไม่เกี่ยวกับการหาเสียงและไม่รู้เรื่องการจ่ายเงิน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของผู้กระทำความผิดที่ต้องอ้างว่าไม่ได้ทำอะไร ทั้งนี้เข้าใจว่าคณะอนุกรรมการ กกต.อาจจะพิจารณาโดยอิงหลักความผิดในกฎหมายอาญามากเกินไป ขณะที่กฎหมาย กกต.บัญญัติว่า เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ดังนั้น กกต.ชุดใหญ่ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงจากพยานและหลักฐานของผู้ร้องให้มากกว่าคณะอนุกรรมการ กกต. เนื่องจากสังคมกำลังจับจ้องดูกรณีนี้ทั้งประเทศ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) เป็นผู้ได้หลักฐานมา แต่ส่งต่อให้นายสมบัติ เป็นผู้ร้อง นายศุภชัยกล่าวว่า กรณีนี้ พรรคคู่แข่งของพรรคประชาธิปัตย์ได้แชร์ข้อมูลกันหมด ใครมีอะไรก็มาคุยกัน แต่สุดท้ายพรรคอื่นได้ถอดใจกันหมด แม้แต่ตัวนายสมบัติเองยังเกือบจะถอดใจเลย แต่คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของ พปช. เห็นว่าพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและวิดีโอแล้วชัดเจน ก็เลยขอให้ยื่นคำร้องต่อ กกต. และที่ผ่านมา พยานฝ่าย พปช.หลายคนถูกข่มขู่หลายรูปแบบ และถูกอุ้มหายไปก็มี จึงอยากให้ กกต.ดูคดีนี้ให้ดีๆ เพราะกว่าจะหาพยานได้ ยากมาก
 
"สมบัติ" ข้องใจเป็นธรรมหรือไม่
 
ด้านนายสมบัติกล่าวว่า ขอฝากถึง กกต.ว่าขอให้มีมาตรฐาน ไม่ทำงานโดยสองมาตรฐาน แม้ว่าผลการสอบสวนจะออกว่าจะยกคำร้องหรือไม่ก็ตาม พร้อมยอมรับและจะลงไปชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นี่คือกระบวนการสอบสวน แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่ากระบวนสอบสวนที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ กกต.อุบลราชธานี จนถึง กกต.กลาง ให้ความเป็นธรรมกับตนจริงหรือไม่ เพราะคลางแคลงใจกับการบริหารจัดการของ กกต.อุบลราชธานี จึงขอเรียกร้องให้ กกต.กลางเข้ามาสะสางโดยด่วน
 
"พยานบุคคลที่นำมาให้การต่ออนุกรรมการ กกต.ยืนยันว่า มีการแจกบัตรชมภาพยนตร์มาก่อนหน้าที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจนถึงวันที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง การที่บอกว่าเป็นการแจกบัตรชมภาพยนตร์เก่าตั้งแต่ปี 2518 นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะโรงภาพยนตร์เนวาด้า เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 2526Ž นายสมบัติกล่าว และว่า ไม่หนักใจกรณีนายวิฑูรย์จะฟ้องในข้อหาแจ้งความเท็จ และพร้อมจะไปให้การในชั้นศาล โดยจะนำพยานที่เข้าให้การต่อ กกต.มายืนยันเช่นเดิม
 
"มาร์ค" บอกไม่ได้เปรียบการเมือง
 
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีอนุกรรมการ กกต.ยกคำร้องคดีนายวิฑูรย์ ว่า เรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด กกต.ชุดใหญ่ยังต้องพิจารณาต่อ เพราะเรื่องดังกล่าวยังเป็นแค่รายงานข่าวอยู่ และไม่ได้มองว่าผลการพิจารณาดังกล่าวจะเกิดการได้เปรียบเสียบเปรียบทางการเมือง เป็นเรื่องที่ กกต.จะวินิจฉัยไปตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ใครทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ใครไม่ทำผิดก็ไม่ต้องถูกลงโทษ ส่วนกระบวนการสอบสวนไปถึงใบเหลือง ใบแดง หรือการยุบพรรค ยังมีอีกหลายขั้นตอน ยังอีกไกลพอสมควร ส่วนพรรคอื่นที่ถูก กกต.ให้ใบแดงก็ยังมีความมั่นใจว่า จะไม่ถูกให้ใบแดง ยังทำงานต่อได้ จึงมองว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบทางการเมือง
 
"การปรับลดกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เหลือ 19 คน ก็ไม่ได้กลัวการถูกยุบพรรค แต่พรรคมีแนวคิดที่จะลดมานานแล้ว เอาคนที่มีบทบาทมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนบอกว่า ลดจำนวนลงเพื่อเอานอมินีมาแทน ซึ่งไม่ใช่ เราทำงานในระบบทุกอย่าง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
 
"วิฑูรย์" ได้ทีฟ้อง "สมบัติ" เพิ่ม
 
ด้านนายวิฑูรย์กล่าวว่า มั่นใจในความบริสุทธิ์ตั้งแต่ถูกกล่าว และตั้งแต่เห็นพยานที่ไปให้การกับ กกต.แล้ว ซึ่งเชื่อว่ากระแสข่าวต่างๆ ไม่น่าจะมีผลกดดันการทำงานของ กกต. เพราะมั่นใจในข้อเท็จจริงว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด และจะมีการฟ้องร้องนายสมบัติเพิ่มเติม กรณีใช้พยานหลักฐานเท็จ แต่ต้องรอให้ กกต.พิจารณาสำนวนแล้วเสร็จก่อน
"ผมจะจับตาดูรายการสนทนาประสาสมัคร เพราะคิดว่าหากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รู้ว่าผมไม่โดนใบแดง อาจทำใจไม่ได้ และอาจจะให้รายการพูดอะไรที่เป็นการกดดัน กกต. ดังนั้น ขอให้นายสมัครระมัดระวังคำพูด ทางที่ดีควรพูดความจริง ถ้าไม่มีข้อมูล ไม่มีข้อเท็จจริง ก็ไม่ควรพูด เพราะจะทำให้ กกต.เสียหาย และพรรคประชาธิปัตย์เสียหาย" นายวิฑูรย์กล่าว
 
กกต.เล็งลงมติคดี "วิฑูรย์" 27 ส.ค.
 
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า อนุ กกต.ที่มีนายสุธน แสงสายัณห์ อัยการอาวุโส เป็นประธาน ยังไม่ได้ส่งสำนวนคดีนายวิฑูรย์มายัง กกต. เข้าใจว่าถ้าสรุปสำนวนเสร็จเรียบร้อยภายในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ก็น่าจะเข้าสู่ที่ประชุม กกต.เพื่อลงมติในวันที่ 27 สิงหาคมได้ทันที เพราะวันนั้นจะมีการพิจารณาสำนวนร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ด้วย ซึ่งหาก กกต.ทั้ง 5 คน เข้าใจในสำนวนเรียบร้อย วันนั้นก็อาจลงมติได้เลย แต่หากอนุ กกต.สรุปผลไม่ทันเสนอต่อที่ประชุมในสัปดาห์หน้า ก็คงต้องเลื่อนพิจารณาลงมติไปในต้นเดือนกันยายนแทน ทั้งนี้ ยืนยันว่า กกต.ก็เร่งให้พิจารณาสำนวนดังกล่าวอยู่
 
"ไม่ทราบข่าวเรื่องยกคำร้องคดีนายวิฑูรย์ เพราะอนุ กกต.ยังไม่ได้รายงานเข้ามา และยังไม่เห็นสำนวนการสอบสวน ซึ่งคงต้องดูเหตุผลในสำนวนก่อนจึงบอกได้ว่าควรลงมติตามนั้นหรือไม่" นายสุเมธกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์