เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะจำนวน 34 คน เข้าพบนายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ
เพื่อยื่นแถลงการณ์คัดค้านการย้ายโรงเรียนโยธินบูรณะเพื่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยแกนนำนักเรียนรายหนึ่งกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลยื่นต่อศาลปกครอง พร้อมทั้งมีการรณรงค์ให้นักเรียนในโรงเรียนติดแถบผ้าสีชมพูที่เขียนข้อความว่า “ลูกโยธินฯ” เพื่อคัดค้านการใช้พื้นที่ของโรงเรียนสร้างรัฐสภา และในวันที่ 22 ส.ค. จะมีนักเรียนโรงเรียนโยธินฯบางส่วนไปรอรับกลุ่มพันธมิตรฯที่จะมาให้กำลังใจที่โรงเรียนด้วย ขณะที่นายพงศกรกล่าวว่า จะรับเรื่องนี้ไปพิจารณา และจะชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และครู
ขณะเดียวกัน นายมานพ นพศิริกุล ผอ.โรงเรียนโยธินบูรณะ ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ปกครองนักเรียน เรื่องแจ้งการหยุดเรียน
ระบุว่าเนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯประกาศว่าจะเดินทางมาให้กำลังใจนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งจากการประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.เตาปูน ได้ข้อสรุปว่า ในวันดังกล่าวน่าจะมีผู้เดินทางมาร่วมจำนวนมาก และจะเป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัดอาจจะต้องปิดการจราจรที่แยกบางโพ แยกสะพานแดง แยกบางกระบือ เพื่อความสะดวกของนักเรียนจึงจำเป็นต้องหยุดเรียนในวันดังกล่าว รวมทั้งจะหยุดการสอนพิเศษในวันที่ 23 ส.ค. โดยจะเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 25 ส.ค.
เมื่อเวลา 21.00 น. ที่เวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯทั้ง 5 คนขึ้นเวทีพร้อมกัน โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า ตามที่กลุ่มพันธมิตรฯเชิญชวนประชาชนไปแสดงพลังและให้กำลังใจผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะในวันที่ 22 ส.ค. เพื่อร่วมแสดงเจตนาคัดค้านการสร้างรัฐสภาใหม่ ปรากฏว่ากระทรวงศึกษาฯได้มีคำสั่งให้โรงเรียนโยธินบูรณะและโรงเรียนใกล้เคียงปิดการเรียนการสอน กลุ่มพันธมิตรฯจึงขอเลื่อนนัดหมายไปโรงเรียนโยธินบูรณะ เป็นวันที่ 25 ส.ค. แทน เพื่อจะได้พบกับนักเรียนและชุมชนบริเวณดังกล่าว แต่หากวันที่ 25 ส.ค.ยังปิดการเรียนการสอนอีก แสดงว่าครูอาจารย์ดีแต่ประจบรัฐบาล และแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติการของพันธมิตรฯเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ถึงขั้นส่งผลต่อให้ต้องปิดการเรียนการสอน
ต่อมานายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า คนที่เป็นต้นเหตุทำให้ประเทศเผชิญปัญหาเศรษฐกิจคือรัฐบาลพรรคพลังประชาชน
เข้ามาบริหารประเทศไม่นานก็มีเมกะโปรเจกต์ มูลค่าหลายแสนล้านบาท จึงเป็นหน้าที่ของพันธมิตรฯที่จะขับไล่รัฐบาลออกไปให้ได้ อย่างที่เคยพูดแล้วว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้าย การเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายจะมีขึ้นแน่นอน ดังนั้น วันที่ 23 ส.ค.นี้ กลุ่มพันธมิตรฯจะประกาศให้ทราบว่าการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายจะมีขึ้นเมื่อไหร่ เพราะเมื่อมีการเริ่มต้นก็ต้องมีจุดสิ้นสุด