วันนี้ ( 19 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีที่กกต.เลื่อนชี้ขาดยุบพรรคพลังประชาชนออกไปเป็นวันที่ 2 ก.ย.ว่า ถ้ากกต.ต้องการสอบเพื่อให้มีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นธรรมจะใช้เวลาอีก 1-2 สัปดาห์ก็สามารถทำได้ แต่ขอให้ กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพราะการสอบในหลายเรื่องที่ผ่านมาก็ใช้เวลาเช่นกัน ดังนั้นจะไปคาดคั้นคนทำงานไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าติดขัดตรงไหนอย่างไร แต่ทั้งหมดกกต.ก็ต้องรู้ว่าในที่สุดจะต้องมีการชี้ขาดออกมา อย่างไรก็ตามคงต้องถามเหตุผลกกต.ว่าเหตุใดจึงต้องเลื่อนวันพิจารณาออกไป เพราะจะให้เราคิดเองคงไม่ได้ แต่หาก กกต.ทำงานผิดปกติสังคมก็จะตรวจสอบเอง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้ผู้ที่ถูกร้องได้ไปชี้แจงหมดแล้ว คงอยู่ที่กกต.ที่จะทำงานต่อไป
และยังไม่มีใครมาบอกกับตนว่ามีปัญหา และบางทีของพวกนี้เราไม่ทราบ อาจมีการอ้างข้อเท็จจริงข้อกฎหมายเพิ่มเติม แต่คิดว่าอย่างน้อยที่สุดจะตัดสินอะไรถ้ามีคำอธิบายชัดเจน ตรงไปตรงมารอบคอบก็ไม่เป็นไร และคิดว่ากกต.ไม่ควรเอากระแสกดดันของสังคมมาร่วมพิจารณาด้วย ควรจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่กกต.ยืดเวลาการตัดสินยุบพรรคพลังประชาชนออกไปจะส่งผลอะไรกับพรรคพลังประชาชนหรือไม่
เรื่องในพรรคพลังประชาชนอยากให้จัดการให้เรียบร้อยจะได้ไม่กระทบกับความรู้สึกของประชาชน ซึ่งตนขอแนะนำว่า สมาชิกพรรคพลังประชาชนควรจะมองเห็นว่ายิ่งมีปัญหาภายในพรรคมากเท่าใดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจะลดน้อยถอยลง และประชาชนจะรู้สึกว่ารัฐบาลไม่มาแก้ปัญหาของประชาชนมัวแต่แก้ปัญหาของตัวเอง ดังนั้นดีที่สุดคือมีอะไรขัดแย้งกันก็ควรจะแก้อยู่ข้างในให้เรียบร้อย แล้วให้รัฐบาลสามารถทำงานได้เต็มที่ กฤษฎีกา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการที่คณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ว่า 3 รัฐมนตรีจำเลยคดีหวยบนดินยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ว่า เป็นการอ้างอิงว่ามีความเห็นอย่างนี้ แต่การชี้ขาดสุดท้ายอยู่ที่ศาลปกครอง คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล คงไม่สามารถชี้ขาดได้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์จะจัดงานระดมทุนวันที่ 20 ก.ย.นี้ว่า ไม่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ว่าจะมีการเลือกตั้งในเร็ว ๆ นี้ แต่พรรคมีหลักคิดว่าจะไม่ยอมให้ทุกอย่างไปกระชั้นในช่วงเลือกตั้ง ทั้งเรื่องผู้สมัครหรือทุน จึงต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา คนทำงานจะได้มีความมั่นใจทำงานได้เต็มที่ ซึ่งขณะนี้ทางพรรคกำลังเตรียมขั้นตอนการสรรหาผู้สมัครส.ส. เพื่อจะได้ให้เขาทำงาน เนื่องจากบทเรียนที่ผ่านมาพรรคถูกต่อว่าจากคนในพื้นที่ว่าผู้สมัครไปลงพื้นที่ในช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้ง ทำให้ขาดความคุ้นเคยส่งผลต่อความมั่นใจ จึงต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีการเลือกตั้งเมื่อนั้นเมื่อนี้ แต่ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็พร้อมเมื่อนั้น ส่วนเรื่องทุนอยากให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ได้มีการตั้งเป้าอะไรไว้