พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กระทำผิดตามข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรี ที่ 34/2551 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2551 รวม 2 ข้อหา คือ ออกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ พ.ต.อ.ตำแหน่งผู้กำกับการฝ่ายปฏิบัติการที่ 1-10 ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ ทำให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งไม่มีกฎหมายรองรับตำแหน่ง และ ใช้ถ้อยคำที่มิบังควรและไม่เหมาะสมในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน ในบันทึกของกองสวัสดิการที่เสนอขอให้พิจารณางดการแข่งกันกีฬาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนข้อกล่าวหาข้อที่ 1 โครงการเช่ารถ 5 ประเภท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รวม 6,217 คัน มูลค่า 9,899,578,200 บาท มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตและฝ่าฝืนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 นั้นคณะกรรมการยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จสิ้น ซึ่งจะได้แจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาว่า คณะกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาว่าตนกระทำผิดรวม 2 ข้อหา คือเรื่องใช้ถ้อยคำ “ควายหรือเปล่า” กับลูกน้อง และเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ
ส่วนเรื่องโครงการเช่ารถนั้นคณะกรรมการยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จจึงยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเรื่องใช้ถ้อยคำนั้นคณะกรรมการเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย จึงเหลือเพียงเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ซึ่งที่ดำเนินการไปมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ประชาชนได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ดำเนินการเอง แต่ได้ทำผ่าน ก.ตร. โดยต่อไปจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำหนังสือชี้แจ้งต่อคณะกรรมการฯ ภายในเวลา 15 วัน พร้อมเสนอรายชื่อพยานให้คณะกรรมการสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่ามีจำนวนเท่าใด แต่จะเตรียมให้อัยการได้ดำเนินการสอบถามให้มากที่สุด ส่วนอีกเรื่องที่ถูกตั้งกรรมการสอบเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ถูกใส่ความ มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง.