"...รัฐบาลปัจจุบันให้ความสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าเศรษฐกิจและปากท้องของชาวบ้าน... กรณีปราสาทพระวิหาร พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) ก็หนักใจ..."
คือเหตุผลสวยหรูที่ "สุวิทย์ คุณกิตติ" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พผ. ให้ไว้ต่อสังคม ในระหว่างเปิดแถลงข่าวขอถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล
แต่ในความเป็นจริงทั้ง "บิ๊ก พผ." และ "บิ๊ก พปช." (พรรคพลังประชาชน) ต่างรู้ดีว่าเหตุผลที่ทำให้ "สุวิทย์" ต้องสละบัลลังก์อำนาจในครั้งนี้ก็เพื่อรักษาหน้าตาตัวเอง
หลังถูก "แก๊งออฟโฟร์" บีบให้คืนเก้าอี้รองนายกฯ โดยคงไว้เฉพาะตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมเท่านั้น "ข่าวปล่อย-ข่าวปลด" หัวหน้าพรรคพลังพิเศษ ถูกยืนยันว่าเป็น "ข่าวจริง" จากปาก "สมัคร สุนทรเวช" นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในช่วงสาย (วันที่ 29 กรกฎาคม) ณ มุมหนึ่งของห้องประชุม ครม. ทำเอา "สุวิทย์" ถึงกับควันออกหู ยื่นคำขู่ "ถอนตัว" ออกจากการร่วมรัฐบาล
แต่ "สมัคร" กลับไม่ยี่หระกับคำขู่ถอนยวง ยังเดินหน้าจัดโผ ครม. "สมัคร 4" ต่อไป
หลังเสร็จสิ้นการหารือ "ทวิภาคี" ของ 2 หัวหน้าพรรค "สุวิทย์" ได้ยกเลิกภารกิจในช่วงบ่ายทั้งหมด รวมถึงการร่วมงานศพญาติคนสำคัญของนายทุนพรรคที่วัดเทพศิรินทราวาส เพื่อไปตั้ง "วอร์รูม" ร่วมกับ "คีย์แมน" ของกลุ่มวังพญานาค ณ โรงแรมใหญ่ใจกลางเมือง ว่ากันว่า "สุวิทย์" เปิดฉากระบายความในใจยกใหญ่ โดยบ่นรับไม่ได้กับเหตุผลที่ พปช.ใช้ริบเก้าอี้คืนจากเขาด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็น "ไส้ศึก" หลังตรวจพบว่า "ชื่อตกสำรวจ" จากบัญชีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ถูกยื่นถอดถอน กรณีสนับสนุนการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
ทำให้ "สายเหยี่ยวใน พปช." จินตนาการไปว่า ครม. "สมัคร" อาจถูก "ปลิดวิญญาณ" เกลี้ยง ยกเว้น "รองนายกฯคนที่ 5" ที่จะได้เลื่อนมาเป็นรักษาการนายกฯ
ยังไม่รวมการตราหน้าว่าเขาทำตัวเป็น "ฝ่ายค้านใน ครม." อีก หลังพรรณนาโวหารยืดยาว... ข้อสรุปสุดท้ายที่เกิดขึ้นบนโต๊ะคือ ปล่อยให้ "สุวิทย์" ลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาลเพียงลำพัง ส่วน 3 รัฐมนตรีในโควต้า พผ. จะยังปักหลักครองเก้าอี้เดิมต่อไป เพราะไม่โดนข้อหา "ไม่ไว้วางใจ" จากพรรคเสียงข้างมาก
"สุวิทย์" ได้ต่อสายถึง "บรรหาร ศิลปอาชา" หัวหน้าพรรค ชท. เพื่อแจ้งท่าทีส่วนตัวก่อนแถลงข่าว โดยใช้เวลาพูดคุยกันอยู่นานสองนาน
แต่แล้วทุกฝ่ายก็ต้องเซอร์ไพรส์สุดสุด เมื่อ "สุวิทย์" แรงกว่าที่คิด อ้างมติพรรคให้ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล
ทำเอาบรรดา "บิ๊กเนม" ต้องนัดสมาชิกในสังกัดมาถกเครียดเป็นการด่วน โดยแบ่งออกเป็น 2 วอร์รูมหลัก ดังนี้
1.กลุ่มบ้านริมน้ำ+กลุ่มโคราช+ส.ส.อิสระ ได้นัดรวมการเฉพาะกิจที่โรงแรมเก่าแก่ย่านสุริวงศ์ โดยมี "สุรเดช ยะสวัสดิ์" ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พผ. และ "ประพัฒน์ วิเศษจินดาชัย" ส.ส.โคราช เป็นผู้ประสานงานให้เกิดการรวมตัว เพื่อหามาตรการตอบโต้อาการ "มั่วนิ่ม" ของหัวหน้าพรรค หลังออกมาอ้างมติพรรคแบบ "มั่วซั่ว"
ระหว่างนี้ "หัวหอกหลัก" ได้ต่อสายถึง 4 ส.ส. ที่อยู่ระหว่างทัวร์นอก ได้แก่ "ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยันต์ ปกมนตรี" ส.ส.สัดส่วน "อลงกต มณีกาศ" ส.ส.นครพนม "จินดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล" ส.ส.โคราช และ "รณฤทธิชัย คานเขต" ส.ส.ยโสธร เพื่อแจ้ง "วาระเหนือเมฆ" ของทั่นหัวหน้า และไม่ลืมหว่านล้อมให้ ส.ส.ทุกคนแสดงจุดยืนต่อต้าน "มติมั่ว" ที่ออกมา
กระทั่งเวลา 20.30 น. "สุรเดช" ก็สามารถรวบรวมแนวร่วมได้ 15 เสียง จึงเดินทางไปสมทบกับ "ปาน พึ่งสุจริต" รองหัวหน้าพรรค กลุ่มปากน้ำ ซึ่งประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณอยู่ที่อาคารรัฐสภา และเปิดแถลงข่าวซัด "สุวิทย์" ในเวลา 21.00 น.
2.กลุ่มพญานาค ได้สุมหัวเขย่าโผ ครม. ในส่วนของ พผ. อย่างสนุกสนานหลัง "สุวิทย์" คล้อยหลังไป ภายใต้โควต้าที่ได้รับมาคือ 1 รมว. และ 3 รมช.
ว่ากันว่านอกจากการเจรจาต่อรองกันแบบตัวเป็นๆ แล้ว ยังได้ "ปากจากแดนไกล" ของ "วัฒนา อัศวเหม" ประธานพรรคที่ลี้ภัยคลองด่านไปอยู่นอกประเทศ ช่วยเจรจากับ "ดีลเมเกอร์" ของ พปช.ด้วย
ทำให้โควต้ารองนายกฯที่ถูก พปช.ยึดคืนไปแล้ว กลับมาอยู่ในอ้อมอก "มือขวาอาวัฒน์" จนได้ นอกจากนี้ยังมีการเจรจาแลกเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม กับ รมช.พาณิชย์ด้วย
สำหรับโผ ครม. ที่จบลงอย่าง "แฮปปี้เอ็นดิ้ง" ในยามวิกาลของวันที่ 29 กรกฎาคม ประกอบด้วย
-"มั่น พัธโนทัย" กลุ่มปากน้ำ เป็นรองนายกฯ ควบรมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
-"ประสงค์ โฆษิตานนท์" กลุ่มวังพญานาค เป็น รมช.มหาดไทย
-"พิชัย นริทะพันธุ์" กลุ่มวังพญานาค เป็น รมช.คลัง
-"พิเชษฐ์ ตันเจริญ" กลุ่มบ้านริมน้ำ เป็น รมช.พาณิชย์
เมื่อพินิจชื่อที่ พผ. ส่งเข้าประกวด ทำให้เกิดเสียงนินทาหนาหูว่าเกิดปรากฏการณ์ "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" ขึ้นกับ "3 เกลอ" ได้แก่ "พินิจ-ปรีชา-สุวิทย์" หรือไม่อย่างไร ?
หลังตำแหน่งต่างๆ ถูกจัดสรรคืนให้ "ก้อนการเมือง-ถุงเงินพรรค" ตามโควต้าเดิมแล้ว บิ๊ก พผ.ทั้งหมดได้ยกคณะกันไปบ้านพักในซอยจรัญสนิทวงศ์ 55 ของ "บรรหาร" เพื่อหารือสถานการณ์ในภาพกว้างกับ "บิ๊ก ชท." โดยมี "สุวิทย์" ซึ่งเสร็จสิ้นภาระร่วมงานเลี้ยงที่ปรึกษาส่วนตัวตามไปสมทบด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ฉายให้เห็นภาพ "พระเอก" ของ "สุวิทย์" ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นเขากลายเป็น "ตัวตลกการเมือง" ทันที เพราะนอกจากจะไม่สามารถรักษาเก้าอี้ รมต.ได้แล้ว ยังส่อเค้าว่าจะรักษาเก้าอี้หัวหน้าพรรคไม่ได้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือเบื้องหลังในวันที่ "สุวิทย์" ถูกปฏิวัติ!!!
***ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11100 , หน้า 11