กองทัพประเมินสถานการณ์ไม่สู้ดี คาดหลุมพรางกัมพูชาหวังผลเจรจาไม่สำเร็จ เข้าเงื่อนไขดันสู่ยูเอ็นฯ มีฝรั่งเศสหนุนหลัง แก้เกมใช้มาตรการ 7 ข้อต่อรอง ยืนกรานบันทึกช่วยจำปี 2543 สู้ ทหาร 'ไทย-เขมร' ยังคุยกันดี โฆษกกัมพูชาติปี๊บอีกไทยล้ำแดน
ผบ.สส.ส่งข้อมูลพร้อมถกเขมร
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวว่า ได้ส่งข้อมูลทางทหารให้แก่คณะที่จะไปเจรจากับกัมพูชาในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้แล้ว ในส่วนของกองทัพจะส่ง พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร และ พล.ท.แดน มีชูอรรถ เจ้ากรมแผนที่ทหาร ร่วมไปด้วย ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลที่จะเข้าร่วมเจรจาทั้งหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ควรจะให้กรณีเขาพระวิหารเป็นวาระแห่งชาติหรือไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ถือเป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว แต่เราลืมๆ กันไป
พล.อ.บุญสร้างยังกล่าวถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ ว่า พอคุ้นเคยกัน นายเตชเป็นคนดี ส่วนจะเหมาะตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศเพื่อไปเจรจากับกัมพูชากรณีข้อพิพาทเขาพระวิหารหรือไม่ ไม่ขอแสดงความคิดเห็น
กองทัพชี้ระวัง 'หลุมพราง' เขมร
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางกองทัพเป็นห่วงในการประชุมกับกัมพูชาในวันที่ 28 กรกฎาคมอย่างมาก เนื่องจากนายเตชเพิ่งเข้ารับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ อาจยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ จึงมีการประชุมร่วมกันระหว่างนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อเวลา 20.00-23.00 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อสรุปข้อมูลและปัญหาให้นายเตชและคณะ ซึ่งที่ประชุมมีมาตรการ 6-7 ข้อในการเจรจากับทางคณะของกัมพูชาที่เสียมเรียบ โดยเฉพาะการยืนยันตามบันทึกช่วยจำ (เอ็มโอยู) ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองฝ่ายเข้าไปยังพื้นที่ที่ยังมิได้มีการปักปันเขตแดน
แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพเปิดเผยว่า ในการประชุมมีการตั้งข้อสังเกตว่าทางกัมพูชาไม่ยอมใช้ชุดการเจรจาของ พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา เพราะถูกมองว่าเป็นสายพิราบ การเจรจามักเอื้อเฟื้อต่อรัฐบาลไทย โดยเฉพาะหลังจากเป็นประธานฝ่ายกัมพูชาประชุมนอกรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยและกัมพูชา (จีบีซี) จ.สระแก้วที่เพิ่งผ่านมา จึงเปลี่ยนมาเป็นชุดของนายฮอ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา และนายวา กิม ฮอง รัฐมนตรีอาวุโส ที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา ซึ่งทั้งสองเป็นสายเหยี่ยว ทำให้ขณะนี้ พล.อ.เตีย บัน รู้สึกอึดอัดตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เนื่องจากชุดของนายฮอ นัม ฮง ต้องการเร่งยุติปัญหาให้เร็วที่สุด และมีท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมลดราวาศอก
'มีการประเมินกันว่าการประชุมวันที่ 28 กรกฎาคม แม้ทางไทยจะมีความพร้อมแต่สถานการณ์ก็ไม่สู้ดีนัก เพราะเชื่อว่าผลการเจรจาจะเป็นเพียงพิธีการตามที่ทางรัฐบาลกัมพูชาต้องการเท่านั้น แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เพื่อจะให้เข้าเงื่อนไขของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ในการผลักดันปัญหาพื้นที่เขาพระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชาเข้าสู่ที่ประชุมยูเอ็นเอสซี ซึ่งมีฝรั่งเศสคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง จึงเป็นหลุมพรางของกัมพูชา แต่ทางการไทยก็เตรียมแก้ไว้แล้ว' แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพระบุ
รองมท.ภ.2 ห่วงทะเลาะกันเอง
ด้าน พล.ต.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงสถานการณ์บริเวณตามแนวชายแดนไทย กัมพูชาในขณะนี้ ว่า ทหารที่อยู่ในพื้นที่ต่างมีขวัญกำลังใจที่ดี พร้อมปฏิบัติภารกิจตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ได้รับคำสั่งว่าต้องไม่ให้มีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้น และพยายามให้ดำรงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชายังดีอยู่ มีการพูดคุยไปมาหาสู่กันเหมือนพี่น้อง จึงไม่น่าจะนำไปสู่ความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งสองฝ่ายมีนโยบายห้ามนำเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์เข้าไปในพื้นที่เด็ดขาด โดยเฉพาะฝ่ายไทยมีการตรวจค้นอย่างเข้มงวด ฝ่ายกัมพูชาก็เช่นกัน
'ทั้งนี้ หากเป็นเวลากลางคืน มีข้อตกลงกันว่าจะต้องอยู่ในแต่ละแนว โดยไม่มีการเคลื่อนไหวเด็ดขาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะกัมพูชาคิดว่าพื้นที่นี้เป็นของกัมพูชา ไทยก็บอกว่า เป็นของไทย ดังนั้น ความรู้สึกที่ได้รับหรือคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่'
เมื่อถามว่า ทางกัมพูชาบอกกับนานาชาติว่ามีการเพิ่มกำลังทหารของไทยตรึงตามแนวชายแดน พล.ต.วีร์วลิต กล่าวว่า ไม่จริง ไม่ได้มีการเพิ่มกำลังแต่จะมีการปรับเปลี่ยนกำลังที่อ่อนล้า หรือเจ็บป่วยบ้าง แต่กำลังยังมีเท่าเดิม ส่วนจุดยืนของการถอนกำลังนั้น พล.ต.วีร์วลิตกล่าวว่า ' ตอนนี้ต้องฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด และต้องรักษาแผ่นดินของเราไว้ แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ เรื่องความสามัคคีของคนในชาติ ทหารเสียสละเข้าไปอยู่ในพื้นที่เพื่อรักษาแผ่นดิน อยากทำหน้าที่ให้เต็มที่ แต่ประชาชนคนไทยให้กลับมาสู่ความรักสามัคคี อย่าแตกแยก เพราะจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับฝ่ายตรงข้าม จะทำให้เราเสียเปรียบ ยิ่งมีข่าวทะเลาะกัน ภาพที่ออกไป จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้ามมากกว่าฝ่ายเรา'
ตั้งศูนย์เขาพระวิหารให้ข้อมูลสื่อถูกต้อง
ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.วีร์วลิตเชิญสื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์จากส่วนกลางและท้องถิ่นเข้าร่วมรับฟังการจัดตั้งที่ทำการประชาสัมพันธ์และประสานข้อมูลข่าวสารกองทัพภาคที่ 2 จ.ศรีสะเกษ โดยใช้ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นที่ทำการ
พล.ต.วีร์วลิตกล่าวว่า วัตถุประสงค์สำคัญคือให้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยถูกต้องทันต่อเหตุการณ์ สร้างความเข้าใจและนำไปสู่การขจัดการเข้าใจผิดใดๆ ที่อาจเป็นเงื่อนไขก่อให้เกิดความรุนแรงระหว่างประเทศได้ และเพื่อเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้กับสื่อมวลชน เพื่อจะได้นำไปเผยแพร่ แต่ขณะนี้บางอย่างสื่อไม่สามารถเข้าไปเห็นไปทราบในข้อเท็จจริงได้ ฉะนั้น เพื่อเป็นการนำข้อมูลข่าวสารในสิ่งที่ถูกต้องออกมาก็จะมีการประสานตรงนี้ และจะพาขึ้นไปดูในกรอบที่พาไปได้
จากนั้น พ.ท.สาธิต จตุวงศ์ ผู้บังคับหน่วยตรวจค้นทุ่นระเบิดหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ด้านมนุษยธรรมที่ 3 นำสื่อมวลชนทุกแขนงเดินทางเท้าเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร เพื่อสังเกตการณ์เก็บกู้ทุ่นระเบิดของหน่วย ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารพื้นที่ ภูมะเขือ พร้อมสาธิตขั้นตอนการตรวจหาทุ่นระเบิด และการเก็บกู้ในพื้นที่ที่มีการปฏิบัติงานจริง
ปิดอุทยานฯเขาพระวิหารไม่มีกำหนด
ขณะที่ นายวิชาญ ทวิชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รักษาการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมอุทยานฯมีคำสั่งปิดอุทยานแห่งชาติฯเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะคลี่คลายและกลับคืนสู่สภาวะปกติ เนื่องจากพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ของสองประเทศมีการวางกำลังทหารตรึงรอบจุด โดยทางกองทัพบกภาค 2 ยังขอใช้พื้นที่ในเขตอุทยานฯด้วย อาจเกิดความไม่ปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว ทางอุทยานฯ และขอเตือนนักท่องเที่ยวอย่าฝ่าฝืนเข้าไปในพื้นที่
สื่อชี้เขมรสนพระวิหารกว่าเลือกตั้ง
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ กัมพูชาว่า แม้ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่จะกระตือรือร้นที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ แต่ดูเหมือนว่าการเลือกตั้งจะยังได้รับความสนใจเป็นเรื่องรองจากกรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่คนกัมพูชาให้ความสนใจสูงสุดในขณะนี้ เพราะประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหวที่ปลุกกระแสรักชาติขึ้นในหมู่ประชาชน และแม้รัฐบาลจะไม่ได้หยิบยกประเด็นปราสาทพระวิหารมาใช้ในการหาเสียง แต่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเชื่อว่า ชาวกัมพูชาทุกคนให้การสนับสนุนรัฐบาลเต็มที่เพราะเป็นเพียงสถาบันเดียวที่จะสามารถหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าวกับรัฐบาลไทยได้ ซึ่งนั่นหมายถึงคะแนนเสียงที่สมเด็จฯฮุน เซน จะได้เพิ่มมากขึ้นในการเลือกตั้ง ด้านพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากล่าวหาพรรคซีพีพีว่าหาประโยชน์จากประเด็นปราสาทพระวิหารเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะทางการเมืองซึ่งรัฐบาลปฏิเสธ
โฆษกกัมพูชาติปี๊บอีกไทยล้ำแดน
วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายเขียว กันนะริด โฆษกรัฐบาลกัมพูชาว่า ความตึงเครียดระหว่างทหารของกัมพูชา-ไทยที่พื้นที่ใกล้เคียงปราสาทพระวิหารยังคงเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับย้ำว่าทหารไทยได้รุกรานดินแดนกัมพูชา พร้อมกับระบุว่าการพบกันของรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองคือการแสดงความตั้งใจทางการเมืองที่จะหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับทวิภาคี
'เราจะไม่อนุญาตให้ไทยอยู่ในดินแดนของกัมพูชาต่อไป เราจะไม่อดทนต่อสิ่งนี้เพราะไทยรุกล้ำและต้องการยึดครองดินแดนกัมพูชา แต่เราจะต้องพยายามใช้กระบวนการทางกฎหมายก่อน เรามีอาวุธมากมาย แต่เราไม่ต้องการละเมิดกติกาของอาเซียน และเราหวังว่าจะไม่ต้องไปถึงจุดที่ต้องต่อสู้กัน' นายเขียวกล่าว
ทหาร 'ไทย-เขมร' ยังคุยกันดี
รายงานข่าวระบุด้วยว่า พล.อ.เตีย บัน รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพ เดินทางไปยังจุดที่ทหารสองฝ่ายตรึงกำลังเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา พล.อ.เตีย บัน ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องการบอกกับกองกำลังกัมพูชาให้ใช้ความอดทน ต้องไม่เริ่มการใช้ความรุนแรงใดๆ ทั้งยังบอกด้วยว่า ความตึงเครียดเล็กน้อยก็ได้รับการบรรเทาลงแล้ว ทั้งนี้ มีรายงานว่า กัมพูชาตรึงกำลังทหารและตำรวจราว 1,700 นายรอบบริเวณปราสาทพระวิหาร ขณะที่กองกำลังอีกมากตลอดแนวชายแดนได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมในระดับสูง แม้ทหารกัมพูชาและไทยในพื้นที่ดังกล่าวต่างเตรียมความพร้อมในการสู้รบ แต่ทหารของสองฝ่ายก็ยังพูดคุยกันสนุกสนาน ทหารกัมพูชาถึงกับแนะนำทหารไทยว่าขุดสนามเพลาะไม่ลึกพออีกด้วย