นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าววันนี้ (17 ก.ค.) กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลายตำแหน่ง
นายกฯ และแกนนำพรรคพลังประชาชนบอกมาตลอดว่า ไม่มีเรื่องโควตา แต่รู้สึกแปลกใจว่า ในวันที่รัฐบาลชุดนี้ เข้ามาบริหารประเทศใหม่ๆ นายกฯ เคยบอกว่า ไม่มีอำนาจในการจัดสรรจึงได้คณะรัฐมนตรีขี้เหร่ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่า นายกฯ และคณะรัฐมนตรีควรจะลาออกทั้งคณะแล้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยเชื่อว่า น่าจะเกิดความสง่างามมากกว่าเพื่อไม่ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่คณะรัฐมนตรีชุดนี้ กระทำผิดรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ได้อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพราะเห็นว่า แม้ลาออกแล้วตั้งรัฐบาลใหม่ก็จะยังเป็นชุดเดิมและพรรคฯ ไม่คิดว่าจะมีใครปันใจแยกตัวมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์
สำหรับกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชาชน (พปช.) ยื่นถอดถอน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
กรณีถือครองหุ้นในบริษัทที่มีสัมปทานกับรัฐ นายเทพไท กล่าวว่า เป็นการดำเนินการเพื่อต้องการสร้างสถานการณ์กวนน้ำให้ขุ่นมากกว่าที่จะหวังผลการถอดถอนจริง อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูส่วนใหญ่หุ้นที่ถือครองเป็นหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคิดว่า ไม่น่าเข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 265 วรรค 2 ที่จะเป็นความผิดได้
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า วันนี้ มีกระแสต่อต้านจากประชาชนกรณีที่รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวาง ที่รัฐบาลและพรรคพลังประชาชนควรรับฟัง
รวมทั้งไม่ควรอ้างข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ โดยไม่เอาผลสรุปการ ศึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหาการใช้รัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร มาใช้ สำหรับการปรับลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคฯ นั้น จำเป็นต้องปรับโครงสร้างของพรรคฯ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่เห็นว่า ดีกว่าการไปแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด