นายทิวา เงินยวง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อศึกษาปัญหาและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 กล่าวถึงพรรคพลังประชาชนจะผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูณปี 2550 ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ ไม่กระทบการทำงานของ กมธ.วิสามัญ เพราะถือว่าเป็นสิทธินายกรัฐมนตรี หรือ ส.ส.ที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ การทำงาน กมธ.ในช่วง 4 สัปดาห์ที่เหลือนี้ อาจไม่ทันต่อการศึกษารัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ดังนั้น อาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน จากเดิมที่กำหนดให้คณะอนุกรรมาธิการทั้ง 5 คณะไปศึกษาปัญหาภาพรวมของรัฐธรรมนูญในแต่ละหมวด ก็เปลี่ยนมาเป็นศึกษาเรื่องที่เป็นจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญ 2550 ในขณะนี้ อาทิ มาตรา 265 และมาตรา 266 ที่ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ ส.ส. และมาตรา 237 (2) ที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรค จากนั้นค่อยมาเสนอต่อทีประชุม กมธ.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย
''ที่นายกฯให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ กมธ. เรายังทำงานตามปกติ ไม่มีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ขอยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา ตามที่นายกฯกล่าวอ้างแต่อย่างใด'' นายทิวากล่าว
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า พรรคชาติไทยเห็นชอบกับแนวทางการศึกษาของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการใช้การปฏิบัติและแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ดังนั้น เราคงต้องให้เกียรติ กมธ.ทำงานไปก่อน คงไม่ต้องรีบร้อน